ฮาวทูทิ้ง ทิ้งอย่างไรไม่ให้เหลือเธอ ภาพยนตร์ไทยพลอตเก๋ ๆ ว่าด้วยการลืมคนรักในอดีต โดยผูกเรื่องราวกับการทิ้งสิ่งที่เป็นตัวแทนความทรงจำของคน(เคย)รักได้อย่างน่าเจ็บปวดภาพยนตร์เปิดเรื่องด้วยการพาคนดูเดินงง ๆ เข้าไปในในดงข้าวของรกเต็มบ้านของ “จีน” สถาปนิกสาวที่จู่ ๆ ก็ลุกขึ้นมาจะจัดบ้านใหม่ให้เป็นออฟฟิศแนวมินิมอลลิสม์ ด้วยการโละทิ้งของในบ้านให้เหลือแต่ข้าวของสิ่งจำเป็น ตามคำแนะนำของหนังสือที่เขียนโดย คอนโดะ มาริเอะที่เคยโด่งดังขายดีมากเมื่อหลายปีก่อนแต่เมื่อเริ่มต้นทิ้งข้าวของ ก็พบว่ามีของหลายชิ้นที่เชื่อมโยงกับอดีตที่มีความหลังเจ็บปวดบางอย่าง เป็นต้นว่าเปียโนหลังใหญ่ของพ่อ หรือกล้องถ่ายรูปของแฟนเก่าข้าวของแต่ละชิ้นที่ถูกทิ้ง ค่อย ๆ ทำให้คนดูรู้ว่าจีนมีความสัมพันธ์กับเจ้าของของพวกนั้นอย่างไร โดยเฉพาะความสัมพันธ์กับพ่อและความสัมพันธ์กับเอ็มแฟนเก่า ที่ดูเหมือนส่งผลต่อชีวิตของเธอมากทีเดียวช่วงครึ่งแรกค่อนข้างหงุดหงิดเล็กน้อยกับนิสัยของจีนที่ทำอะไรโดยไม่สนใจความรู้สึกของคนอื่นเอาซะเลย เอะอะก็ทิ้งของทุกอย่างด้วยเหตุผลเดียวว่า "รก" เปียโนที่แม่หวงมากก็จะเอาไปขาย ซีดีที่เพื่อนรักให้เป็นของขวัญวันเกิดก็ถูกทิ้งเพราะเกะกะ จีนทิ้งทุกอย่างในชีวิตได้ง่าย ๆ แม้กระทั่งแฟนเก่า ก็สามารถทิ้งได้เมื่อการมีแฟนเป็นอุปสรรคต่อการเรียนต่อต่างประเทศหนังดำเนินเรื่องราวมาในโทนนิ่ง ๆ เรื่อย ๆ มาเรียง ๆ แต่ระหว่างทางก็แอบเติมรายละเอียดที่ทำให้เราเข้าใจทีละนิดว่าทำไมจีนถึงเป็นคนแบบนี้ และเมื่อหนังได้ใส่รายละเอียดเข้ามาในใจของคนดูจนล้นปริ่ม แค่เพียงโยนหินสักก้อนลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างก็กระเพื่อมท่วมท้นและพรั่งพรูออกมาจนล้นทะลัก ฉากที่จีนโทรศัพท์ไปหาพ่อว่าจะขายเปียโนที่เขาทิ้งไว้ เป็นฉากที่นิ่งแต่ทรงพลังไร้ซึ่งดนตรีประกอบหรือคำตอบโต้สนทนาจากปลายสาย แต่ด้วยอารมณ์ที่ถูกบิวด์มาตลอดตั้งแต่ต้น เมื่อถึงจุดที่มันอิ่มจนล้น แค่แตะต้องเพียงเบาๆ มันก็ล้นทะลักเป็นเขื่อนแตกในที่สุดเราก็เข้าใจได้ว่าต้นตอของความเป็นคนที่ชอบหนีปัญหาของจีนและเหมือนจะไม่รับผิดชอบต่อการ “ทิ้ง” สารพัดสิ่งอย่างในชีวิตแม้แต่คนที่ตัวเองรัก ก็มีที่มาจากการที่เธอถูก “ทิ้ง” จากพ่อนี่เอง เรื่องราวสรุปในตอนท้ายว่า ทุกคนต่างก็ได้รับผลจากการถูกทิ้ง และรับมือกับการถูกทิ้งไม่เหมือนกัน ขณะที่จีนรับมือด้วยการ "ทิ้ง" ทุกอย่างให้พ้นจากชีวิต เอ็มแฟนเก่าของจีนก็รับมือกับด้วยการ "เก็บ" เขาเก็บทุกอย่างที่เป็นความทรงจำของคนที่เขารัก เก็บกระทั่งความรู้สึกของตัวเอง และเดินหน้าต่อไปทั้งที่บาดแผลยังฝังลึก ส่วนแม่ของจีนเลือกที่จะหลอกตัวเองอยู่กับอดีตที่เคยหวานชื่น และดันทุรังเก็บทุกอย่างไว้เป็นอย่างราวกับต้องการหยุดเวลาไว้ที่เดิม โดยที่ไม่สนใจว่าลูกสองคนต้องเติบโตในสภาพบ้านเก่า ๆ รก ๆ หลังเดิม โดยมีเปียโนของพ่อตั้งอยู่กลางบ้านให้ทิ่มแทงหัวใจทุกคนอยู่ทุกวี่ทุกวัน ภาพยนตร์เรียบ ๆ แต่สอดใส่สัญลักษณ์เข้าไปเพียบเรื่องนี้ กำกับโดยเต๋อ นวพล ทำออกมาได้สะเทือนอารมณ์แบบปวดร้าวลึก ไม่ต้องบิ้วด์ด้วยภาพน้ำตาแตกหรือดราม่าท่วมจอ แต่ก็ทำให้คนดูร้องไห้ปาดน้ำตาได้อย่างไม่รู้ตัว ซึ่งไปกันได้ดีกับการแสดงของ “ออกแบบ” ชุติมณฑน์ ที่แสดงสีหน้านิ่งไร้อารมณ์แต่แววตาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ส่วนซันนี่ ในบทของเอ็มแฟนเก่าของจีน เรื่องนี้มีมาดนิ่งขรึมที่อาจดูขัด ๆ ตาบ้างเพราะชินแต่กับภาพตลกทะเล้นจนเคย แต่ก็จัดว่าพลิกบทบาทได้ดี แต่คนที่ทรงพลังในการแสดงมากที่สุดก็คืออุ๋ม อาภาสิริ รับบทแม่ของจีน ออกมาแต่ละครั้งเราก็สามารถสัมผัสได้ถึงความปวดร้าวจากการถูกทิ้ง และรอวันที่ระเบิดทุกสิ่งทุกอย่างออกมาภาพยนตร์เรื่องนี้กำลังฉายอยู่ในช่อง Netflix สามารถรับชมได้ผ่านกล่องดิจิทัลของทรูขอบคุณรูปภาพจากเว็บไซต์ The Standard รูปหน้าปกขอบคุณรูปภาพจากช่อง Netflix รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5 / รูปประกอบที่ 6 https://thestandard.co/happy-old-year-4/https://www.netflix.com/watch/81143239?trackId=13752289&tctx=0%2C0%2C702465d4-ec10-41e2-9f59-4334de928c17-267052752%2C%2C