"เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย" 11 มกราคมที่จะถึงนี้ก็ตรงกับวันเด็กแห่งชาติเหมือนเช่นทุกปีนะคะ ซึ่งคำขวัญวันเด็กปี 2020 นี้ก็คือ "เด็กไทยยุคใหม่ รู้รักสามัคคี รู้หน้าที่พลเมืองไทย" วันนี้เราเลยจะขอมานำเสนอการ์ตูน ที่สอดแทรกข้อคิดเตือนใจที่เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูดี เพราะแม้แต่การ์ตูน ผู้กำกับและคนเขียนบทก็ตั้งใจที่จะร้อยเรียงเรื่องราวที่สะท้อนถึงปัจจัยหลาย ๆ อย่างในสังคม ไม่ว่าจะเป็นความสามัคคี ความเสียสละที่จะทำเพื่อส่วนรวม การมีเมตตาต่อผู้อื่น การช่วยเหลือกันและกัน ความรักของครอบครัว รวมทั้งการแบ่งปันความรักนั้นต่อผู้อื่น เราไม่รอช้าค่ะ ลุยเลย! Duck Duck Goose ดั๊ก ดั๊ก กู๊ส เมื่อความหนาวคืบคลานเข้ามา ก็ถึงเวลาที่พวกห่านจะต้องอพยพไปที่ แฮฟเวน ภูเขาน้ำพุร้อนที่มีพื้นที่อบอุ่นพอที่จะให้อยู่อาศัยในฤดูหนาว พวกห่านจะมีคติสอนใจคือ นกที่เหมือนกันย่อมอพยพไปด้วยกัน แต่กระนั้น เผ็ง ห่านตัวผู้ ผู้ไม่ชอบทำตามกฎและรักอิสระก็หลุดออกจากการอพยพครั้งนี้จนได้ เผ็งบินชนเข้ากับฝูงลูกเป็ดน้อยจำนวนมาก ทำให้ ชิกับเชา ลูกเป็ด 2 พี่น้องพลัดหลงออกจากฝูงในขณะที่กำลังเดินทางไปยังหุบเขาพึงใจ คืนนั้นลูกเป็ดทั้งสองเจอกับเผ็ง ตัวการใหญ่ที่ทำให้อะไร ๆ ยากขึ้น แม้เผ็งจะไม่อยากรับผิดชอบดูแลลูกเป็ดเท่าไหร่นัก แต่เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นกับปีกของเผ็ง เขาไม่สามารถบินได้จึงกลับไปรับชิและเชาเพื่อหวังจะมีเพื่อนเดินทางในครั้งนี้ด้วย ตลอดการเดินทางเผ็งยังได้เจอสัตว์อีกนานาชนิดไม่ว่าจะเป็นเต่า กบ นกกระยาง หมู กระรอก แต่เขาดันมีปัญหากับ แมวโรคจิต ซะงั้น แมว 9 ชีวิตติดตามทั้ง 3 ตัวอย่างไม่ลดละ หวังจะล้างแค้นและกินชิกับเชาเป็นอาหาร การผจญภัยเกิดขึ้นเป็นระยะ ๆ ทั้งในท้องนา ที่พวกเขากำลังสนุกด้วยกันอยู่นั้น พายุก็พัดพาให้ฝนตกลงมาอย่างหนัก สายฟ้าทำให้ห่านหนุ่มและลูกเป็ดทั้งสองกลัวมาก แต่พวกเขาก็เจอกับ เอ็ดน่า แม่ไก่ที่พักในทุ่งนานั้น เอ็ดน่ายินดีต้อนรับและให้ที่พักในคืนนี้แก่พวกเขา เห็นความมีเมตตาที่เหล่าสัตว์แบ่งปันให้กันตลอดทั้งเรื่อง แต่เรื่องก็ไม่ได้จบง่ายอย่างที่คิด เผ็ง ชิและเชาได้แยกทางกัน พวกเขาต่างไปตามทางของตัวเอง ชิกับเชากลับเข้าฝูงเพื่อไปหุบเขาพึงใจ แต่เมื่อเดินทางมาถึง มันไม่ใช่หุบเขาที่พวกเขาจะอยู่อย่างมีความสุขไปตลอดกาล จริง ๆ มันคือร้านอาหารจีนที่มีเมนูแนะนำ เป็น เมนูลูกเป็ดย่างอีกต่างหาก เส้นทางอันยาวไกลกำลังทำให้เผ็งเปลี่ยนเป็นคนใหม่ เผ็งเริ่มเป็นผู้ปกครองที่ดีขึ้นและคิดถึงสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมา การเป็นเผ็งตัวเก่า ที่ชอบเอาชนะห่านตัวอื่น ๆ แต่เมื่อเขาได้ในสิ่งที่ต้องการ เขาก็จะไม่เหลือใคร เขาอยากจะแก้ไขตัวเองให้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง เขาไม่อยากจะบินเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว เผ็งตามไปช่วยชิกับเชา เผ็งหวังที่จะพาลูกเป็ดทั้งสองไปมีครอบครัวที่อบอุ่นกับฝูงห่าน แต่หน้าหนาวมาก่อนกำหนด หิมะที่โปรยปรายลงมาทำให้ทุกตัวเหนื่อยล้า ในตอนนั้นเองที่ชิกับเชารู้แล้วว่า เผ็งนั่นแหละคือครอบครัวที่แท้จริงของพวกเขา เรื่องห่าน ๆ สอนให้เราเป็นคนที่การระวังหลังให้กันและกัน ในตอนที่ พวกห่านจะอพยพย้ายถิ่นฐานนั้น พวกมันจะบินในตำแหน่งของตนเอง หากมีตัวไหนไม่ดูแลพิกัดของตนเองก็จะมีผลกระทบต่อตัวอื่น ๆ ในฝูงด้วย สะท้อนว่าเราควรทำหน้าที่ของเรา ทำให้เห็นเรื่องของการเป็นทีมเวิร์ก และบางคนอาจจะคิดว่าการกล่าวคำขอโทษ จะทำให้เราดูอ่อนแอ แต่จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่เลย มันคือการที่เรามีความกล้าอย่างแท้จริง Bee Movie ผึ้งน้อยหัวใจบิ๊ก แบรี่ ผึ้งน้อย ตื่นเต้นกับการเป็นบัณฑิตใหม่เอี่ยมอ่อง แบรี่มีครอบครัวที่อบอุ่นที่จะคอยสนับสนุนเขาอยู่เสมอ เมื่อบัณฑิตผึ้งน้อยทุกตัวจบการศึกษาแล้ว พวกเขาจะต้องเริ่มทำงานที่ ฮันเนกซ์ อินดัสทรีส์ ทันที แต่เมื่อแบรี่รู้ว่าตัวเองสามารถเลือกงานได้แค่งานเดียว และต้องทำงานนั้นทุกวันไปตลอดชีวิต เขาเริ่มจะไม่สนุกซะแล้วสิ วันที่เขาจะต้องเลือกสายงาน เขากลับอยากหนีออกจากรัง แบรี่ได้เจอกับนักล่าน้ำหวาน เขาจึงบินออกนอกรังพร้อมกับนักล่าน้ำหวานกลุ่มนั้น หากแต่กฎสำคัญของการออกนอกรังคือ ห้ามคุยกับมนุษย์เด็ดขาด แบรี่พบกับความรู้สึกอิสระและสนุกกับมัน แต่ไม่ทันตั้งตัวก็เกิดเหตุการณ์ผิดที่ผิดเวลาที่ทำให้เขาคลาดกับฝูงบินนักล่าน้ำหวานและกำลังจะโดยชายคนหนึ่งฆ่า ผู้หญิงคนหนึ่งเข้ามาช่วยแบรี่ได้ทัน เธอชื่อ แวนเนสซ่า แบรี่ทราบซึ้งใจที่เธอช่วยชีวิตเขา เขาเลยอยากจะพูดอะไรบางอย่างกับเธอ แบรี่เป็นผึ้งตัวแรกที่ตัดสินใจพูดกับมนุษย์ หลังจากที่เขาได้เข้าไปบอกขอบคุณแวนเนสซ่าดังที่ใจปรารถนา เขาก็แวะเวียนมาพบกับเธอบ่อยขึ้น ๆ แวนเนสซ่า มีร้านขายดอกไม้ของเธอเอง ในวันหนึ่งเธอและแบรี่ออกไปที่ซุปเปอร์มาเก็ตกัน แต่แบรี่กลับไม่พอใจมาก ที่เขาไปพบกับขวดน้ำผึ้งจำนวนมากตั้งขายอยู่ เขาตามรอยรถบรรทุกที่ขนขวดน้ำผึ้ง จนไปถึง ฮันนี่ฟาร์ม และเขาก็เจอกับผึ้งจำนวนหลายร้อยตัวที่ถูกหลอกให้ทำงานผลิตน้ำผึ้ง แบรี่ต้องการฟ้องคนที่ขโมยน้ำผึ้งไปให้ถึงที่สุด ด้วยความช่วยเหลือของแวนเนสซ่าและ อดัม เพื่อนสนิท เขาชนะการฟ้องจริง ๆ และยึดเอาน้ำผึ้งกลับสู่รังได้สำเร็จ น้ำผึ้งที่มากมายไม่จำเป็นจะต้องผลิตเองอีกต่อไป ทำให้รังผึ้งยกเลิกทุก ๆ ภารกิจ หลังจากการทำงานหนักของผึ้งทุกตัวมาเป็นเวลานาน ผึ้งได้พักผ่อนในที่สุด เวลาผ่านไปสักพักต้นไม้เริ่มซีดเซียว ดอกไม้เหี่ยวแห้งมีผลกระทบต่อทุกชีวิตบนโลกนี้ แวนเนสซ่าต้องปิดร้านดอกไม้เพราะดอกไม้ขาดตลาด เกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ แต่ไม่ใช่แค่ดอกไม้ ผัก ผลไม้ ทุกอย่างต้องการผึ้ง ผึ้งจะต้องกลับมาผสมเกสรอีกครั้ง! ภารกิจนักล่าน้ำผึ้งและโปรยเมล็ดพันธ์พืชดอกไม้จึงเริ่มต้น! Black and Yellow! ผึ้งนั้นรู้จักความสามัคคี ฝูงบินผึ้งมหาศาลบินขึ้นฟ้ามาช่วยเขาผสมเกสรดอกไม้ล็อตสุดท้ายที่มีอยู่ตอนนี้ การ์ตูนเรื่องนี้สร้างความฮึกเหิม ความเป็นน้ำหนึ่งอันเดียวกัน ก่อเกิดความสามัคคี ทำให้เรารู้ว่าทุกคนมีหน้าที่ที่สำคัญของตนเองและเราควรทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ The Croods เดอะ ครู้ดส์ อี๊ป และครอบครัวตระกูลครู้ดส์ มนุษย์ถ้ำยุคหินที่ยังใช้หินมาทำเป็นของใช้ต่าง ๆ ร่างกายห่อหุ้มด้วยหนังสัตว์ มีการสร้างศิลปะบนกำแพงถ้ำด้วยสีที่มาจากธรรมชาติผ่านการเล่านิทาน ในโลกตอนนั้นพวกเขาอยู่กับสัตว์หน้าตาประหลาดก่อนวิวัฒนาการมาเป็นปกติอย่างในปัจจุบันนี้ กรั้ก เป็นตัวแทนของพ่อที่เป็นห่วงลูก ๆ และคนในครอบครัว แต่เขาเป็นคนหัวโบราณประมาณหนึ่ง ได้ตั้งกฎสำคัญไว้คือ หนึ่ง พวกเขาจะหลบอยู่ในถ้ำเพื่อความปลอดภัย สอง สิ่งใหม่เป็นสิ่งไม่ดี ห้ามลองสิ่งใหม่เป็นอันขาด บางครั้งครอบครัวครู้ดส์อยู่ในถ้ำถึง 3 วัน 3 คืน กว่าจะได้ออกไปล่าสัตว์มาเป็นอาหาร พวกเขารอดจากภยันตรายมาได้ทุกครั้ง สมาชิกในครอบครัวทำตามกฎเสมอ แต่พวกเขามีความป่าเถื่อนอยู่ในตัว มักใช้กำลังในการแก้ไขปัญหา สัตว์ต่าง ๆ ในเรื่องนี้มีทั้งน่ารักและน่ากลัว พวกเขามีศัตรูคู่อาฆาตเป็นสัตว์ชนิดหนึ่งตัวใหญ่ยักษ์ หน้าตาคล้ายเสือและดุร้าย คืนหนึ่งอี๊ปหลบออกจากถ้ำด้วยความอยากรู้อยากเห็น อี๊ปเจอกับ กาย เขาสามารถสร้างไฟและทำเป็นคบเพลิงได้ มันทำให้อี๊ปตื่นเต้นเป็นอย่างมาก เธอไม่ต้องรอพระอาทิตย์ขึ้นถึงจะได้เจอแสดงสว่างของอีกวันอีกต่อไปแล้ว กายบอกกับอี๊ปว่าโลกนี้จะถึงกาลอวสาน จะมีแผ่นดินไหว พื้นดินจะแยกจากกัน ละทุกอย่างที่เขาเหยียบอยู่จะหายไป หลังจากแยกกันแล้วแผ่นดินไหวเกิดขึ้นจริงดังที่กายพยากรณ์ไว้ ผนังถ้ำที่อี๊ปอยู่พังทลายลง เบื้องหลังนั้นมีพื้นดินใหม่ที่อุดมสมบูรณ์ มีป่าเขา ดอกไม้และผลไม้ สร้างจินตนาการให้เห็นภาพในยุคดึกดำบรรพ์ได้อย่างดีเยี่ยมและยังทำให้เราเกิดความคิดสร้างสรรค์ขึ้นมาอย่างไม่ขาดสาย อี๊ปและครอบครัวได้มาเจอกับกายอีกครั้ง พวกเขาทั้งหมดต้องเดินทางไปที่ภูเขาลูกที่ไกลที่สุด เพื่อรักษาชีวิตไว้ แผ่นดินไหวทำให้พื้นดินแตกและแยกกันอย่างต่อเนื่อง แม้กรั้กจะไม่ชอบที่คนในครอบครัวของเขาชอบกาย แต่ตอนนี้ก็หมดยุคของการอยู่ในถ้ำแล้ว กฎที่เขาสร้างขึ้นใช้ไม่ได้กับโลกภายนอก กรั้กต้องปรับตัวเหมือนกับคนอื่น ๆ ในครอบครัว เรื่องนี้จะมีตอนหักมุมในตอนท้ายนิดหน่อยค่ะ เราก็คิดว่าอี๊ปจะต้องเสียพ่อไปตลอดกาล แต่ด้วยความโชคดีหรืออย่างไร กรั้กรอดชีวิต แถมยังมีเสือดุร้ายเป็นสัตว์เลี้ยงที่ตอนนี้เชื่องอย่างกับแมวอีกต่างหาก และทำให้เราเห็นว่าการเป็นผู้นำครอบครัวนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย สิ่งที่เคยดีในอดีตอาจจะไม่สามารถนำมาใช้ได้ในปัจจุบัน คนเราจึงควรที่จะรู้จักการปรับตัวให้เข้าสถานการณ์และคนอื่น ๆ อยู่เสมอ และกล้าที่จะคว้าโอกาสที่อยู่ตรงหน้านั้น แล้วเราก็จะพบว่า เราสามารถที่จะประสบความสำเร็จได้ไม่ยากเลย Next Gen เน็กซ์เจน การ์ตูนเรื่องนี้ทำให้นึกถึงภาพยนตร์เรื่อง Wall-E ผสมกับ Big Hero เลยค่ะ มีทั้งการผจญภัยและความรักระหว่างเพื่อนต่างสายพันธุ์ เรื่องนี้เป็นเรื่องของเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เหม การที่เห็นพ่อกับแม่แยกทางกันตั้งแต่เด็ก และการสูญเสียพ่อในเวลาต่อมาทำให้เธอกลายเป็นคนหน้าตาบูดบึ้งและการมีบุคลิกที่ไม่อ่อนหวานเหมือนเด็กผู้หญิงทั่วไป เหมยังโดนเพื่อนที่โรงเรียนล้อเรื่องของพ่อและกลั่นแกล้งเธอ บางครั้งก็โดนทำร้าย หลายฉากที่ทำให้เห็นว่าแม่ของเหมไม่ค่อยสนใจและเอาใจใส่เธอเท่าที่ควร ทำให้เหมรู้สึกเหมือนอยู่ตัวคนเดียว แม่ของเธอหมกมุ่นเรื่องหุ่นยนต์มาก ทุกอย่างที่แม่ของเธอใช้เป็นหุ่นยนต์ แม้กระทั่งหวีหรือแปรงสีฟัน วันหนึ่งเหมกับแม่ไปที่ ไอคิวโรโบติก เพื่อมาดูหุ่นยนต์รุ่นใหม่เจ๋ง ๆ เหมแอบหลบออกจากสายตาของแม่ได้อย่างง่ายดาย และเข้าไปในส่วนของการประดิษฐ์หุ่นยนต์ของ ดร.ไรซ์ ซึ่งกำลังแอบสร้างหุ่นยนต์ตัวหนึ่งอย่างลับ ๆ ด้วยความไม่ตั้งใจ เหม เผลอสร้างความสัมพันธ์ฉันมิตรกับหุ่นยนต์นิรนามตัวนี้ และหุ่นยนต์ตัวนี้เองแอบออกจากห้องปฏิบัติการหวังจะไปตามหาเหม ในขณะนั้น จัสติน พิน ขวัญใจของคนทุกเพศทุกวัย เจ้าของบริษัทไอคิวโรโบติก แจกหุ่นยนต์รุ่นใหม่ที่ชื่อว่า เจนซิกส์ ให้ทุกบ้านแบบฟรี ๆ ดูแล้วเขาจะต้องเป็นผู้ร้ายอย่างแน่นอน ในการ์ตูนเรื่องนี้ทำให้เห็นว่าในยุคของเหม เหมือนเป็นยุคในอนาคต ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นหุ่นยนต์ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นคุณครู รปภ. ตำรวจ หรือพิธีกรรายการ และหุ่นยนต์พวกนี้ก็สามารถพูดได้อีกด้วย ผู้กำกับและคนทำหนังแสดงความรู้สึกของตัวละครออกมาผ่านทำนองเพลงและวิวต่างๆ ของเมือง ภาพวิวเมืองที่เงียบสงบและการใช้สีที่มืดหม่นเหมือนกับใจของเด็กหญิง สะท้อนความเหงาและโดดเดี่ยว น้ำและเงาสะท้อน บ้านเรือน ตึกสูงทำได้เหมือนจริงมากค่ะ มาต่อกันที่ จัสติน ผู้ร้ายในเรื่องนี้ ต้องการจะฆ่าคนบริสุทธิ์จำนวนมากด้วยหุ่นยนต์ที่เขาให้ไป แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น ก่อนอื่นเขาต้องกำจัดเหมและหุ่นยนต์เพื่อนสนิทเสียก่อน เหมกับหุ่นยนต์ตัวนั้นกลายเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน หุ่นยนต์ของเหมมีอุปกรณ์นักฆ่าติดตัวที่จะสามารถกำจัดคนไม่ดีที่ขวางทางออกไปได้แต่ต้องแลกกับการลบความทรงจำทั้งหมด ท้ายที่สุด เหมและหุ่นยนต์ของเธอสำเร็จ แม้จะต้องสูญเสียความทรงจำต่าง ๆ ก่อนหน้านี้ที่พวกเขามีด้วยกัน แต่เพื่อปกป้องเหม หุ่นยนต์จำต้องรีเซตระบบของตัวเอง แม้ความทรงจำเก่า ๆ จะหายไป แต่เด็กหญิงกับหุ่นยนต์ Friend เพื่อนรัก ก็พร้อมที่จะสร้างความทรงจำใหม่ ที่แสนพิเศษด้วยกันไปอีกนานแสนนาน The Boss Baby Back in Business เดอะ บอสเบบี้ นายใหญ่คืนวงการ ซีรี่ส์เรื่อง บอสเบบี้ นี้ พัฒนาต่อมาจากภาพยนตร์เรื่อง เดอะ บอส เบบี้ ที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 2017 ซึ่งซีรี่ส์เรื่องนี้มีมาแล้ว 2 ซีซันด้วยกัน ซีซันแรก บอสเบบี้ เด็กเล็กที่พูดคุยสื่อสารและฉลาดมากในเรื่องของธุรกิจ ทำงานให้กับบริษัทขนาดใหญ่ที่ดูแลเรื่องความรักเด็ก บอสเบบี้จะต้องทำหน้าที่ควบคุมให้พื้นที่บริเวณบ้านของตน รักเด็กมากขึ้น แต่อุปสรรคในความสำเร็จของเด็กน้อยคือ สกู๊ตเตอร์ บัสกี้ เด็กที่นิสัยแย่ที่สุดในโลก งอแงและมีนิสัยอันธพาล ทำให้สถิติในพื้นที่นั้น ไม่เพียงแค่ไม่ชอบเด็ก แต่เข้าขั้นเกลียดเด็กเลยทีเดียว บอสเบบี้และทีมช่วยกันทำให้สกู๊ตเตอร์เป็นที่รักได้ แต่เรื่องราวก็ยังไม่จบแค่นั้นสกู๊ตเตอร์เป็นเหมือนอาหารเรียกน้ำย่อย ในซีซันนี้บริษัทและบอสเบบี้มีคู่แข่งที่สมน้ำสมเนื้อมาก คือ บู๊ทซี่ คาลิโก้! บุคคลที่ถูกเลี้ยงมาด้วยแมว มีจิตใจและพฤติกรรมเหมือนแมวและต้องการเปลี่ยนคนรักเด็กให้หันมารักแมวแทน! หมู่แมวน้อย ที่มาแย่งความรักจากเด็ก ๆ ไป เจ้าแมวเหมียวร้ายกาจกว่าที่บอสเบบี้คาดเอาไว้มาก มีหลายเหตุการณ์ที่เด็กน้อยเกือบจะแย่ แต่ยังดีที่เขามี ทิมมี่ พี่ชายคอยช่วยอยู่ในทุกสถานการณ์ บางครั้งบอสเบบี้ก็อยากได้การคิดนอกกรอบและความคิดสร้างสรรค์ในการผจญภัย เพื่อไขข้อสงสัยและหาคนผิดในเหตุการณ์สำคัญ อย่างในตอนที่สูตรนมพิเศษโดนขโมยไป และมีคนที่พยายามเปลี่ยนสูตรนมนั้น ทำให้เด็ก baby ทุกคนเริ่มเปลี่ยนแปลงทั้งด้านอารมณ์และร่างกาย แต่ทิมมี่ พี่ชายก็ช่วยเขาและบริษัทไว้ได้อย่างหวุดหวิด ปฏิบัติการกำจัด บู๊ทซี่ คาลิโก้ เริ่มขึ้น แต่ในตอนท้ายของซีซัน บู๊ทซี่ ส่งเจ้าแมวตัวร้าย 6 ตัว เข้าไปในสถานที่สำคัญต่าง ๆ อย่างการปลอมตัวเข้าไปเป็นสัตว์เลี้ยงนักข่าวคนดังหรือนายกเทศมนตรี และแมวตำรวจ บู๊ทซี่ คิดแล้วว่าเขาไม่ได้อยากได้ความรักให้น้องแมวอีกแล้ว แต่เขาอยากกำจัดเมืองนี้ทิ้งซะ! แผนการของบู๊ทซี่เริ่มไปได้สวย ทั้งเมืองโกลาหล เกิดความวุ่นวายขึ้นทั่วทุกที่ และแน่นอนทิมมี่และน้องชายตัวน้อยพลิกสถานการณ์ให้ทุกอย่างดีขึ้น และคลี่คลายลงไปในที่สุด ทุกคนกลับมาเป็นปกติ และรักเด็กมากขึ้น ๆ ไปอีก มาต่อกันที่ซีซัน 2 กันเลย ขอกระซิบแค่เล็กน้อยนะคะว่า ซีซันนี้จะเกี่ยวกับ จีจี้ ย่าของเด็ก ๆ ที่มาอยู่ด้วยในอาทิตย์ที่พ่อกับแม่ของพวกเขาไปสัมภาษณ์งาน แต่ย่านั้นไม่ค่อยเห็นด้วยที่บอสเบบี้จะมาเป็นบอสสูงสุดในบ้าน เรื่องราวจะไปได้สวยหรือไม่ ขอไม่สปอยแล้วกันค่ะ ที่แน่ ๆ สิ่งที่เราได้จากซีรี่ส์เรื่องนี้คือ เราสามารถเชื่อใจคนในครอบครัวได้เสมอ เราจะได้รับความรักและความเข้าใจอย่างเต็มเปี่ยม เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะแบ่งปันความสุขและความรักต่าง ๆ ต่อผู้อื่นต่อไปนะคะ การ์ตูนเด็ก ๆ ที่ข้อคิดไม่เด็กนั้นให้แง่คิดกับเราในหลากหลายมุม เพื่อน ๆ สามารถเปิดดูได้พร้อมกับคนในครอบครัว หรือจะเปิดให้น้อง ๆ หนู ๆ ดูก็สนุกไม่หยอก เป็นการใช้เวลากับครอบครัวของเราให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปอีกนะคะ และข้อคิดที่สำคัญ อย่าลืมทำหน้าที่ของเพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ กันอย่างเต็มที่และเป็นพลเมืองดีแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ เลยนะคะ สำหรับวันนี้ สวัสดีค่ะ:)