ก็เปิดตัวกันมาแล้วน่ะครับสำหรับ "Asus ROG Phone 3 series" ที่เปิดตัวมาในราคา 24,990 บาท Cr: droidsans ถือว่าทำราคาได้ดีสำหรับช่วงโควิดแบบนี้น่ะครับ โดยได้เปิดตัวออกมาทั้งหมด 2รุ่น น่ะครับ จะมี ROG Phone 3 และ ROG Phone 3 Strix Edition โดย ROG Phone 3 นั้นจะมาพร้อม Snapdragon865+ ส่วน ROG Phone 3 Strip Edition นั้นจะ มาพร้อมSnapdragon865 ธรรมดานั้นเองครับ มาพูดถึงเรื่องการออกแบบดีไซน์กันบ้าง ดีกว่า หน้าจอแสดงผลจุใจสายเกมเมอร์ โดยจะมาพร้อมกับหน้าจอ แบบOLED ขนาดอยู่ที่ 6.59นิ้ว ใหญ่เต็มตา ไร้ติ่ง พร้อมกับความละเอียดระดับ Full HD+ และยัง รองรับการเเสดงผล HDR10+ ยังมี ค่า Refresh rate อยู่ที่ 144Hz และยังไม่หมดครับกับค่า Touch sampling rate อีก270Hz เรียกได้ว่าสุุดจริงๆ รับประกันว่าไม่มีอาการกดไม่ติดอีกต่อไป ส่วน touch latency และ side latency ก็ต่ำมาก ๆ เพียง 25 ms และ 18 ms ตามลำดับ นอกจากนี้หน้าจอของมันยังมีค่าความตรงของสีที่สูงมาก ๆ โดยมีค่า Delta E <1 Cr: theverge แบตเตอรี่ที่ อึด ถึก ทน มากๆ พร้อมไห้ชาวเกมเมอร์อย่างเราๆ ได้สนุกกันทั้งวัน โดย Asus ROG Phone 3 นั้นมากับแบตเตอรี่ 6,000 mAh โดยทาง Asus ได้มีการเคลมมาว่า Asus ROG Phone 3 นั้นสามารถเล่นเกมที่มีกราฟิคหนักๆ ได้ถึง 9ชม. เช่น PUBG Mobile, Asphalt 9 และ Call Of Duty Mobile เป็นต้น ลำโพงคู่เสียงดีเอาใจเกมเมอร์สาย FPS ROG 3 ได้ใส่เป็นลำโพงสเตอริโอคู่ด้านหน้าและได้ใส่ระบบเสียง GameFX มาไห้ด้วยน่ะครับ เพื่อเพิ่มอรรถรสในการเล่นเกมรับประกันเสียงได้เรยดีแน่นอน มาพร้อมกับปุ่ม AIRTRIGGER เวอร์ชั่นไหม่ที่ดีกว่าเดิม Cr: droidsans ปุ่มแอร์ทริกเกอร์เวอร์ชั่น 3 เซ็นเซอร์อัลตราโซนิกที่ใช้รับสัมผัส ซึ่งดีกว่าเดิมแน่นอนครับ AirTrigger 3 ไม่เพียงแค่รองรับการแตะเท่านั้น แต่มันยังรองรับการลากนิ้วไปมาได้อีกด้วย ถือว่าดีมากเลยทีเดียว และอีกหนึ่งฟีเจอร์ใหม่อย่าง Motion-Based Control ที่สามารถเข้าไปตั้งค่าในเกมได้โดยการเขย่าและเรียกใช้ปุ่มที่ได้มีการกำหนดไว้นั้นเอง มาพร้อมกับ CPU ตัวไหม่จาก Snapdragon อย่าง Snapdragon865+ ที่เป็นตัวที่แรงที่สุดในฝั่ง Android เราคงทราบกันดีอยู่แล้วน่ะครับสำหรับ CPU ที่เเรงที่สุดในฝั่ง Android ณ ตอนนี้กับ Snapdragon865+ และยัง มาพร้อมกับRAM LPDDR5 ขนาด 12GB และความจุแบบ UFS 3.1 ขนาด 512GB จัดมาไห้อย่างหนักกันเลยทีเดียวน่ะครับ ส่วนทางรุ่น Strix Edition เรื่องสเปคจะเป็นรองลงมานิดหน่อยแต่ก็ถือว่ายังเเรงอยู่กับ Snapdragon 865พร้อมกับ RAM 8GB ROM 256GB ถือว่าเป็นรองอยู่นิดหน่อยน่ะครับ แต่ก็ยังคงเล่นได้แบบลื่นๆกันเลยทีเดียว ถึงจะเป็นมือถือเกมมิ่งแต่ก็ยังให้กล้องมาถึง 3 ตัว ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นสมาร์ทโฟนเกมมิ่งแต่ก็ยังคงความมาตรฐานของกล้องอยู่นั้นเองไห้กล้องมาที่ 3 ตัวประกอบด้วยกล้องหลักเซ็นเซอร์ IMX686 ความละเอียด 64MP + กล้อง Ultra-wide 13MP + กล้อง Macro 5MP แถมยังมากับโหมดถ่ายวิดีโอเจ๋ง ๆ ทั้ง Free Zoom, Wind Filter และ Acoustic Focus ส่วนกล้องเซลฟี่ก็ให้ความละเอียดมาสูงถึง 24MP ถือว่าทำออกมาได้ดีเยี่ยม กันเลยทีเดียว สเปค ROG PHONE 3 หน้าจอ : OLED ขนาด 6.59 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ (1080×2340) รีเฟรชเรท 144Hz รองรับ HDR10+ CPU : Snapdragon 865+ / Snapdragon 865 (Strix Edition) GPU : Adreno 650 RAM : (LPDDR5) 12GB / 8GB (Strix Edition) ความจุ : (UFS 3.1) 512GB / 256GB (Strix Edition) กล้องหลัง : Wide 64MP (f/1.8) พร้อมระบบโฟกัส PDAF Ultra-wide 13MP (f/2.4) Macro 5MP (f/2.0) กล้องหน้า : 24MP (f/2.0) ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ แบบแม่เหล็ก 7 ชิ้น, Diract HD, ไมโครโฟน 4 ตัว ASUS Noise Reduction Technology, ไม่มีรูหูฟัง 3.5 มม. การเชื่อมต่อ : WiFi 802.11a/b/g/n/ac/ax, 2×2 MIMO, Dual-band 2.4GHz/ 5GHz, BT 5.1, NFC เซ็นเซอร์ : Fingerprint sensor (ใต้จอ), face recognition, accelerometer, e-compass, gyroscope, proximity sensor, hall sensor, ambient-light sensor, ultrasonic sensors for AirTrigger 3, grip press แบตเตอรี่ : 6,000 mAh รองรับชาร์จไว 30W ระบบ : Android 10 ครอบด้วย ROG UI ขนาด / น้ำหนัก : 171 x 78 x 9.85 มม. / 240 กรัม เรื่องสเปคก็จะประมาณนี้น่ะครับ ราคา Asus ROG Phone 3 / Strix Edition ROG Phone 3 (12GB / 512GB) ฟรีพัดลม Aero Active III, Aero Case, ROG Lighting Armour Case และกระจกกันรอย : ราคา 32,990 บาท ROG Phone 3 Strix Edition (8GB / 256GB) ฟรีพัดลม Aero Active III, Aero Case และกระจกกันรอย : ราคา 24,990 บาท TwinView Dock 3 : ราคา 7,990 บาท ROG Lighting Armour Case : ราคา 1,990 บาท ROG Clip : ราคา 1,990 บาท ROG Kunai 3 Gamepad : ราคา 3,990 บาท (วางจำหน่ายช่วงเดือนพฤศจิกายน 2563) Cr: tekdeeps ASUS ROG Phone 3 ทั้ง 2 รุ่น จะเริ่มวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2563 เป็นต้นไป