ในที่สุดนายแม่ก็ยอมออกจากบ้าน หลักจากกักตัวเองมานาน 47 วัน เมื่อเพื่อนนายแม่โทรมาหา ชวนไปเก็บผักเฮือดยอดอ่อน ๆ ใช่ค่ะ เค้าเรียกตัวเองว่า "ผักเฮือด" จากการค้นหาข้อมูล อาหารพื้นบ้านล้านนา ศูนย์สนเทศภาคเหนือ สำนักหอสมุดมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ชื่อทางเหนืออีกชื่อของเค้าคือ ผักฮี้ ถ้าชื่อโบราณล้านนาหน่อยก็จะชื่อว่า ผักเฮือก แต่ถ้าเค้าไปอยู่ภาคกลางหรือภาคใต้ เค้าก็จะชื่อว่า ผักเลือด ผักเลียบ จ้า ส่วนประโยชน์ต่อสุขภาพ คุณค่าทางโภชนาการของ ผักเฮือด ก็มีทั้ง แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามินเอ ใช้ใบและยอดอ่อนที่ยังไม่คลี่ใช้เป็นผักแกงกับเนื้อหมูหรือเนื้อไก่ มีรสฝาดอมเปรี้ยว หรือนำไปนึ่งจิ้มน้ำพริก หรือใช้ยำ เรียกว่า ยำผักเฮือด ก็ได้นะคะ แต่สำหรับวันนี้ นายแม่อยากจัด "แกงผักเฮือด" จ้า กลับจากทำงาน ก็พบผักเฮือดที่นายแม่ต้มไว้รอแล้ว ส่วนผสมหลักในวันนี้ - ผักเฮือด 1 หม้อใหญ่ ฟรีจากเพื่อนนายแม่ - กระดูกหมูอ่อน 20 บาท จากตลาด - มะเขือเทศจานละ 10 บาท จากตลาด - พริกแกงส้ม 10 บาท จากตลาดเช่นกันจ้า - เพิ่มรสชาติเครื่องแกงด้วย หอมแดง 2 หัว กระเทียม 3 กลีบ กะปิอีกเล็กน้อย พอให้เพิ่มรสชาติเครื่องแกง เริ่มภารกิจมือใหม่หัดปรุงได้เลย - ตั้งหม้อแกง ใส่น้ำเปล่าประมาณครึ่งหม้อ รอน้ำเดือด ใส่กระดูกหมูอ่อน รอหมูเปื่อยกันก่อนเลย - ระหว่างรอก็มาเพิ่มรสชาติเครื่องแกงกันเหมือนเดิม ตำ ตำ ให้พอเข้ากัน - หมูเปื่อยพอได้ที่แล้ว ก็เอามะเขือเทศ ผักเฮือด เครื่องแกง ใส่ลงไปได้เลย - อ่อ แล้วอย่าลืมเคล็ดไม่ลับ ที่นายแม่ย้ำไว้ น้ำล้างครก ใส่ลงไปด้วยนะคะ (บางบ้านถือ แต่บ้านนี้ไม่ถือจ้า) - รอจนผักเปื่อยที่นายแม่พอทานได้ บ้านนี้ก็ปรุงรส ด้วย น้ำปลาร้า ซีอิ้วขาว ชิมรส ยกลงจากเตาพร้อมเสิรฟ์ได้เลยจ้า ถ้าจะถามว่ารสชาติเป็นอย่างไรบ้าง ... ก็จะคล้าย ๆ แกงส้ม เปรี้ยวนิด ๆ ผักเฮือดยอดอ่อน ๆ ก็จะไม่ฝาด พอทานได้อร่อยเลยค่ะ ถ้าได้ลองทำเมนูยำน่าจะอร่อยไปอีกแบบ ส่วนวันนี้แกงหม้อใหญ่เลยค่ะ เตรียมถุงให้พร้อม ตักแกงเผื่อเพื่อนนายแม่ได้เลย ^^ ภาพประกอบโดย ผู้เขียน