Peaky Blinders SS 1เป็นซีรี่ย์ที่เท่มากกกกก เท่แบบวัวตายควายล้ม ไม่ห่วงใยหัวใจกันเลย คลั่งไคล้ในความเท่นี้แบบ 300% เหมือนได้ดูหนังคาวบอยเท่ๆ ซักเรื่องแต่เปลี่ยนโลเคชั่นมาเป็นในอังกฤษช่วงปี 20 เท่านั้นเองปกติเป็นคนไม่ค่อยชอบดูซีรี่ย์เพราะขี้เกียจตาม แต่สำหรับ Peaky Blinders มีแค่ซีซั้นละ6 ตอนเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงก็คือสามารถดูรวดเดียวครบหมดเลยได้แหละ เพราะหยุดไม่อยู่55555 เรื้อเรื่องน่าสนใจมากๆ ด้วยความที่มันสั้น เนื้อหาเลยค่อนข้างกระชับ เข้ารูปอย่างรวดเร็ว ไม่มีซีนอ้อยอิ่งเลย ใจเต้นตูมตามได้ตลอด 6 ชั่วโมง (ตอนนึงแค่ชั่วโมงเดียวเอง ไม่ขอบตาดำค่ะ5555555)สำหรับเรื่องย่อของซีรี่ย์ ก็จะเล่าถึงเรื่องราวของครอบครัวตระกูลเชลบี้ซึ่งเป็นผู้มีอิทธิพลในเมือง เรียกได้ว่าเป็นอันธพาลครองเมืองแห่งอังกฤษเลยทีเดียว ตลอดทั้ง 6 ตอนเราจะได้พบเจอกับปัญหาหลายๆ อย่างของอิทธิพลที่ตระกูลเชลบี้ได้รับ และวิธีการแก้ปัญหาสุดเจ๋งทั้งหลายตอนแรกอาจจะยังสับสนตัวละครอยู่บ้าง แต่ผ่านไปแค่ ep แรกเท่านั้นแหละ ความมันส์จะบังเกิด พอเราได้พอจับเนื้อเรื่องของหนังคร่าวๆ ได้ เราจะได้พบเจอกับกลยุทธ์ของการเป็นเจ้าถิ่นผู้ปกครองเมืองและหัวหน้าครอบครัวที่มีหน้าที่ปกป้องดูแลพี่น้องตระกูลเชลบี้ อย่าง ‘โธมัส เชลบี้’ เราจะได้เห็นสกิลความ ‘เก๋า’ ที่คนๆ นึงพึงจะมี และตัวซีรี่ย์เองก็ทำออกมาได้เท่ถึงใจมากๆ เราชอบที่ซีรี่ย์มันตีแผ่ชีวิตของคนๆ นึงที่ต้องเป็นผู้นำมากๆ ต้องคุมคนเยอะๆ มีอิทธิพลสูงๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันก็ตามมาด้วยความรับผิดชอบอันหนักอึ้ง ทั้งในแง่ของกลุ่มแก๊งคนมีอำนาจอื่นๆ ตำรวจ ของผิดกฏหมาย ธุรกิจ แล้วยังมีปัญหาครอบครัวและปัญหาหัวใจที่ต้องคอยควบคุมไม่ให้กระทบต่อหน้าที่ที่พึงกระทำ ตัวละครโธมัส เชลบี้จึงจำเป็นต้องดูนิ่งสุขุม ดูน่าเคารพนับถือ น่ายำเกรง และก็ต้องฉลาด มีไหวพริบดี กล้าได้กล้าเสีย คิดการใหญ่ มองการไกล แต่ก็ต้องเป็นที่พึ่งให้ครอบครัวได้ คาแรกเตอร์รวมๆ ออกมาเลยทำให้ Cillian Murphy เป็นตัวละครที่เท่ได้ใจทั้งชายและหญิงทั่วราชอาณาจักร คือเราไม่ได้อวยในความหล่อของเขาเลยนะ แต่อินเนอร์ความเท่นี่ไม่ไหวจริง และไม่ใช่แค่ตัวโธมัสแต่พี่น้องบ้านเชลบี้ทั้งตระกูลคือแหล่งรวมความเท่ชัดๆ ขนาดน้องเล็กสุดในตระกูลมันยังเท่อย่าบอกใครเลยทุกคนอีกสิ่งที่อดชมไม่ได้คืองานโปรดักชั่น สวยดีงามมากๆ นี่คงเป็นอีกสิ่งที่ดึงมู้ดอันธพาลผู้มีอำนาจออกมาได้ดี โลเคชั่นสวย เครื่องแต่งกายเริด หนังทั้งเรื่องมันสามารถคุมโทนให้ได้กลิ่นอายอังกฤษยุค 20 จ๋าอย่างชัดเจน รวมถึงสำเนียงของหนังแสดงที่อยากจะบอกว่าแซ่บมาก ฟังยากไปนิดแต่มันมีเสน่ห์จนถึงขั้นที่เราแบบอยากเอาคนพวกนี้มาพูดpodcast ในฟัง55555 เพราะม้ากกก ฟังแล้วมันได้มู้ดกร้าวใจสุดๆ เสริมความเท่ให้หนังเข้าไปอีก อย่างคำว่า ‘ฟัค’ เขาก็จะไม่ได้พูดชัดๆ มันจะออกมาเป็นคำประมาณ ‘ฟูค’ อะไรแบบนั้นแทน ซึ่งเราว่ามันโคตรจะมีเสน่ห์เลยทุกคน แถมยังได้สำนวนดีๆ เสริมความเป็นผู้ดีอังกฤษได้อีกเพียบ สาย British คือสู่ขิตไปเลยสิ่งสุดท้ายที่อยากพูดถึงคือซาวด์แทร็ก อยากจะบอกว่าไม่เคยดูหนังเรื่องไหนที่พอมีเพลงประกอบขึ้นแล้วทำให้เราอมยิ้มพร้อมโยกหัวตามได้แบบนี้555555 คือเพลงมันได้มาก มันได้อารมณ์ของความเท่ ความเจ้าเล่ห์ แฝงความกวนทีนเข้ามานิดๆ เป็นซาวด์แทร็กที่เหมาะกับ peak blinders มากที่สุดในโลก สังเกตหลายรอบแล้วว่าเพลงมันจะขึ้นตอนที่เป็นมู้ดที่ใช่เสมอเลย โคตรเจ๋งสรุปแล้วก็คือไม่มีตรงไหนที่ติเลยใช่มั้ย55555 อยากให้ได้ลองดูแล้วสัมผัสถึงความเท่นี้จริงๆ ไม่รู้จะพูดยังไงดี เราชอบทุกอย่างของทั้ง 6 ep เลย ดูจบแล้วอยากใส่สูท คว้าเสื้อโค้ท ใส่รองเท้าหนัง คาบบุหรี่ ถือปืนแล้วเท่แบบนั้นบ้าง คิดว่าน่าจะดูจนจบ 5 season ได้ไม่ยาก คะแนน 9/10Just so into everything ติดตามรีวิวอื่นๆ ได้ที่ https://m.facebook.com/justsointoeverything/ " ดูจบแล้วมาคุยกันหน่อย "- เราชอบเวลาโธมัสหรือใครซักคนเรียกคนในตระกูลว่า ‘เชลบี้’ รู้สึกอบอุ่นใจอ่ะ แบบไอ้บ้านนี้ต่อให้มันเป็นอันธพาลมาจากไหนแต่มันก็รักคนในครอบครัวนะเว้ย อย่ามาทำอะไรพี่น้องตู อะไรทำนองนั้น เหมือนที่โธมัสพูดกับสารวัตรว่าต่อให้ไม่มีใคร อ้างว้างแค่ไหน แค่อย่างน้อยเขาก็ยังเหลือครอบครัวอยู่ข้างๆ เสมอ ’don’t f*ck with Peaky Blinders!’- มีโควทหลายอันเลยที่ชอบ อย่าง ‘หัวใจผมมันแตกสลายไปนานแล้ว’ หรือ ‘หากเชลบี้ตายก็ให้ฝังเราไว้เคียงข้างกัน’ แต่ที่รู้สึกว่าทัชใจมากๆ คืออันนี้ ‘ถึงคุณจะเป็นคนเลว แต่คุณก็เป็นคนเลวของพวกเรานะ’ คือแบบ เอ้อ น้ำตามา55555- เกรซสวยมาก เข้าใจเลยว่าทำไมทอมมี่ถึงตกหลุมรัก เครื่องหน้าเป๊ะ หุ่นแซ่บ มีไหวพริบ กล้าได้กล้าเสีย คือเป็นผู้หญิงในอุดมคติเลยจริงๆ- คนตระกูลเชลบี้มันเท่หมดทุกคนเลยทั้งหญิงชาย ฝั่งผู้ชายก็เท่สมน้ำสมเนื้อ ส่วนฝ่ายหญิง นอกจากเอด้าที่ออกมาไม่มากแต่ก็น่าจดจำ ก็คงจะมีป้าพอลลี่ที่ทำให้เราเข้าใจว่าทำไมทุกองค์กรถึงต้องมีผู้หญิงอยู่ด้วย ไม่ว่าจะเป็นอันธพาลใต้ดินโคตรโหดแค่ไหน ผู้หญิงเป็นสิ่งสำคัญที่จะบาลานซ์อารมณ์ของคนในองค์กรได้จริงๆ ป้าโพลถือเป็นตัวละครสำคัญต่อโธมัสและตระกูลเชลบี้มานักต่อนักแล้ว หลงใหลตัวละครนี้มาก เป็นอีกหนึ่งตัวละครหญิงที่ชอบมาก ไม่ต้องลงแรงอะไร แค่ใช้สมองและวาจาในการสนับสนุนองค์กร คือเริด!- ep 6 ตอนที่ตระกูลเชลบี้ต้องไปดวลปืนกับคิมเบอร์คือเท่ลืม เป็นการปิดซีซั่นที่เจ๋งที่สุดอีกเรื่อง อะไรมันจะต้องเท่ขนาดนั้นวะ ตั้งแต่ตอนกล่าวสุนทรพจน์ให้กำลังใจ ‘ถ้าตาย ศพเราจะฝังอยู่ข้างกัน’ ไปถึงมีเวลาสิบนาทีเตรียมตัว ไปกินเหล้ากับเจ้าของผับ โผล่มาดวลปืนกัน ซีนที่เชลบี้เดินถือปืนออกมาครบแก็งค์คือขนลุกมาก คือโดนบิ้วมันทุกทางทั้งภาพ ทั้งเสียง ซีนนั้นคือชอบจอห์นนี่แบกปืนมาก อย่างเฟี้ยว เป็นซีนในความทรงจำเลย สุดยอด!- อีกตัวละครที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือเฟรดดี้ โธรน เป็นอีกหนึ่ฝคาแรกเตอร์ที่ทั้งหล่อ ทั้งเท่ ทั้งน่ารัก รักลูกรักเมียแต่ก็ต้องคีพคูล คือดีมาก - สุดท้าย จบซีซั่นได้ใจร้ายมาก เกรซของเราจะเป็นยังไง อดใจดูซีซั่นต่อไปไม่ไหวแล้วค่ะ! ขอบคุณภาพประกอบจาก official teaser , IMDB และ BBC Studios