วันนี้ขอแนะนำอาชีพยอดฮิตติดลมบน ที่คนนิยมทำในช่วง work from home มากที่สุดอาชีพนึงเลยก็ว่าได้ ใช่ครับนั่นคือ อาชีพเขียนนิยายออนไลน์ ซึ่งมันเป็นอาชีพได้จริง ๆ ตัวนักเขียนเองมีความเชื่อว่า ผู้ที่คิดจะเริ่มเขียนนิยายนั้น ก็ต้องเป็นผู้ที่ชอบอ่านนิยายด้วยเช่นกัน หรืออย่างน้อยก็ต้องเคยอ่านนิยายมาแล้ว สัก 4-5 เล่ม ดังนั้นสำหรับคนที่คิดจะเริ่ม วันนี้นักเขียนขอเสนอ 5 วิธี สำหรับมือใหม่หัดเขียนนิยายออนไลน์ ซึ่งกลั่นมาจากประสบการณ์โดยตรง ของตัวนักเขียนเอง 1. ตัดความกังวลและถามตัวเองใช่ครับ คนที่ปกติเป็นนักอ่านเพียงอย่างเดียว แต่พอตัดสินใจได้ว่าอยากจะเป็นคนเขียนให้ผู้อื่นอ่านบ้าง ความกังวลต่าง ๆ จะเข้ามาเกาะกินจิตใจเรา เช่น ไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง เขียนเสร็จแล้วจะเอาไปขายที่ไหน จะมีคนอ่านจริงเหรอ ตัดครับ ตัดออกไปจากความคิดให้หมด สูดหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วเดินไปหยิบนิยายที่เราเคยอ่านมาดู แล้วถามตัวเองว่าเราชอบนิยายแนวนี้จริงหรือเปล่า ถ้าไม่จริงก็เค้นเอาความจริงมาให้ได้ครับ ว่าชอบนิยาย แนว รัก โรแมนติก แฟนตาซี สยองขวัญ พอได้แนวที่ชอบแล้ว ก็นึกภาพเราเดินขึ้นไปรับรางวัลนักเขียนดีเด่นแห่งยุค และกำหนดแนวทางที่จะใช้เขียน เช่น ฉันจะเขียนนิยายรักน้ำเน่า ที่เน่าและเน่าที่สุด เป็นต้น 2. หาข้อมูลและวิธีการ เมื่อได้แนวนิยายที่ชื่นชอบแล้ว ข้อมูลในสิ่งที่ตัวเราชอบก็ต้องแน่นตามด้วย การจะสร้างนิยายสักหนึ่งเรื่องนั้นองค์ประกอบที่สำคัญจะมีอยู่ทั้งหมด 6 อย่าง ซึ่ง 6 อย่างนี้พอนำมารวมกัน ก็จะได้นิยายหนึ่งเรื่อง 2.1 แก่นของเรื่อง คือ หัวใจของเรื่องที่เราจะเขียน ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร เช่น เขียนเกี่ยวกับความรัก เขียนเกี่ยวกับความสามัคคี เป็นต้น กำหนดให้ชัดเจน แก่นของเรื่องเปรียบได้ดั่งเสาหลัก ให้เรายึดเหนี่ยวไม่ให้ออกนอกเส้นทาง เพราะถ้าหากไม่มีหลักให้ยึดเหนี่ยว อาจทำให้เราออกทะเลไปไกลก็เป็นได้ ตัวอย่าง แก่นของเรื่อง คือ ความสามัคคี "เท่ากับว่าเราได้แก่นของเรื่องแล้ว องค์ประกอบได้ 1 อย่างแล้วนะ"2.2 ฉากคือ สถานที่ หรือว่าเวลา เมื่อเรารู้แล้ว่าจะเขียนนิยายแนวไหนเกี่ยวกับอะไร เราก็สร้างฉากขึ้นมา ความสำคัญของฉากนั้น สามารถทำให้ผู้อ่านสัมผัสได้ถึงความรู้สึกของแก่นเรื่อง และฉากที่ดีควรเชื่อมกับแก่นเรื่อง ตัวอย่าง "ให้ฉากของเรื่องเกิดขึ้นที่เขาชนไก่ จังหวัดกาญจนบุรี " องค์ประกอบที่ 2 คือเขาชนไก่ เมื่อนำองค์ประกอบที่ 1 กับ 2 มารวมกัน ( แก่นเรื่อง + ฉาก ) ก็จะได้ "ความสามัคคีที่เขาชนไก่" 2.3 ตัวละคร คือ คนที่คอยกระทำหรือแสดงพฤติกรรมต่าง ๆ ในนิยาย ซึ่งถือเป็นองค์ประกอบที่สำคัญ เพราะหากไร้ซึ่งตัวละคร ก็จะไม่มีใครคอยแสดงเหตุการณ์ต่าง ๆ ตัวอย่าง ให้ตัวละครเป็นกลุ่มเด็กนักเรียน ร.ด. 5 คน พอได้แบบนี้แล้วก็จับองค์ประกอบมารวมกันดู (แก่นเรื่อง + ฉาก + ตัวละคร) ก็จะเป็น "ความสามัคคีที่เขาชนไก่ ของกลุ่มเด็ก ร.ด." ไปตามหาองค์ประกอบที่ 4 ต่อ 2.4 ปมของเรื่อง หมายถึง การกระทำ หรือ เหตุการณ์บางอย่างที่เกิดขึ้น จนก่อให้เกิดเป็นปม หรือปัญหาที่จะต้องแก้ไขตามมา ตัวอย่าง "ทะเลาะ ชกต่อย" ได้ปมของเรื่องแล้ว ก็จับมารวมกันเหมือนเดิม (แก่นของเรื่อง + ฉาก + ตัวละคร + ปมขัดแย้ง) ก็จะได้เป็น "ความสามัคคี ที่เขาชนไก่ ของนักเรียน ร.ด.5 คน และการทะเลาะ ชกต่อย" ตามหาองค์ประกอบต่อไป 2.5 โครงเรื่อง ( plot) หมายถึง การเล่าเรื่อง หรือ อธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องราวในนิยาย โดยมีจินตนาการของนักเขียน เป็นตัวกำหนด ตัวอย่าง (แก่นของเรื่อง + ฉาก + ตัวละคร + ปมขัดแย้ง) จะได้เป็น กลุ่มเด็กนักเรียน ร.ด. 5 คน เกิดหลงทางในระหว่างการฝึกวิชาทหารที่เขาชนไก่ อันปกคลุมด้วยพงไพรหนาทึบ พวกเขาทั้ง 5 คน ทั้งหิว และหนาว ได้เดินโซซัดโซเซ จนมาพบกับทางแยก ประหนึ่งสวรรค์มอบบททดสอบ ทั้ง 5 คน เกิดคิดเห็นไม่ตรงกัน จนถึงขั้นสะบั้นความสามัคคี ทะเลาะ ต่อยตี และแยกจากกันเป็นสองทาง ทางซ้ายเจอหมี ทางขวาเจอเสือ ร.ด. ทั้ง 5 คนจะเป็นเช่นไร โปรดติดตามตอนต่อไป 555 ประมาณนี้2.6 มุมมอง ( point of view )หมายถึง มุมมองของนักเขียนที่มีต่อนิยาย พูดง่าย ๆ คือ เราจะเล่านิยายที่แต่งขึ้นด้วยมุมมองแบบไหน ซึ่งมุมมองที่นิยมในการเล่ามี 2 แบบ คือมุมมองบุรุษที่หนึ่ง อธิบายง่าย ๆ คือ มุมมองของตัวเราเอง ของฉัน หรือของข้าพเจ้า ประหนึ่งว่า ตัวเองเคยเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ และรอดชีวิตกลับมา ตัวอย่าง "ผมเป็นหนึ่งในกลุ่มเด็กนักเรียน ร.ด. ทั้ง 5 คนครับ หลังจากที่พวกเราแยกทางกัน ผมก็ออกเดินทางกับเพื่อนอีกคนนึง จนกระทั่งไปเจอหมีตัวใหญ่ ผมสามารถรอดชีวิตกลับมาได้ ด้วยการแกล้งตาย" อะไรประมาณนี้มุมมองบุรุษที่สามอธิบายง่าย ๆ คือ มุมมองกล้อง ลองนึกภาพตัวเรามองผ่านเลนส์กล้องดูครับ ตัวอย่าง "ณ สถานที่รกร้างที่เรียกกันว่าเขาชนไก่ ได้ปรากฏร่างของเด็กชาย 5 คนในชุดสีขี้ม้า ทั้ง 5 คน พลัดหลงกับเพื่อนโรงเรียนเดียวกัน และ เดินตามลำธารใสสะอาดไปเรื่อย ! ฟิ้ว เสียงลมพัดเย็นสดับกับเสียงนกร้อง พลันปรากฏทางแยกออกเป็นสองทาง ! ตุบ ตุบ เสียงรัวหมัดจากเด็กชายคนหนึ่งดังขึ้น พร้อมความเห็นที่แตกต่าง หลังแยกทางกันไม่นาน ก็ปรากฏเสียงคำรามสนั่นพงไพร ! โฮก เจ้าเสือร้องคำรามพร้อมพุ่งแหวกอากาศ ปราศจากความปราณี เข้าฉีกทึ้งร่างเด็กทั้ง 2 " ประมาณนี้ พอได้ไหม 3. สำรวจความนิยมและกำหนดกลุ่มเป้าหมายเวลาที่ว่าง ๆ ลองไปเดินสำรวจร้านหนังสือ ที่เราแทบจะไม่ค่อยได้ไป ดูซิว่านิยายที่ขายดิบขายดีนั้นเขามีโครงเรื่องแบบไหน หรือหาข้อมูลจาก google ดูซิ แนวนิยายแบบที่เราเขียนอยู่ ต้องดำเนินเรื่องยังไงถึงจะสนุก หรือนักอ่านช่วงอายุประมาณไหน ที่ชอบอ่านแนวที่เราเขียน เผื่อจะได้ไปหาโพสต์ให้เขาลองอ่านดู 4. ช่องทางการลงนิยายขาย ทุกวันนี้ มีแอปพลิเคชันลงขายนิยายให้เลือกค่อนข้างเยอะ นักเขียนสามารถเลือกที่จะขายกับแอปใดก็ได้ การลงขายตามแอปนั้น สามารถเลือกได้อีกด้วยว่าจะขายเป็น e-book หรือ จะทยอยขายทีละตอน ก็สามารถที่จะทำได้เช่นเดียวกัน ดังรูปตัวอย่างเป็นแอปที่ตัวนักเขียนเองเป็นสมาชิกอยู่ ชื่อ แอป fictionlog ซึ่งหากสนใจขายนิยายกับแอปนี้ ก็ลองเข้าไปสมัครและหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ หน้าตาแอปสะอาด ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับการเริ่มต้นแบบสุด ๆ ส่วนตัวมีรายได้จากการเขียนนิยายขายออนไลน์นั้น เฉลี่ยอยู่ที่เดือนละ 3,000-5,000 บาท ถือว่าไม่แย่นะสำหรับตัวนักเขียน ที่ทำเป็นรายได้เสริม อาศัยเวลาในการเขียนวันละ 3 ชั่วโมง แต่ถ้าใครต้องการเงินที่มากกว่านี้ ก็หาข้อมูลความรู้เพิ่มเติมประกอบเอาได้ 5. เคล็ดลับ ที่จริงก็ไม่ได้ลับมาก เพราะจากประสบการณ์ของนักเขียนแล้ว คนที่เป็นนักเขียนที่ดีนั้น มักจะเป็นนักอ่านที่ดีมาก่อน หมายความว่าเราชอบอ่านนิยายอยู่แล้ว จะผันตัวมาเขียนเองก็ไม่ยากมากสักเท่าไหร่ อยู่ที่การทำแบบสม่ำเสมอ เช่น การขายนิยายรายตอนในแอป fictionlog จะมุ่งเน้นให้นักเขียนลงนิยายแบบสม่ำเสมอ ไม่ปล่อยให้นักอ่านรอเก้อ เป็นต้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่าบทความนี้จะมีประโยชน์กับทุกท่านเครดิตภาพภาพปกจาก MiraCosic / pixabayภาพที่ 1 Free-Photos / pixabayภาพที่ 2 geralt / pixabayภาพที่ 3 Peggy_Marco / pixabay ภาพที่ 4 โดยนักเขียนภาพที่ 5 Karuvadgraphy / pixabayเปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !