ยะโฮร์บาห์รู (Johor Bahru) มีชื่อเดิมว่า อิซกันดาร์ปูเตอรี เเละ ตันจุงปูเตอรี เป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับที่สองของประเทศมาเลเซีย ตั้งอยู่ทางใต้สุดของคาบสมุทรมลายูและใต้สุดของแผ่นดินยูเรเชีย เเละเมืองนี้มีประชากรราว 1.5 ล้านคน มีประชากรมากเป็นอันดับสองของประเทศรองจากกัวลาลัมเปอร์ซึ่งเป็นเป็นเมืองหลวงของประเทศมาเลเซีย เเละที่สำคัญเมือง Johor Bahru เป็นเมืองที่สำคัญทางอุตสาหกรรม ที่ใหญ่ที่สุดทางใต้ของมาเลเซียเลยทีเดียว ดิฉันจะมาเล่าประสบการณ์การไปเที่ยวยะโฮร์บาห์รู 6 วัน 5 คืน โดยมีคุณป้าเเละพี่สาวไปด้วย รวมเป็น 3 คนค่ะ ในการไปเที่ยวครั้งนี้ ดิฉันต้องเตรียมตัวนานมาก เพื่อจัดเก็บสัมภาระเพราะไปกัน 6 วันเลยค่ะ จึงต้องเตรียมของเยอะหน่อย ฉันตื่นเต้นมาก ๆ ที่จะได้ไปประเทศมาเลเซีย เพราะยังไม่เคยไปมาก่อนเลยค่ะ พวกเราเดินทางไปยะโฮร์บาห์รูโดยสายการบิน AirAsia ค่ะ เพราะมีบินตรงด้วย เเต่พวกเราอาศัยอยู่ต่างจังหวัด เลยต้องนั่งเครื่องบินจากเชียงรายไปกรุงเทพฯ เเละกรุงเทพฯ ไปยังยะโฮร์บาห์รู ในตอนที่เครื่องมาถึงกรุงเทพฯ เเล้ว พวกเรามีไฟลท์ต่อเพื่อที่จะบินไปยะโฮร์บาห์รูเลยค่ะ ตอนนั้นฉิวเฉียดมาก เพราะมาถึงสนามบินดอนเมืองช้าเกินไป เลยต้องวิ่งกันอย่างรวดเร็ว เพื่อที่จะได้ไม่ตกเครื่องตอนบินไปที่ยะโฮร์บาห์รูค่ะ ในตอนนั้นฉันเหนื่อยมาก ๆ เพราะผู้คนในสนามบินก็เยอะมาก เเถมยังต้องวิ่งให้เร็วที่สุดในชีวิตอีกด้วย ตกใจมาก ๆ เลยค่ะ เพราะชีวิตนี้ไม่เคยมีความคิดที่อาจจะตกเครื่องเลยค่ะ ถือเป็นประสบการณ์ชีวิตที่ฉิวเฉียด เเละอยากเเนะนำทุกคน ๆ ให้บริหารเวลาดี ๆ นะคะ จะได้ไม่ต้องวิ่งเหนื่อยหอบ เเบบฉัน พอมาถึงสนามบิน คุณลุงที่รู้จักกับพี่สาวดิฉัน เขาเป็นคนพาเที่ยวค่ะ เเละจองที่พักให้ เพราะเขาเป็นคนที่นี่ พวกเราเลยเหมือนมีไกด์นำเที่ยวเลย คุณลุงใจดีมาก พาไปกินของอร่อย ๆ เเละอาหารประจำท้องถิ่นด้วยค่ะ อากาศที่ยะโฮร์บาห์รูค่อนข้างคล้ายที่ประเทศไทยเลยค่ะ อากาศร้อนชื้น เเต่เเน่นอนค่ะ ประเทศไทยเเดดเเรงกว่าเยอะเลย พวกเราพักอยู่ที่ Tebrau Johor Hotel Malaysia ที่นี่สะดวกมาก ๆ ค่ะ เพราะข้างๆที่พัก เป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ สามารถเดินไปได้เลยค่ะ สะดวกสบายไม่ว่าจะไปหาอาหารกิน ช้อปปิ้งหรือซื้อของต่าง ๆ ที่นี่มีห้างสรรพสินค้าเยอะเเยะมากมายเลยค่ะ อาหารประจำชาติของประเทศมาเลเซีย คือ นาซิ เลอมัก ( Nasi Lemak ) เป็นข้าวหุงกับกะทิและใบเตย ทานพร้อมเครื่องเคียง 4 อย่าง ได้แก่ ปลากะตักทอดกรอบ ถั่วอบ ไข่ต้มสุก เเละแตงกวาหั่น ส่วนตัวยังไม่เคยลองนะคะ เเต่คิดว่าน่าจะอร่อยเเน่นอนค่ะ ประชากรส่วนใหญ่ของประเทศมาเลเซียจะเป็นคนมุสลิม เเละมีคนเชื้อสายจีนจำนวนไม่น้อยเลยค่ะ พอ ๆ กับประเทศสิงคโปร์ ทำให้มีอาหารหลากหลายเชื้อชาติ มีร้านอาหารที่ดิฉันประทับใจมากมายหลายร้าน ร้านเเรก คือ De Fortune Restaurant เป็นร้านอาหารเเบบโต๊ะจีนค่ะ มีทั้งเป็ดเเละกุ้ง ส่วนใหญ่น่าจะเป็นอาหารสำหรับสุขภาพด้วย เพราะมีสมุนไพรหลายอย่างมากค่ะ ร้านนี้ก็เป็นสไตล์จีน มีพื้นที่กว้างขวางมาก พนักงานบริการดี น่าประทับใจค่ะ ร้านที่ 2 เป็นร้านที่มีชื่อเสียงมากทั้งในประเทศมาเลเซีย เเละประเทศสิงคโปร์ คือ ร้าน Souper Tang เมนูที่ชอบที่สุดในร้านนี้เลย ก็คือ หมูสามชั้น ซอสดำเเละหมั่นโถวค่ะ หมูสามชั้นมีความนุ่มมาก เเละละลายในปากตัวซอสมีความหวานนำ เเละแป้งหมั่นโถวงานุ่มมาก ๆ เนื้อแป้งเเน่น กินกับหมูสามชั้นเเล้วเข้ากันได้ดีมาก ๆ ค่ะ ทำให้รู้สึกเหมือนกินขาหมูหมั่นโถวเลยล่ะค่ะ สาวกหมูสามชั้นห้ามพลาดกับเมนูนี้เลยนะคะ เเละร้านสุดท้ายที่อยากเเนะนำ คือ ร้าน Broovies Cafe ตั้งอยู่ที่ Kulai Indahpura เป็นร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ไม่ใหญ่มากเเละการตกแต่งร้านเป็นสไตล์อังกฤษ ทำให้มีบรรยากาศอบอุ่นค่ะ ร้านนี้ไม่ได้มีเเค่คาเฟ่กาแฟธรรมดาทั่วไปแต่อาหารร้านนี้อร่อยมากค่ะ โดยเฉพาะเมนูสปาเก็ตตี้ ที่ลองทานเเล้วต้องสั่งเบิ้ลเลยล่ะค่ะ เพราะอร่อยมากจริง ๆไม่เคยกินสปาเก็ตตี้ที่ไหนที่อร่อยได้เท่าที่นี่เเล้ว ถ้ามีโอกาสได้ไปมาเลเซียจะต้องไปร้าน Broovies Cafe อีกเเน่นอนค่ะ เเต่อีก 1 เมนูที่อยากเเนะนำก็จะเป็นพวกสเต็กหมูเเละสเต็กเนื้อเพราะชิ้นใหญ่มากๆ รสชาติกลมกล่อม ตัวซอสมีความเข้มข้นมากค่ะ กินกับ สเต็กแล้วเข้ากันได้ดีมาก ส่วนของหวานร้านนี้ก็น่ารับประทานเช่นเดียวกันค่ะ สถานที่ท่องเที่ยวที่พวกเราไปบ่อยที่สุดเลย ก็คือ Johor premium outlet ค่ะ เป็น Outlet Mall แห่งแรกที่เปิดในประเทศมาเลเซีย เป็นศูนย์รวมการช้อปปิ้งของเเบรนด์เนมชื่อดัง ไม่ว่าจะเป็น Adidas, Nike, Converse, Gucci , Lacoste เเละอื่น ๆ อีกมากมายเลยค่ะ เเต่ทีนี่ก็ยังมีร้านอาหารชื่อดังอีกมากมาย เช่น Souper Tang ที่นี่มีร้านอาหารไทยด้วยค่ะ คือ ร้าน Absolute Thai Johor Premium Outlets รสชาติอาจจะไม่ได้ไทยเเท้ เเต่ก็มีความจัดจ้านพอควร ที่นี่เป็นที่ ๆ พวกเราซื้อของฝากและเสื้อผ้ากันค่ะ เพราะสะดวกสบายเเละเดินง่ายมาก ๆ อากาศไม่ร้อนจนเกินไป เพราะวันที่ไปมีฝนตกเล็กน้อย สาวกเเบรนด์เนมไม่ควรพลาดค่ะ เพราะที่นี่มีส่วนลดมากมาย ของ SALE ก็เยอะเช่นกันค่ะ ห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้ที่พักของพวกเรา คือ Paradigm mall Johor bahru เป็นห้างสรรพสินค้าที่ใหญ่พอตัว คล้าย ๆ กับ Central ประเทศไทยค่ะ สิ่งที่ประทับใจ ก็คือ ร้าน Daiso ของที่นี่ราคาถูกกว่าประเทศไทยมากค่ะ ส่วนใหญ่ Daiso ที่ประเทศไทยราคาสินค้าอยู่ที่ 60 บาท เเต่ที่นี่ประมาณ 6.70 ริงกิตมาเลเซีย ตีเป็นเงินไทยประมาณ 49 บาท ราคาค่อนข้างถูกเลยล่ะค่ะ พวกเราเลยใช้เวลาอยู่ที่ Daiso เยอะมากเเละสินค้าก็มีมากมายด้วย พวกเราเดินทางกลับที่สนามบินนานาชาติ Senai International Airport เป็นสนามบินที่ใหญ่มากค่ะ มีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองอย่างเคร่งครัด การเดินทางครั้งนี้สนุกสนาน เเละอิ่มหนำสำราญมากเลยค่ะ ผู้คนประเทศมาเลเซียเป็นมิตรมาก ดิฉันจะไม่ลืมความทรงจำดี ๆ ที่นี่เลย ภาพทั้งหมดโดย : ผู้เขียน