ผู้หญิงกับความงามก็คงจะเป็นสิ่งที่เกิดมาคู่กันใช่ไหมคะ ไม่มีใครไม่อยากสวย เพราะหลาย ๆ คนก็อยากสวยกันทั้งนั้น แต่การที่จะสวยได้นั้นเราก็ต้องทานอาหารให้ครบห้าหมู่ พักผ่อนให้เพียงพอ ดูแลสุขภาพร่างกายให้ดีโดยเฉพาะผิวหน้าของเรา เพราะใบหน้าเป็นส่วนที่ถือได้ว่าสำคัญมากอีกส่วนหนึ่งของร่างกาย เป็นสิ่งแรกที่มักสร้างความประทับใจเมื่อพบเห็น แต่ถึงแม้ว่าจะมีผิวหน้าหรือผิวกายดีมากแค่ไหนหากไม่รู้จักแต่งเติมก็คงจะไม่เกิดประโยชน์อะไรมากนัก โดยเฉพาะคุณสาว ๆ ที่อยากเพิ่มความมั่นใจของตัวเองการแต่งหน้าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ช่วยได้มากเลยทีเดียว วันนี้ผู้เขียนจึงนำผลิตภัณฑ์รองพื้นที่ผู้เขียนยกให้เป็นที่หนึ่งในใจตอนนี้มาบอกต่อกับคุณผู้อ่าน จะเป็นยี่ห้อใดนั้นไปชมกันเลยค่ะ รองพื้นเฌอเบญ เป็นรองพื้นที่มีลักษณะเป็นเนื้อลิควิด มีคุณสมบัติกันน้ำ กันเหงื่อ คุมความมัน รวมถึงกันแดด ได้ถึง spf 50 pa+++ ไม่มีสารอันตราย ปลอดพาราเบน ไร้แอลกอฮอล์ ปกปิดได้ดีแต่บางเบาไม่ทำให้รู้สึกเหนียวเหนอะหนะบนใบหน้า เหมาะสำหรับทุกสภาพผิวเพรามีให้เลือกถึง 3 เฉดสีด้วยกัน ขายในราคาที่ทุกคนสามารถเอื้อมถึง คือขวดละ 290 บาท วิธีการใช้ก็คล้าย ๆ กับการใช้รองพื้นชนิดอื่น ๆ เลยคือ กดรองพื้นใส่มือหรือฟองน้ำ (หากอยู่ในช่วงโปรโมชันซื้อ 1 แถม 1 จะมีการแถมฟองน้ำให้ขวดละ 1 ชิ้น) จากนั้นค่อย ๆ เกลี่ยรองพื้นจนทั่วใบหน้าและลำคอ เมื่อเกลี่ยเสร็จแล้วจะพบว่าใบหน้านั้นดูสว่าง กระจ่างใสและเรียบเนียนมาก ยิ่งขึ้น แล้วจึงแต่งหน้าขั้นต่อไปได้เลย จากประสบการณ์การใช้รองพื้นมาหลากหลายแบรนด์ ผู้เขียนสามารถพูดได้อย่างเต็มปากว่าเฌอเบญเป็นแบรนด์ที่หนึ่งในดวงใจตอนนี้ เพราะตัวผู้เขียนเองเป็นคนที่ไม่ค่อยชอบแต่งหน้าจึงต้องการรองพื้นชนิดที่บางเบา เกลี่ยง่าย ช่วยประหยัดเวลาในการแต่งหน้า และสะดวกต่อการพกพา ซึ่งเฌอเบญตอบโจทย์ในส่วนนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งยังควบคุมความมัน ป้องกันเหงื่อและแดดยิ่งทำให้ผู้เขียนหลงรักในความเป็นเฌอเบญเพิ่มมากขึ้น ผู้อ่านหลายท่านคงจะสงสัยและไม่มั่นใจใช่ไหมคะว่าผู้เขียนพูดเกินไปหรือเปล่า ทั้งนี้ผู้เขียนไม่ได้ให้ท่านเชื่อไปซะทีเดียวเพียงแต่ตัวเองใช้แล้วชอบเห็นว่าดีจึงอยากนำมาแนะนำ เผื่อว่าท่านจะได้ลองใช้ตามกันดู อย่าเพิ่งเชื่อกันก็ได้จนกว่าจะได้ลองใช้แล้วท่านจะติดใจในความเป็นเฌอเบญ หากใช้แล้วอย่าลืมมารีวิวความงามบอกกันด้วยนะคะ สำหรับบทความหน้าผู้เขียนจะนำเสนอในเรื่องใดรอติดตามกันได้นะคะ อ้างอิงภาพปกและภาพประกอบ : จาก Facebook: Yunapa Prathum