ไนกี้ อัลฟ่าฟลาย เน็กซ์% คือรองเท้าที่ถูกใช้ทำลายสถิติการวิ่งของมนุษยชาติ ในการวิ่งมาราธอน ระยะทาง 42.195 กิโลเมตร ในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง การวิ่งครั้งประวัติศาสตร์ที่เกิดขึ้นนั้น เป็นผลงานครั้งสำคัญระหว่าง "ไนกี้" และ "เอลีอุด คิปโชเก้" นักวิ่งชื่อดังชาวเคนยา ปรากฎต่อสายตาของสักขีพยานทั่วโลก ผ่านการถ่ายทอดสด กลายเป็นข่าวดัง เพราะการวิ่งระยะทางนั้นในเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมงเป็นที่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ของโลก นอกจากความสามารถของ "คิปโชเก้" แล้ว รองเท้าที่เขาใช้ในวันนั้นเป็นที่จับตามองไม่แพ้กัน ในฐานะอาวุธลับที่ไนกี้ไม่เปิดเผยข้อมูลใดๆ เลย แต่ในที่สุดวันนี้ "ไนกี้ อัลฟ่าฟลาย" ได้จำหน่ายไปแล้วทั่วโลกรวมถึงในประเทศไทย ผ่านทางเว็บไซต์ Nike.com แต่การได้มาครอบครองก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่ใช่แค่เรื่องราคา (9,400 บาท) แต่เป็นเพราะจำนวนที่จำหน่ายที่จำกัด ใครในประเทศไทยที่ได้รองเท้าคู่นี้ก่อนใครจึงถือว่า "ไม่ธรรมดา" อะไรที่พิเศษ? - "Air Pod" วัสดุคล้ายๆ ขนแปรงเป็นซี่ๆ อยู่ในปุ่มใสที่พื้นรองเท้า มี 2 ชิ้น ไนกี้เรียกชื่อมันว่า Nike Zoom Air Pod สิ่งนี้เตะตาที่สุด ไนกี้บอกว่า Air Pod ช่วยคืนพลังงานให้กับนักวิ่ง ส่งคืนพลังงานกลับให้นักวิ่งได้มากกว่า Next% - "Foam ZoomX" ไนกี้พัฒนาโฟมสำหรับพื้นรองเท้านี้มาอย่างต่อเนื่อง เป็นเทคโนโลยีที่เคยถูกใช้มากับรองเท้าวิ่งหลายรุ่น เพื่อช่วยลดแรงกระแทก ที่จะทำให้เด้งมากขึ้นในตอนวิ่ง แต่มีน้ำหนักเบามาก และสำหรับอัลฟ่าฟลายโฟมนี้ถูกเพิ่มมากกว่า รุ่น Next% - "AtomKnit" หน้าผ้าแบบใหม่ที่บางยิ่งกว่าเดิม เหตุผลที่ไนกี้ใช้หน้าผ้านี้กับอัลฟ่าฟลายเนื่องจากว่า การเพิ่มวัสดุรับแรงกระแทกต่างๆ ที่พื้นรองเท้า ทำให้อัลฟ่าฟลายมีน้ำหนักมากขึ้น ดังนั้นจึงพัฒนาหน้าผ้าให้บางลงยิ่งกว่าเดิมเพื่อความเบา และมีข้อดีเสริมคือการระบายอากาศที่ดีขึ้น และการดูดซับน้ำที่น้อยลง - "Carbon Fiber Plate" พื้นรองเท้าเดิมที่ทุกคนประทับใจ แต่ถูกเพิ่มความยาวมากขึ้น และปรับขนาดความหนาให้เท่ากันทุกไซส์ โฟมคาร์บอนนี้ ช่วยให้สมดุลมากขึ้น ดีด เด้ง ทำให้หน้าเท้าแข็งขึ้นซึ่งช่วยเรื่องความพุ่งทะยาน ความรู้สึกนักวิ่งมืออาชีพเมื่อได้ทดสอบจริง : เสฏฐวุฒิ ธนาเอกนิธิวัฒน์ (นนท์) : นักกีฬาในสังกัด Nike Thailand และ อ้วยอันรันเนอร์ ทดสอบระยะ 1K ในลู่วิ่งพื้นยางกลางแจ้ง ความยาวรอบละ 200 เมตร ทำเวลาได้ 3.11 นาที นนท์: "รู้สึกแตกต่างจากรองเท้าแข่งของไนกี้รุ่นก่อนๆ มาก เพราะมีแรงส่งมากขึ้นจากหน้าเท้าที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะ Air Pod ที่ทำให้ลงหน้าเท้าได้มากขึ้น ดีกว่าเดิมมาก พุ่งตัวได้ไกลขึ้น ก้าวเท้าได้ยาวขึ้น แต่สำหรับสภาพสนามที่ใช้ทดสอบค่อนข้างสั้น จะต้องชะลอเล็กน้อยตอนโค้ง หากสนามยาวและตรงจะต้องทำเวลาได้ดีกว่านี้แน่นอน" ส่วนนักวิ่งหน้าใหม่หรือหน้าเก่าที่อยากทดสอบนนท์แนะนำว่า "ไม่ว่ารองเท้าจะดีหรือมีเทคโนโลยีทันสมัยแค่ไหน แต่ไม่ฝึกซ้อม ก็ไม่สามารถทำสถิติที่ดีได้ แต่ถ้าซ้อมสม่ำเสมอและมีวินัยควบคู่กันไป "อัลฟ่าฟลาย" จะทำให้เราวิ่งได้ดีกว่าที่ผ่านมาแน่นอน Special Thank: Nike Alphafly Next%: โม อ้วยอันรันเนอร์ Model and Runner: เสฏฐวุฒิ ธนาเอกนิธิวัฒน์ Story and Photo: Sandtar