รวบรวมข้อมูล เจาะลึก เปรียบเทียบ จักรวาลไอ้แมงมุม - สไปเดอร์แมน กำลังเป็นกระแสเลยนะคะสำหรับหนังดังในช่วงนี้ อย่างเรื่อง Spider-Man: Far From Home ที่กำลังเข้าฉายในช่วงเดือนนี้ หากใครชอบดูหนังซุปเปอร์ฮีโร่หรือเป็นแฟน Spider-Man ก็คงพอจำกันได้บ้าง ว่าหนังของซุปเปอร์ฮีโร่ ‘ไอ้แมงมุม’ หนุ่มสุดหล่อนี้ได้ถูกสร้างมาหลายครั้งหลายเวอร์ชั่น ในบทความนี้เราก็เลยจะมารวบรวมและย้อนดู Spider–Man ทั้งหมดให้ชมกันค่ะ ฮีโร่ Spider-Man หรือ 'ไอ้แมงมุม' ที่เรารู้จักเป็นตัวละครซุปเปอร์ฮีโร่ในสังกัด Marvel Comics ค่ะ ตัวการ์ตูนยอดมนุษย์สัญชาติ USA ตัวละครนี้ถูกสร้างโดยคุณสแตนลีและสตีฟ ดิตโก ปรากฏตัวครั้งแรกในปี พ.ศ. 2505 หรือ ปี 1962 โอ้โหตัวละครนี้อยู่กับเรามานานกว่าที่คิดนะเนี่ย ด้วยบทบาทของ นักเรียนไฮสคูลหนุ่มขี้อายคนหนึ่งที่จะเพราะความบังเอิญหรือตั้งใจทำให้ชีวิตมาถึงจุดพลิกผันกลายเป็นฮีโร'ไอ้แมงมุม'ผู้แบกรับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่นั้นเป็นที่ชื่นชอบและได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากแฟน ๆ จนได้มีการนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ ถึง 3 Version หลายภาคด้วยกัน คือคลิกเพื่อดูหนังออนไลน์เรื่อง Spider-Man: Homecoming สไปเดอร์แมน: โฮมคัมมิ่ง1. Spider – Man (ผู้กำกับ Sam Raimi ค่าย Sony Picture) Spider-Man (2002) , Spider-Man 2 (2004), Spider-Man 3 (2007) 2. The Amazing Spider - Man (ผู้กำกับ Marc Webb ค่าย Sony Picture) The Amazing Spider-Man (2012), The Amazing Spider-Man 2 (2014) ,The Amazing Spider-Man 3 (2018)3. Spider – Man (ผู้กำกับ Jon Watts ค่าย Marvel Studios และ Disney) Spider-Man : Home Coming (2017),Spider-Man: Far From Home (2019) ,อาจมีข้อสงสัยว่า เอ๊ะ? ค่ายไหน ใครเป็นเจ้าของ ใครสร้าง อะไรยังไงกันแน่ คำตอบคือ แต่ละ Version นั้น สไปเดอร์แมนนี้เป็นลิขสิทธิ์ของ Marvel ค่ะ แต่ได้มีการซื้อลิขสิทธิ์มาสร้างเป็นหนัง โดยค่ายหนังต่าง ๆ และทุกภาคจัดจำหน่ายผ่าน Columbia Picture - เวอร์ชั่นแรก ที่ปรากฏให้เห็น เป็นของค่าย Sony ทำหนังออกมาทั้งหมด 3 ภาคด้วยกัน - เวอร์ชั่น 2 ได้มีการ Reboot สร้างโดย Sony อีกเช่นเคย มีการปรับเปลี่ยนทั้งตัวละคร และเนื้อเรื่อง อีก 3 ภาค - เวอร์ชั่น 3 เป็นการ Remake สร้างใหม่ ของค่าย Marvel Studios และ Disney ปรากฏตัวละครสไปเดอร์แมนครั้งแรกใน Captain America Civil war และค่อยมีหนังของตัวเอง Spider-Man Home Coming ตามมา Credit : Page 9GAG จะเห็นได้ว่าแต่ละเวอร์ชั่นมีความแตกต่างและเส้นเรื่องที่มีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง มีการตีความและจุดเน้นที่แตกต่างกันไปทั้งโทนเรื่อง,เหตุการณ์เรื่องราวที่เกิดขึ้น,คาแร็กเตอร์ของตัวเอก รวมทั้งบทบาทของตัวละครในเรื่องก็แตกต่างกันไปน่าสนใจและสนุกไปคนละแบบ เจาะลึก Spider–Man ในแต่ละเวอร์ชั่นแบ่งตามผู้กำกับ1. Spider–Man (Sam Raimi) นับเป็น Version แรกของ Spider-Manที่นำตัวละครคอมมิกส์ออกสู่สายตาผู้ชมบนจอภาพยนตร์ เวอร์ชั่นนี้คลาสสิคตรึงใจผู้ชมเป็นอย่างมาก ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็น Spider-Man ฉบับที่ดีที่สุด จากคำพูดที่น่าจดจำ“พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันใหญ่ยิ่ง” และ ฉากห้อยหัวจูบกันกลางสายฝนของพระนาง ฉากหยุดรถไฟ เป็นต้น โทนเรื่อง : สำหรับเรามองว่าเป็น หนังฮีโร่ที่ จะค่อนไปทาง รักโรแมนติก อบอุ่น ปนเศร้านิดหน่อย ที่บอกว่าเป็นหนังรักโรแมนติกอบอุ่นเพราะ แรงบัลดาลในในการทำสิ่งต่าง ๆ ของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ นั้นคือ 'ความรัก' เขาตกหลุมรัก แมรี่ เจน สาวสุดฮอตบ้านข้าง ๆ แต่ไม่กล้าแสดงออก เขารักเธอย่างจริงใจ สังเกตดี ๆ จะเห็นได้ว่าหนุ่มสไปเดอร์แมนนั้นได้ไปช่วยชีวิตเธออยู่บ่อยครั้ง นอกจากนี้ยังเห็นถึงความอบอุ่นของสมาชิกครอบครัวพาร์คเกอร์จากลุงเบ็นและป้าเมย์ที่ผู้ชมสัมผัสได้ ส่วนที่ดราม่าในภาคนี้เป็นปมการสูญเสียลุงและความเสียสละของพระเอกที่ไม่สมหวังในความรักแอบรักอยู่เรื่อยไป จะเห็นพาร์คเกอร์ของเรานกอยู่บ่อย ๆ พระเอกของเรื่อง ผู้รับบท ฮีโร่ของเราในครั้งนี้คือ Tobey Maguire ในเวอร์ชั่นนี้แสดงให้เห็นการเติบโตและการพัฒนาตัวละครอย่างชัดเจน ทำให้เรารู้สึกร่วมและเอาใจช่วยไปด้วย นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คนยกย่องว่า เวอร์ชั่นนี้เป็น Spider-Man ที่ดีที่สุด คาแร็กเตอร์ของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ในช่วงแรกเป็นหนุ่มเนิร์ดขี้อายไม่สู้คนคนหนึ่ง เขาฉลาด, จริงใจ, เสียสละ, ดูอบอุ่นและใจดี อาจเป็นพระเอกแนวลูซเซอร์นิด ๆ เพราะถูกแกล้งจากเพื่อน ๆ แต่นั่นทำให้เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเขาได้อย่างชัดเจน จากช่วงแรกเด็กเนิร์ดถ่ายภาพและสนใจวิทยาศาสตร์ ภายหลังได้รับพลังเขาเริ่มแข็งแกร่งและมีความมั่นใจขึ้น และเมื่อพบการสูญเสียเกิดความรู้สึกผิดและเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นฮีโร่ช่วยเหลือผู้คน การที่จะเป็นฮีโร่ต้องอาศัยความรับผิดชอบอย่างมาก ต่อมาในด้านของชีวิตเขาเติบโตและมีหน้าที่การงานที่ดีขึ้น เรียกได้ว่าพัฒนาจากจุดตกต่ำมาสู่บทฮีโร่ได้อย่างดี เรื่องราวการเป็นฮีโร่ ฉากการได้รับพลัง และจุดพลิกผัน การได้รับพลัง :ในส่วนของการเป็นฮีโร่ในเรื่องนี้ ค่อนข้างดูเป็น ”ความบังเอิญ” ที่เด็กเนิร์ด ๆ คนหนึ่ง โดนแมงมุมสายพันธุ์ทดลองกัดเข้าระหว่างทัศนศึกษา ผลคือ เขามีพลังพิเศษ เช่น สัมผัสของแมงมุม การปีนป่ายตึกได้ สร้างใยได้ด้วยตัวเอง ความว่องไว ความแข็งแรงของร่างกาย และมวลของกล้ามเนื้อ เมื่อเขาได้รับพลังมาและเริ่มต้นวันใหม่ เริ่มเรียนรู้ว่าตัวเองทำอะไรได้บ้างอย่างประหลาดใจ ส่วนคอสตูมของเขาแรงบัลดาลใจจากชุดนักมวยปล้ำ จุดพลิกผัน : การลงแข่งมวยปล้ำหวังได้เงินรางวัลมาซื้อรถให้สาวที่รักนั่ง แต่ในวันเดียวกันนั้นเองเขาสูญเสียลุงของเขาโดยถูกโจรคนหนึ่งยิงเข้า น่าเศร้าที่โจรคนนั้นเป็นคนที่ปีเตอร์ไม่ได้ช่วยจับ ทำให้เขารู้สึกผิดที่เขา “ไม่ได้ทำอะไร ทั้ง ๆ ที่ทำได้” ต่อมาเขาจึงตัดสินใจเป็นฮีโร่ ช่วยเหลือคนในเมืองและจับอาชญากรทั้งหลาย สรุปคร่าว ๆ ของเวอร์นี้ ในภาคแรกจะดำเนินไปเรื่อย ๆ ไม่หวือหวา แต่ได้ใจคนดูด้วยการดำเนินเรื่องและบทแสดงให้เห็นการเติบโตและเพิ่มความตื่นเต้นขึ้นในภาคต่อภาคหลังๆ 2. The Amazing Spider–Man (Marc Webb) เป็นการ Reboot ทำใหม่ ซึ่งจะมีความเปลี่ยนแปลงหลายอย่างเลย ด้วยการพลิกโฉมครั้งนี้ทำให้มีคนนำไปเปรียบเทียบกับเวอร์ชั่นแรกอย่างมาก และบ้างก็ได้รับกระแสลบอยู่บ้างว่าไม่ดีเท่าเวอร์ชั่นแรก แต่ส่วนตัวเราว่าหนังทำออกมาคนละแนวคนละโทนกันมากกว่า จึงเปรียบเทียบกันไม่ได้ทั้งหมด แต่ละเวอร์ชั่นนั้นมีจุดดีแตกต่างกันไป โทนเรื่อง : เป็นหนังฮีโร่ที่ ออกแนว แอ็คชั่น Sci-Fi วัยรุ่น ไฮสคูล สิ่งที่เปลี่ยนอย่างแรกเลยคือเนื้อเรื่อง มีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัย เพิ่มบทบาทของเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เข้าไปเป็นส่วนสำคัญในการดำเนินเรื่องเรียกได้ว่าเกือบทุกอย่างเกิดขึ้นในเรื่องเกี่ยวข้องกับงานวิจัยนี้หมดเลย เพิ่มความบู๊มีฉากต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นทำให้รู้สึกสนุกขึ้น ปมดราม่าเพิ่มเรื่องราวของครอบครัวพาร์คเกอร์ให้เกี่ยวโยงกัน ส่วนตัวลุงเบ็นกับป้าเมย์ก็ดูสมจริงขึ้นมีบทแสดงอารมณ์มีการถกเถียงในเรื่อง เพิ่มความคอมเมดี้ขึ้นมาหน่อย แต่ลดบทรักลงกว่าเดิม พระเอกของเราในภาคนี้ไม่นกแล้วนะ อย่างที่สองที่ปรับเปลี่ยนคือ บทบาทของพระเอกที่แตกต่างจากเดิมมาก และเปลี่ยนนางเอกเป็นคนละคนกันไปเลย นอกจากนี้ยังมีจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ถูกปรับเปลี่ยนเต็มไปหมด เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จึงทำให้แนวเรื่องดูเปลี่ยนไป พระเอกของเรื่อง ผู้รับบท ฮีโร่ของเราในครั้งนี้คือ Andrew Garfield เป็นการพลิกบทพระเอก Spider–Man ไปจากเดิมมาก ในภาคนี้ คาร์แร็กเตอร์ถูกปรับ ให้เป็นวัยรุ่นเลือดร้อนหาเรื่องใส่ตัวมากขึ้น เช่นกล้าที่จะมีเรื่องกับเพื่อนที่Bullyตนและผู้อื่น เวอร์ชั่นนี้แสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนเก่งและฉลาดด้านวิทยาศาสตร์มากขึ้นจากการที่เขาแก้สมการวิทย์ได้และประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ เอง ตัวพระเอกของเรามีอารมณ์ขันและพูดเยอะขึ้น นอกจากนี้บทรักของเขาก็เอาใจแฟน ๆ สุด ๆ ในเวอร์ชั่นนี้เขาได้สมหวังและมีโมเมนต์น่ารักกับเกว็นนางเอกของเรื่อง หากพูดถึงนางเอกของเรื่องครั้งนี้ เปลี่ยนเป็น 'เกว็น สเตซี่' สาวเก่งสวยและฉลาดเป็นนางเอกที่ได้รับความชื่นชอบอย่างมาก เพราะเธอมีบทบาทสำคัญในเรื่อง เช่นทำงาที่ศูนย์วิจัยออสครอบแถมยังช่วย Spider–Man ในหลาย ๆ เรื่องอีกด้วย ในเวอร์ชั่นนี้พระเอกของเรา Dark ขึ้น สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้เขาทำเรื่องต่าง ๆ เป็นเรื่องของครอบครัวเป็นหลัก ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ มีปมขัดแย้งเรื่องครอบครัวที่พ่อแม่ทิ้งและเสียชีวิตไปตั้งแต่เขายังเด็ก วันหนึ่งเขาได้เริ่มตามสืบเรื่องของพ่อที่ศูนย์วิจัยจึงเป็นจุดเริ่มต้นของความบังเอิญที่ได้รับพลังวิเศษมา นอกจากนี้จุดการพลิกผันเป็นฮีโร่เกิดจากความรู้สึกผิดและต้องการแก้แค้นให้แก่ลุงเบ็นที่ตายไปของเขา บทของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ มีการเติบโตน้อยกว่าภาคแรก แต่จะมีการเติบโตทางด้านความคิดแทน คือเป็นผู้ใหญ่ขึ้น จึงไม่แปลกที่จะมีกระแสโดนเปรียบเทียบเยอะ เรื่องราวการเป็นฮีโร่ ฉากการได้รับพลัง และจุดพลิกผัน การได้รับพลัง : ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ ปลอมตัวเข้าไปตามสืบเรื่องของพ่อเขาที่ศูนย์วิจัยและบังเอิญถูกแมงมุมที่พัฒนาในศูนย์กัดเข้าจึงได้รับพลังวิเศษเช่นเดียวกับภาคแรกเพียงแต่ว่าในเวอร์ชั่นนี้เขาไม่สามารถปล่อยใยได้จึงต้องใช้เครื่องปล่อยใยที่เขาสร้างเองขึ้นมา คอสตูมได้รับแรงบัลดาลใจจากนักมวยปล้ำในวันที่เขาตามล่าคนร้ายที่ฆ่าลุงของเขาและพลาดตกลงมาบนเวทีมวย จุดพลิกผัน : หลังจากได้รับพลังเขาเริ่มละเลยความถูกต้องและเรื่องในครอบครัวไปจนทะเลาะกับลุงของเขาและวิ่งหนีออกจากบ้าน และในวันนั้นที่ลุงออกตามหาเขาลุงถูกโจรที่เขาไม่ได้สนใจช่วยจับยิงตาย ด้วยความโกรธแค้นและอยากผดุงความยุติธรรมเขาจึงเริ่ม ตามล่าหาโจรคนนั้นโดยตามจับโจรที่รูปลักษณ์คล้าย ๆ กัน แต่ต่อมาอีกจุดพลิกผันหนึ่งคือวันที่เขาได้ช่วยชีวิตเด็กคนหนึ่งไว้และเขารู้สึกว่าเขาต้องใช้พลังที่มีเพื่อช่วยคนด้วย กล่าวคือจุดเริ่มต้นการเป็นฮีโร่เพราะอยากล้างแค้นหลังจากนั้นมีการพัฒนาทางความคิดของตัวละครสู่การเป็นฮีโร่จริงๆ ส่วนที่เราชอบของภาคนี้คือ ความสมจริงมากขึ้น รู้สึกว่าตัวละครแต่ละตัวมีทั้งด้านดีและด้านมืด ดูเป็นมนุษย์จริง ๆ ขึ้น สมเหตุสมผลและเข้ากับยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลง 3. Spider–Man (Jon Watts) การกลับมาอีกครั้งของ Spider–Man กับการรีเมคใหม่จากค่าย Marvel มาแรงและได้ใจแฟน ๆ ไปอย่างมากเนื่องจาก โทนของเรื่องสไตล์มาร์เวล แอ็คชั่นมันส์ ภาพสวย แฝงอารมณ์ขัน เอาใจแฟน และด้วยเหล่านักแสดงที่มากความสามารถและทำให้คนตกหลุมรัก ในเวอร์ชั่นนี้แตกต่างจาก 2 เวอร์ชั่นแรกตรงที่ไม่มุ่งเน้นเริ่มเล่าตั้งแต่จุดเริ่มต้น (ประมาณว่าผู้ชมรู้อยู่แล้ว) แต่เน้นดำเนินเรื่องโดยตามติดชีวิตของ ปีเตอร์พาร์คเกอร์ นักเรียนมัธยมปลายไฮสคูลกับเพื่อน ๆ และภารกิจที่เขาได้รับพร้อมกับเรื่องวุ่น ๆ Spider–Man ฉบับ Marvel นี้ ปรากฏตัวครั้งแรกใน Captain America Civil War ในตอนที่ โทนี่ สตาร์ครวบรวมทีมเพื่อต่อสู้กับกับตันอเมริกาเขาได้พบกับSpider–Manจากถ่ายคลิปบนอินเตอร์เน็ต จึงได้ไปพบกับ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ถึงบ้าน และเสนอโอกาสให้เข้ามาช่วยทีม Avengers และอัพเกรดชุดให้ ในฉากนี้ปีเตอร์ได้พูดถึง'พลังที่ได้มา' กับ ลุงเบน ไว้ไม่กี่ประโยคไม่ได้อธิบายอะไรมาก คาดว่าจุดเริ่มต้นน่าจะเป็นไปตามเนื้อเรื่องคอมมิกส์แต่มีการนำมาเชื่อมในทีมอเวนเจอร์ในภาคนี้ ต่อมาได้มีหนังของตัวเอง Spider–Man : Home coming และได้ปรากฏอีกใน Avengers Infinity war , Avengers Endgame ในการต่อสู้กับทานอส และ ล่าสุดคือหนัง Spider-Man : Far from home เป็นเรื่องราวหลังจบสงคราม Endgame โทนเรื่อง : เป็นหนังฮีโร่ บู๊แอคชั่น ตระการตา ผสมกับ ความสดใสคอมเมดี้อารมณ์ดีสไตล์มาร์เวล เวอร์ชั่นของมาร์เวลนี้เลือกเล่าเรื่องในช่วงหลังจากได้รับพลังมาโยงเข้ากับจักรวาล Avengers กล่าวคือในช่วงชีวิตไฮสคูลของ ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ นั่นเอง เพราะเลือกเล่าในจุดที่ต่างกันแถมยังใส่ความเป็นปัจจุบันเข้าไปปรับเปลี่ยนและเพิ่มตัวละครหลาย ๆ ตัว ฉะนั้นจึงฉีกแนวกับภาคก่อน ๆ โทนของเรื่องจะค่อนข้างสดใสมีชีวิตชีวาสนุกไม่เครียดน่าตื่นเต้น ลดปมดราม่าลงอย่างเห็นได้ชัด เพิ่มคอมเมดี้+ปัญหาชีวิตวัยรุ่นลงไป จะเห็นความน่าตื่นตาตื่นใจจากเทคโนโลยีที่พระเอกได้รับการช่วยเหลือจาก โทนี่ สตาร์ค ฉากการต่อสู้ดูสนุกมีการปล่อยมุขอยู่ตลอดเวลา และเห็นความน่ารักของ Spider-Man ในเวอร์ชั่นนี้ ตัวละครในเรื่อง ที่เปลี่ยนไปมากจนต้องว้าว! นอกจาก ปีเตอร์ พาร์คเกอร์ แล้วก็คือนางเอกของเรื่อง "MJ" เพื่อนร่วมชั้นของปีเตอร์เป็นสาวที่เก่งฉลาดทั้งมีความตลกหน้าตาย นิสัยแอบคล้ายกับเกว็นในเวอร์ชั่นก่อนแต่มีความห้าวมากกว่า ทั้งยังเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้เป็นสาวผิวสีฉีกกฎความงามพิมพ์นิยม และอีกตัวละครที่ต้องร้องว้าว คือ "ป้าเมย์" คุณป้าที่ยังสาวสวยแซ่บ ด้วยบุคลิกและรูปร่างที่เซ็กซี่ดึงดูดทำให้เรามีภาพจำป้าเมย์ใหม่กันเลยทีเดียว พระเอกของเรื่อง ผู้รับบท ฮีโร่ของเราในครั้งนี้คือ Tom Holland บทสไปเดอร์แมนในเวอร์ชั่นนี้ มีคาแร็กเตอร์ที่ เป็นวัยรุ่น Gen - Z คาแร็กเตอร์นี้ค่อนข้างเป็นตัวของ Tom Holland เองเลย Version นี้นับภาพแทนของวัยรุ่น Gen Z ที่ชอบความท้าทาย คิดนอกกรอบ มีไหวพริบ คิดไว ทำไว อยู่ไม่สุข ช่างพูด เชื่อมต่อกับเทคโนโลยีอยู่ตลอดเวลา และตัวปีเตอร์ในภาคนี้ยังคงความเด็กเนิร์ดและขี้อายอยู่แต่ไม่เท่าเวอร์ชั่นแรก เพราะเพิ่มความตลกและขี้เล่นมีความเป็นเด็กมากกว่าทุกเวอร์ชั่นที่ผ่านมา อาจเห็นได้จากการตัดสินใจการทำอะไรต่าง ๆ ที่ดูคิดไม่รอบคอบบางครั้ง และ ความเฟลที่เกิดขึ้นบ่อยกับตัวเขา แต่นั้นเองก็ทำให้เห็นได้ว่าเขาเป็นคนมีความอดทนมานะพยายามรับผิดชอบและไม่ท้อ สไปเดอร์แมนในเวอร์ชั่นนี้แล้วจึงรู้สึกว่าตัวละครนี้น่ารักเป็นที่คุ้นเคยและเป็นตัวแทนของฮีโร่รุ่นใหม่ เรื่องราวการเป็นฮีโร่ ฉากการได้รับพลัง และจุดพลิกผัน ขอรวบทุกอย่างไว้เลย เรื่องราวการเป็นฮีโร่ ฉากการได้รับพลัง ไม่ถูกแสดงให้เห็นในหนังจึงพอเดาได้ว่าเรื่องคงดำเนินตาม Comics ฉากที่โทนี สตาร์ค มอบชุดและโอกาสเข้าทีมให้กับปีเตอร์อาจเรียกได้ว่าเป็นทั้งฉากการได้รับพลังหรือจุดพลิกผันก็ได้ นอกจากนี้จุดพลิกผัน Spider-Man เวอร์ชั่นของมาร์เวลนั้นมีอีกหลายฉากแล้วแต่จะตีความ ทั้งนี้การตายของ (ต่อไปเป็นสปอยล์ หากใครยังไม่ดู End Game ข้ามนะคะ) โทนี่ สตาร์ค ก็เป็นอีกจุดพลิกผันในชีวิตเขาเหมือนกัน ในเวอร์ชั่นของมาร์เวลนั้นได้ปรับทั้งบทและตัวละครเข้ากับยุคสมัยและเอาใจแฟนไปได้อย่างมาก มีการเล่าเรื่องในมุมที่แปลกออกไป เรื่องราวค่อนข้างสนุกตื่นเต้นและรู้สึกใกล้ตัวสัมผัสได้Bonus พิเศษเล็กน้อย คือReview การ์ตูนแอนิเมชั่น " SPIDER-MAN: INTO THE SPIDER-VERSE "มาพร้อมกับเพลงประกอบสุดฮิตติดหู อย่างPost Malone, Swae Lee - Sunflower ตามไปฟังและดูตัวอย่างหนังกันได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=ApXoWvfEYVU เปรียบเทียบตัวละครแต่ละภาค หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์และเพิ่มอรรถรสในการดู Spider - Man แต่ละ Version ของผู้ที่อยากติดตามดูนะคะ :) การวิจารณ์วิเคราะห์ ภาพยนตร์และตัวละครข้างต้น เป็น ความคิดเห็นส่วนตัวของเราเอง หากใช้คำพูดหรือวิจารณ์ที่ทำให้ใครรู้สึกไม่ถูกใจ หรือหากมีข้อมูลไม่ถูกต้อง ขออภัยในที่นี้ไว้ด้วยค่ะ จะรับคำวิจารณ์และปรับปรุงในครั้งต่อไปค่ะจะฟังเพลงหรือดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID โหลดฟรี !Credit ภาพ : ภาพสกรีนแคปจากภาพยนตร์ Spider - Man ใน Version ต่างๆ ภาพยนตร์ Spider - Man 2002 และ ภาพโปสเตอร์หนัง https://pmcvariety.files.wordpress.com/2014/04/08-spider-man-2002.jpg?w=1000&h=563&crop=1ภาพยนตร์ The Amazing Spider - Man 2012 และ ภาพโปสเตอร์หนัง https://fffmovieposters.com/wp-content/uploads/73686.jpgภาพสกรีนแคป จากภาพยนตร์ Captain America Civil War และ Spider - Man 2017 และ ภาพโปสเตอร์หนัง https://www.movie2z.com/imgmovie/1216SPIDERMAN-HOMECOMING.jpg