การตัดสินใจยื่นขอขึ้นบัญชีย้ายทีมของ ลิโอเนล เมสซี่ ซูเปอร์สตาร์คนสำคัญของโลกลูกหนังวัย 33 ปี สร้างความสั่นสะท้านไปทั้งวงการฟุตบอล ใครล่ะจะเชื่อว่านักเตะเจ้าของรางวัลฟีฟ่าบัลลงดอร์ 6 สมัย ที่อยู่กับบาร์เซโลน่ามาร่วม 20 ปีตั้งแต่ระดับเยาวชน จะตัดสินใจครั้งสำคัญอำลาทีมจากการจบฤดูกาลด้วยมือเปล่า และข่าวความขัดแย้งกับบอร์ดบริหารที่มีให้เห็นเป็นระยะ แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่านั่นคือ เมสซี่จะไปไหน? มีสโมสรมากมายอยากได้ไปร่วมทีม แต่ก็มีเพียงไม่กี่ทีมในโลกที่มีศักยภาพในการจ่ายค่าเหนื่อยจำนวนมหาศาลไหว เราจะมาวิเคราะห์ความเป็นไปได้ถึงโอกาสในการคว้าตัว เมสซี่ ไปร่วมทีม ว่าจะมีความเป็นไปได้มากน้อยแค่ไหน อันดับแรกเราต้องมาดูเงื่อนไขสัญญาของเมสซี่กันก่อน ปัจจุบันได้รับค่าเหนื่อยกับบาร์เซโลน่าปีละ 54.32 ล้านปอนด์ หรือปีละ 2,172 ล้านบาท ยังไม่รวมโบนัสทีมได้แชมป์ 13 ล้านปอนด์ (520 ล้านบาท) ค่าลิขสิทธิ์การใช้ภาพลักษณ์ 9.1 ล้านปอนด์ (364 ล้านบาท) และเงินกินเปล่าค่าเซ็นสัญญา 120 ล้านปอนด์ (4,800 ล้านบาท) ยังไม่นับค่าฉีกสัญญาที่เจ้าบุญทุ่มตั้งไว้ถึง 700 ปอนด์ แต่ประเด็นนี้พอจะมีช่องเนื่องจากเมสซี่มีเงื่อนไขพิเศษสามารถเลือกย้ายทีมได้เองโดยไม่ต้องจ่ายค่าฉีกสัญญา แต่ต้องแจ้งก่อนวันที่ 30 พ.ค. หรือ ก่อนตลาดซื้อขายปิด ซึ่งจากปัญหาโควิด-19 ทำให้ช่วงเวลานี้ยังอยู่ในช่วงตลาดเปิดทำการเป็นไปตามเงื่อนไขที่สามารถย้ายทีมได้ก่อนตลาดซื้อขายปิด เอาเป็นว่าตัดประเด็นนี้ไปเหลือแค่เงื่อนไขรายได้ส่วนตัวจึงเหลือแค่ อินเตอร์มิลาน , ปารีส แซงต์ แชร์กแมง , เชลซี และ 2 ทีมจากเมืองแมนเชสเตอร์ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และแมนเชสเตอร์ซิตี เริ่มกันที่ อินเตอร์มิลาน ภายใต้กลุ่มทุนจากจีนเรื่องการเงินจึงไม่ต้องห่วง ถ้าส่องกล้องมองไปที่บอลอิตาลียังพอมี ยูเวนตุส อีกทีมที่พอจะทุ่มค่าเหนื่อยได้ แต่มีประเด็นตรงที่เมสซี่ไม่น่าจะไปร่วมทีมเดียวกับ คริสเตียโน โรนัลโด้ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด จึงเหลือแค่อินเตอร์มิลานสโมสรเดียวที่เป็นตัวเลือกหากเมสซี่คิดจะไปเล่นใน กัลโชเซเรียอา อินเตอร์ฯ แม้จะจบลงที่ตำแหน่งรองแชมป์ ได้ตั๋วไปลุยฟุตบอลยุโรปถ้วยใหญ่ แต่ก็ไม่มีอะไรการันตีว่าจะไปได้ไกล โดยเฉพาะในฤดูกาลที่ผ่านมาร่วงแค่รอบแรก ยังไม่ตอบโจทย์เมสซี่ที่ยังโหยหาความสำเร็จในระดับสูง แถมในลีกยังเป็นพระรอง ยูเวนตุส ของโรนัลโด้ จึงถือว่ามีโอกาสน้อยที่จะเห็นเมสซี่ได้ไปโลดแล่นในอิตาลี จนแทบจะตัดออกไปได้เลย มาต่อกันกับสโมสรเงินถุงเงินถังจากเมืองน้ำหอมฝรั่งเศส ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ไม่มีใครสงสัยเรื่องค่าเหนื่อยเพราะจ่ายได้ไม่มีปัญหาแน่นอน แถมยังมีเพื่อนเก่าจากบาร์เซโลน่าอย่าง เนย์มาร์ แถมมีแก๊งนักเตะอาร์เจนตินาบ้านเกิด เลอันโดร ปาเรเดส , อังเคล ดิมาเรีย และเมาโร อิคาร์ดี้ การันตีว่าไม่เหงา แถมยังผูกขาดแชมป์ลีกเอิงมีถ้วยให้ชูแบบแทบจะ 100 เปอร์เซ็นต์ เป็นอีกตัวเลือกน่าสนใจที่ขอยกให้เป็นเต็ง 2 ข้ามฟากมาที่เกาะอังกฤษเริ่มกันที่ เชลซี ที่อั้นการเสริมทัพมาจากฤดูกาลที่แล้วจากโทษแบนห้ามซื้อขาย และความมุ่งมั่นของเสี่ยหมี โรมัน อับราโมวิช ที่แสดงความชัดเจนว่าต้องการตัวเมสซี่มาทุกรอบเมื่อมีข่าวว่าจะย้ายทีม แต่ปัญหาอยู่ที่ฤดูกาลนี้เสริมตัวซัดไปแล้ว 200 ล้านปอนด์ ยังไม่นับ เบน ชิลเวลล์ ที่เพิ่งจะเปิดตัวไปอีก 50 ล้าน ถ้าต้องแข่งทุ่มเงินกินเปล่าให้เมสซี่กับทีมอื่น ที่ว่ากันว่าอาจจะถึง 200 ล้านปอนด์ อาจจะไปซ้ำรอยกฎ แฟร์เพลย์ ที่เพิ่งจะพ้นโทษมา แต่ก็มีทางเลี่ยงด้วยการขายตัวเดิมออกไป เรียกว่าขอให้มาจริง เชลซีมีวิธีด้านการเงินไม่ให้ผิดกฎ แต่ปัญหาคือถ้าเมสซี่จะมาอังกฤษจริงมันมีทีมอื่นน่าสนใจกว่าที่กำลังจะพูดถึงลำดับต่อไปนี้ จึงไม่ขอจัดอันดับให้เชลซีเป็นตัวเลือกน่าสนใจของเมสซี่ที่จะเลือกมา แมนเชสเตอร์ซิตี มีเหตุผลเดียวที่พิเศษกว่าทีมอื่นแบบสุด ๆ ที่เมสซี่จะเลือกมาคือที่นี่มี เป๊ป กวาดิโอร่า ที่เจ้าตัวแทบจะนับถือเป็นพ่อคนที่สอง ปลุกปั้น ร่วมทุกข์ร่วมสุขมาตลอด 10 ปีที่คุมบาร์เซโลน่า และยืนยันให้ข่าวลือหนักแน่นขึ้นด้วยการปรากฏตัวของ ฮอร์เก้ เมสซี่ คุณพ่อที่เปรียบเป็นผู้จัดการส่วนตัวที่เมืองแมนเชสเตอร์ เพื่อตกลงเงื่อนไขขั้นสุดท้ายกับเรือใบสีฟ้า และความกระหายในการเป็นแชมป์ยุโรปถือว่าตอบโจทย์ความต้องการของเมสซี่ แถมยังมี กุน อเกวโร่ เพื่อนรักที่เข้าขากันในทีมชาติ จึงขอยกให้เป็นเต็ง 1 ที่เป็นไปได้ที่สุดในการมาร่วมทีม แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด มาอยู่ในลิสต์ทีมเต็งกับเค้า ทำไมคนถึงจับมาโยง? แมนยูฯ คือทีมที่ตัวเมสซี่เองเคยเอ่ยปากว่าในอนาคตอยากจะมาร่วมทีม แต่วิเคราะห์ดูแล้วในยุคสมัยที่เมสซี่เคยพูดตั้งแต่ยุค “เฟอร์กี้” อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ที่ปัจจัยบารมีของทีม และความสำเร็จในช่วงหลังค่อนข้างต่างจากในยุคที่ผ่านมา ถ้าจะบอกว่าอินเตอร์มิลานไม่มีลุ้นในถ้วยยุโรป เมสซี่ก็อาจจะคิดกับ แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในทำนองเดียวกัน บวกกับพฤติกรรมเรื่องเงินของบอร์ดบริหารในระยะหลังที่ ใจไม่ถึง จึงขอมองว่าโอกาสเกิดดีลประวัติศาสตร์กับผีแดง แทบจะปิดประตูไม่เกิดขึ้นแน่นอน จึงเหลือม้าสองตัวคือแมนซิตี้ และปารีสฯ ที่เป็นเต็ง 1 และเต็ง 2 ตามลำดับ แม้จะมีทีมจากจีน , อเมริกา หรือตะวันออกกลางที่แสดงความสนใจแต่ยังไม่มีน้ำหนัก และสตอรีมากพอที่จะเย้ายวนความสำเร็จในระดับสูงตามความต้องการของเจ้าตัว ถ้าผิดไปจาก 2 ตัวเลือกยักษ์ใหญ่ของยุโรป น่าจะไปลงล็อกที่เจ้าตัวต่อสัญญากับสโมสรเดิม แต่ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นจนถึงขั้นขู่ขึ้นโรงขึ้นศาล และความไม่พอใจของแฟนบอล มันมาไกลเกินกว่าที่เมสซี่จะเลือกถอยกลับไป เมื่อพิจารณาจากปัจจัยประกอบ ขอฟันธงว่าอีกไม่นานเราจะได้เห็น ดีลประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นที่สนามซิตีออฟแมนเชสเตอร์ ของเรือใบสีฟ้าอย่างแน่นอน อัปเดตเรื่องราวในวงการฟุตบอล และกีฬาทั่วโลกได้ที่ sport.trueid.net และวันหน้ามาติดตามเรื่องราวดี ๆ แบบนี้กันได้อีกครับ 🤗.. ภาพประกอบโดย sport.trueid.net ภาพปก 1,2 / ภาพที่ 1 / ภาพที่ 2 / ภาพที่ 3 / ภาพที่ 4 / ภาพที่ 5