"ยาสีฟันสมุนไพร" เป็นทางเลือกหนึ่งของการซื้อ "ยาสีฟัน" สำหรับเรา เพราะสิ่งที่ต้องใช้เพื่อดูแลสุขภาพปาก และสุขภาพฟันของเรา ในทุก ๆ วัน นอกจากต้องเลือกแปรงสีฟันที่มีคุณภาพดีแล้ว การเลือกซื้อยาสีฟัน ก็เป็นสิ่งจำเป็น เราต้องเลือกซื้อยาสีฟันที่ตอบโจทย์ปัญหา "ฟัน" ของ เรารวมทั้งสมาชิกในครอบครัวให้มากที่สุด และการตัดสินใจที่ "รสชาติ" ยาสีฟัน ก็เป็นสิ่งหนึ่งที่ใช้ประกอบการเลือก ซึ่งความชอบของคนหนึ่ง ก็อาจจะไม่ถูกใจอีกคนหนึ่ง บางครั้งการเลือกซื้อ "ยาสีฟัน" จึงอาจจะต้อง ต่างคนต่างซื้อ หรือไม่ก็ซื้อมาหลายยี่ห้อ หลายคุณสมบัติของตัวยาสีฟัน ใครถูกใจแบบไหนก็จะได้ใช้แบบนั้น หรือจะสลับวันกันใช้ก็แล้วแต่อารมณ์ ของแต่ละคน ณ ช่วงเวลาของการหยิบ "ยาสีฟัน" ขี้นมาบีบใส่แปรงสีฟันอีกนั่นแหละ"ยาสีฟันสมุนไพร" ที่จะมีติดบ้านเสมอก็คือ "เทพไทย" เพราะระยะเวลาในการใช้ค่อนข้างนาน โดยตัวสินค้าติดรายละเอียดไว้ที่ข้างกล่องเลยว่า จะใช้แปรงฟันได้ประมาณ 350 ครั้ง เพราะใช้ปริมาณในการบีบใส่แปรงเท่า ๆ กับเม็ดถั่วเขียว เท่านั้นเอง เนื่องจากว่าเป็นสูตรที่เข้มข้นอยู่แล้ว ดังนั้นใช้น้อย ๆ ก็ได้ ซึ่งบีบมาใช้แต่ละครั้งนับว่าน้อยมาก ๆ แต่ก็ได้กลิ่นหอม ๆ ซึ่งเรารู้สึกว่ากลิ่นเหมือนยาดม สูดกลิ่นแล้วรู้สึกหอมชื่นใจ ส่วนรสชาติของ "ยาสีฟันสมุนไพร" ในความรู้สึกของเรา เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นสมุนไพร ก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก จะมีกลิ่นหอม ๆ ของสมุนไพร ตามแต่ว่า ยาสีฟันยี่ห้อไหน จะใช้สมุนไพรตัวไหนเป็นตัวนำ สำหรับ "เทพไทย" ใช้ การบูร ข่อย กานพลู และ สะระแหน่ ซึ่งเป็นสมุนไพรที่ใช้ดูแลปาก และ ฟัน มาตั้งแต่สมัย ปู่ย่าตายายที่เคยเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังเช่น เล่าถึงการนำดอกกานพลูมาอมไว้เพื่อระงับกลิ่นปาก หรือนำกิ่งข่อยมาเคี้ยว มาถูฟัน ก็เป็นการทำความสะอาดฟันอย่างหนึ่ง มาถึงรุ่นเราไม่ได้ใช้ดอกหรือก้านมาอม ๆ เคี้ยว ๆ เหมือนเมื่อก่อน แต่มีการผลิตเป็นยาสีฟันให้ใช้กันง่ายขึ้น "ยาสีฟันสมุนไพร เทพไทย" ถ้าเทียบกับยี่ห้ออื่น ๆ ราคาอาจจะแพงกว่า เพราะหลอดเล็กขนาด 30 กรัม ราคา 60 บาท ส่วนหลอดใหญ่ ขนาด 70 กรัม ราคา 105 บาท ราคาแต่ละร้านสะดวกซื้อที่เราไปซื้อจะไม่เท่ากันทุกครั้ง ขึ้นอยู่กับว่าร้านนั้น ๆ มีการจัดรายการสินค้าลดราคาหรือเปล่า แม้ราคาจะแพงกว่าหลาย ๆ ยี่ห้อ แต่เมื่อเทียบในลักษณะการใช้ด้วยปริมาณที่น้อยกว่า สามารถใช้ได้นานกว่า เราก็คิดว่าไม่ได้แพงเกินไป เรื่องราคาจึงเป็นเรื่องที่อาจจะตัดสินใจรองลงมา น่าจะขึ้นอยู่กับความชอบ และคุณสมบัติที่เราอยากได้มากกว่า ซึ่งรายละเอียดข้างกล่องก็ระบุคุณสมบัติไว้ว่า- ดูแลปัญหาสุขภาพเหงือก ฟันผุ- ลดคราบหินปูน- ลดกลิ่น ชา กาแฟ บุหรี่- ลดกลิ่นปากหลังจากการแปรงฟันด้วยยาสีฟัน "เทพไทย" ในแต่ละครั้ง สิ่งที่ตอบโจทย์ความพอใจของเราได้แน่ ๆ ก็คือ รู้สึกได้ว่าปากสะอาด หายใจเข้า หายใจออกก็รู้สึกสดชื่น และที่สำคัญ การที่ "ฟันสะอาด" ยังสร้างความมั่นใจให้กับตัวเราเอง เวลาที่จะพูด หรือยิ้ม จะมั่นใจได้สุด ๆ ก็คือ นอกจากแปรงฟันตอนเช้าที่ตื่นขึ้นมา หรือก่อนเข้านอนแล้ว ก็ควรจะแปรงฟันทุกครั้ง หลังจากที่ทานอาหารด้วย หรืออย่างน้อยที่สุด หลังดื่มเครื่องดื่มต่าง ๆ ก็ควรจะบ้วนปากทุกครั้งสิ่งสำคัญอีกอย่างก็คือการเปลี่ยนแปรงสีฟัน เมื่อเห็นว่าสภาพแปรงเริ่มเสื่อมคุณภาพ ปลายบานออก ขนแปรงนุ่ม ๆ เริ่มแข็งแล้ว หรือคิดไว้เลยว่า 3 เดือน เปลี่ยนแปรงสีฟันใหม่ ก็นับว่าเป็นสิ่งที่ดี เพราะแปรงสีฟันเป็นสิ่งที่ต้องเข้าไปอยู่ในปากเราทุก ๆ วัน ดังนั้นเรื่องความสะอาด เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดการเลือกซื้อ "ยาสีฟันสมุนไพร" โฆษณาที่ออกมา หรือ พรีเซนเตอร์ที่โฆษณาสินค้านั้น ๆ มีส่วนเลือกในการตัดสินใจหรือเปล่า ? สำหรับเราแล้ว เราคิดว่านอกจากไปยืนอ่านโฆษณาที่ข้างกล่อง เพื่อหาข้อมูลแล้ว การที่ได้ดูโฆษณาจากสื่อต่าง ๆ ก็มีผลพอสมควร อย่างเมื่อได้ดู เบลล่ากับเวียร์ โฆษณาสินค้า ก็จะหยุดดูด้วยความสนใจ เพราะทั้งคู่ที่มาโฆษณาคือพระเอก-นางเอกแถวหน้าของวงการบันเทิงไทย ก็ทำให้เชื่อถือได้ในระดับหนึ่งว่าจะต้องมีการพิจารณาสินค้ามาระดับหนึ่งแล้ว และเมื่อลองใช้สินค้าด้วยตัวเอง ก็จะเป็นการตอบโจทย์ ที่แท้จริงให้กับตัวเราเอง ต่อสินค้านั้น ๆ ซึ่งก็สรุปได้ว่า "ยาสีฟัน เทพไทย" คุณสมบัติ และ "รสชาติ" ตอบโจทย์ความชอบของเรา ของสมาชิกในบ้านได้จริง ๆ ในบทความต่อ ๆ ไป จะรีวิว "ยาสีฟันสมุนไพร" ยี่ห้ออื่น ๆ ให้อ่านกันบ้าง สำหรับตอนนี้ก็ทิ้งท้ายไว้ที่รูปยิ้มหวาน ๆ ฟันสวย ๆ ของ เบลล่ากับเวียร์ ก็แล้วกันนะ ^^ ขอบคุณภาพประกอบ เบลล่ากับเวียร์ ภาพประกอบ- ฉันท์ชมา ผู้เขียน