โรงพยาบาลถือเป็นสถานที่ที่มีกิจกรรมที่หลากหลายในการรักษาโรค เมื่อพิจารณาในหลายๆ กิจกรรมล้วนแล้วแต่เป็นแหล่งกำเนิดของน้ำเสียภายในหน่วยงาน อีกทั้งยังต้องรับผิดชอบในการบำบัดน้ำเสียให้มีคุณภาพดีขึ้นในฐานะเป็นผู้ก่อมลพิษ โดยจะต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการบำบัดน้ำเสียที่เกิดขึ้น จึงทำให้โรงพยาบาลถูกบังคับให้มีระบบบำบัดน้ำเสียตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยเริ่มตั้งแต่การก่อสร้างหน่วยบำบัดน้ำเสีย การบำรุงรักษาในทุกขั้นตอน การควบคุมการทำงานของระบบ รวมไปถึงการตรวจสอบคุณภาพน้ำทิ้งก่อนปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมเป็นระยะ ระบบบำบัดน้ำเสียขั้นต้นในโรงพยาบาลเป็นหน่วยบำบัดขั้นแรกที่มีความสำคัญต่อการบำบัดน้ำเสีย โดยในหน่วยนี้จะถูกออกแบบมาเพื่อทำการบำบัดน้ำเสียทางกายภาพ โดยจะคัดแยก ดักจับ ตกตะกอนสารอินทรีย์ในน้ำเสียที่มีขนาดใหญ่ออกให้มากที่สุด ก่อนที่น้ำเสียจากส่วนนี้จะไหลเข้าสู่กระบวนการบำบัดขั้นที่สองต่อไป จากปลายท่อน้ำเสียที่ออกจากทุกอาคารคือจุดเริ่มต้นของระบบบำบัดน้ำเสียขั้นต้นในโรงพยาบาลหลักการที่นำมาใช้ในระบบบำบัดน้ำเสียขั้นต้นนี้คือ แรงโน้มถ่วง โดยเราจะพบว่ามีส่วนของบ่อดักกรวดทรายที่ปนมากับน้ำเสีย ในหน่วยนี้อาศัยการตกตะกอนด้วยแรงโน้มถ่วงของโลก จึงทำให้มีกรวดทรายถูกดักไว้และตกตะกอนสะสมอยู่ในส่วนแรกของหน่วยในทุกๆ วันที่มีน้ำเสียเกิดขึ้นและไหลออกจากอาคารโดยท่อรวบรวมน้ำเสีย เมื่อถึงจุดหนึ่งปริมาณกรวดทรายจะเต็มในหน่วยนี้ จึงเป็นหน้าที่ของผู้ดูแลระบบบำบัดน้ำเสียที่จะต้องทำการตักออกไปกำจัดโดยการตากในลานตากตะกอนหรือในจุดที่เตรียมไว้อย่างเหมาะสม ส่วนน้ำเสียก็ไหลล้นไปตามแนวท่อรับน้ำเสียเพื่อเข้าสู่หน่วยอื่น หากมีขยะเล็ดลอดปนมากับน้ำเสียอาจพบบางส่วนในหน่วยนี้ได้เช่นเดียวกัน แค่เพียงเท่านี้คุณภาพน้ำเสียก็ดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังไม่สามารถปล่อยออกสู่สิ่งแวดล้อมได้ จึงยังต้องมีหน่วยบำบัดทางชีวภาพและทางเคมีอีก ซึ่งผู้เขียนจะได้มานำเสนอเนื้อหาดังกล่าวในบทความถัดไป