ก่อนที่จะเขียนแบ่งปันความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ เจ้าของบทความ มิได้มีเจตนาสนับสนุนให้เปลี่ยนประเทศนะคะ แต่เป็นการให้ความรู้เกี่ยวกับคำถามที่เกิดขึ้น หากเราต้องการที่จะเปลี่ยนสัญชาติจริง ๆ จากเหตุการณ์หลาย ๆ อย่างที่เกิดขึ้นกับประเทศไทยในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นภาวะทางมลพิษและสิ่งแวดล้อม, ความขัดแย้งทางการเมือง, ความเบื่อหน่ายเรื่องการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย, ฯลฯ จนไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า หัวข้อของการเปลี่ยนสัญชาติ หรือ การซื้อสัญชาตินั้น เริ่มเป็นที่พูดคุยกันมากขึ้น โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่หลาย ๆ คน คำถามสำคัญที่ตามมาก็คือ สมมติว่าเราคิดแบบนั้นจริง ๆ มันสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ? แล้วต้องทำอย่างไร ? ใช้เงินเท่าไหร่ ? ถึงจะสามารถซื้อสัญชาติได้ เอาล่ะ ไปดูวิธีการต่าง ๆ ที่จะสามารถทำให้เราซื้อสัญชาติได้กันเลย Photo : https://unsplash.com/photos/RiUZQOfQ8XE ตามปกติที่เราทราบกันดีอยู่แล้ว หากเราเกิดที่ประเทศไหน เราก็จะได้รับสัญชาตินั้นโดยปริยาย เช่นเราเกิดที่ประเทศไทย เราก็จะได้รับสัญชาติไทย หากเราไปเกิดที่ประเทศ A เราก็จะได้รับสัญชาติ A โดยอัตโนมัติ ส่วนในการแต่งงานกับต่างชาติก็มีความเป็นไปได้ที่จะได้ถือสัญชาตินั้น ๆ แต่ต้องผ่านขั้นตอนเกี่ยวกับวีซ่าและกฎหมายอีกมากมาย ซึ่งในปัจจุบัน มีความยากลำบากขึ้นในการได้สัญชาตินั้น ๆ เพราะ มีกาารแต่งงานหลอกเพื่อที่จะได้สัญชาตินั้น ๆ เพิ่มมากขึ้น ดังนั้นจะมีวิธีไหนละที่เราสามารถที่ซื้อสัญชาติได้ ? คำตอบที่ง่ายแต่อาจจะทำได้ยากก็คือ "หากคุณมีเงินมากพอ การซื้อสัญชาติก็ไม่ใช่เรื่องยาก" เพราะในปัจจุบัน การซื้อขายสัญชาตินั้นกลายเป็นธุรกิจไปแล้ว เพราะ สามารถที่จะทำเงินได้มหาศาล มาดูกันว่า แต่ละสัญชาติต้องใช้เงินเท่าไหร่ ? Photo : http://unsplash.com/photos/QkPb5g9p338 1. ประเทศเซนต์คิตส์และเนวิส (ประเทศที่เป็นจุดกำเนิดของการซื้อขายสัญชาติ) ในรายละเอียดนั้น เศรษฐกิจหลักของประเทศเป็นอุตสาหกรรม ในช่วงหนึ่งของประเทศ ประเทศเซนต์คิตส์และเนวิส มีอัตราหนี้ต่อ GDP สูงอันดับต้น ๆ ของโลก รัฐบาลจึงต้องการหาทางออก เลยแก้ปัญหาด้วยการ "ประกาศให้มีการซื้อขายสัญชาติ" [ราคา!] คุณสามารถซื้อสัญชาติได้ 2 แบบ A. จ่ายเงินให้กับกองทุนเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน (sustainable growth fund (SGF) contribution) ราคาสำหรับ 1 คน : US$ 150,000 (~4,500,000 ฿) ราคาครอบครัวไม่เกิน 4 คน : US$ 195,000 (~5,800,000 ฿) ปล. หากเกิน 4 คน จ่ายเพิ่มคนละ US$ 10,000 (~300,000 ฿) B. ลงทุนในประเทศเซนต์คิตส์และเนวิส ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรม, คอนโดฯ อย่างน้อย US$ 200,000 (~6,000,000 ฿) และ สามารถขายได้หลังลงทุนไปแล้ว 7 ปี หรือ ลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เช่น โรงแรม, คอนโดฯ อย่างน้อย US$ 400,000 (~12,000,000 ฿) และ สามารถขายได้หลังลงทุนไปแล้ว 5 ปี ปล. ใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน ในการดำเนินการ, ค่าใช้จ่ายอาจมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เพิ่มติม [ได้อะไรบ้าง?] 1. มีสิทธิในการถือพาสปอร์ตของประเทศนั้น ๆ 2. เมื่อถือสัญชาตินี้สามารถเดินทางได้ 154 ประเทศทั่วโลก เข้าออก EU ได้ และ เข้าออกในประเทศแอฟริกาได้ Photo : https://unsplash.com/photos/eUjufrdx_bM 2. ประเทศเซนต์ลูเซีย [ราคา!] คุณสามารถซื้อสัญชาติได้ 2 แบบ A. บริจาคเงินให้กับประเทศเซนต์ลูเซีย ราคาสำหรับ 1 คน : US$ 100,000 (~3,000,000 ฿) B. ลงทุนในประเทศเซนต์ลูเซีย ลงทุนในประเทศเซนต์ลูเซีย US$ 300,000 (~9,000,000 ฿) ปล. ใช้เวลาประมาณ 45-60 วัน ในการดำเนินการ, ค่าใช้จ่ายอาจมีค่าธรรมเนียมอื่น ๆ เพิ่มติม [ได้อะไรบ้าง?] 1. มีสิทธิในการถือพาสปอร์ตของประเทศนั้น ๆ 2. เมื่อถือสัญชาตินี้สามารถเดินทางได้ 145 ประเทศทั่วโลก Photo : https://unsplash.com/photos/sXeV4NySLWc เอาล่ะค่ะ ยังมีประเทศอีกมายมายที่มีการซื้อขายสัญชาติ อาทิ เช่น ไซปรัส, บัลแกเรีย, มอลโดวา, ตุรกี, วานูอาตู, กัมพูชา, ฯลฯ อย่างไรก็ตาม แต่ละประเทศอาจมีค่าธรรมเนียมและเงื่อนไขเพิ่มเติมตามแต่ละประเทศจะกำหนดนะคะ หากคุณเป็นนักธุรกิจที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อย ๆ เป็นเวลานาน หรือ มีแผนจะเปลี่ยนสัญชาติ อยากซื้อสัญชาติ ไม่อยากจะรอ สหรัฐอมริกา หรือ อังกฤษ นาน ๆ , มีเงินมากพอ ก็ลองมองดูประเทศเหล่านี้ในการซื้อสัญชาติดูได้ค่ะ สามารถหาอ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่แหล่งอ้างอิง : https://thestandard.co/thestandarddaily16122562/ https://themomentum.co/citizenship-for-sale/