กระดาษทิชชูที่เราใช้หลังจากออกจากห้องน้ำ รู้มั้ยคะว่าใครเป็นคนแรกที่คิดค้นกระดาษชำระทำความสะอาดขึ้นมาคนแรกของโลก มีหลักฐานว่าชาวจีนเป็นคนค้นพบมันค่ะ เพราะมีการบันทึกจากชาววัง ในช่วงปี 1397 ว่าในแต่ละปี มีคำสั่งให้ผลิตกระดาษชำระมากถึง 700 ม้วนต่อปีกันเลยทีเดียว และใน ค.ศ.600 ได้มีการผลิตไม้ยาว ๆ ที่มีก้านยาว 8 เมตร หน้าตาแบบไม้เซียมซีที่เราเคยไปเขย่าเสี่ยงทายโชคและดวงที่ศาลเจ้า แต่ก้านจะมีขนาดยาวกว่านิดหนึ่ง ใช้เพื่อทำความสะอาดหลังจากทำธุระในห้องน้ำนะคะ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะสงสัยว่าทำไมคนสมัยนั้นถึงไม่ใช่น้ำกัน ซึ่งผู้เขียนก็มีความสงสัยเหมือนกันค่ะ ว่าทำไมคนจีนสมัยนั้นจึงไม่ใช้น้ำกัน อาจเป็นเพราะระบบสาธารณสุขยังไม่ดี และทันสมัยเท่าสมัยนี้ก็ได้ เลยทำให้ต้องลองผิดลองถูกกัน ในการทำความสะอาดร่างกายตัวเอง ในการทำธุระแต่ละครั้งและคนจีนก็ยังมีวิธีการผลิตยาที่แปลกมาก ๆ ในการรักษาโรคฝีดาษ ย้อนกลับไปเมื่อ 500 ปีที่แล้ว หมอจีนโบราณจะให้คนไข้ที่เป็นโรคฝีดาษ เอาหนองออกมาบดให้เป็นผง ผ่านกระบวนการวิธีต่าง ๆ จนมันกลายเป็นยาให้ผู้ป่วยที่เป็นโรคฝีดาษ ด้วยการกินหรือทา เพราะเชื่อว่ามันจะเป็นภูมิคุ้มกันเพิ่มเติมให้คนที่เป็นโรค และมันก็ได้ผลจริง ๆ ด้วย การเก็บตัวอย่างเชื้อโรคจากร่างกายของคนที่อ่อนแอมาวิเคราะห์ด้วยเทคโนโลยี และพอใส่ยาตัวนั้นในส่วนหนึ่งของร่างกายของมนุษย์ เป็นเรื่องน่าแปลกที่สามารถช่วยชีวิตคนได้หลาย ๆ คน ให้กลับมาหายป่วยแล้วแข็งแรงได้อีกครั้งซึ่งวิธีนี้คือหลักการของการผลิตวัคซีนในยุคปัจจุบัน ใครที่เคยเกิดในครอบครัวคนจีน และมีหัวความคิดโบราณ คงต้องเคยได้ยินคำพูดจากพ่อแม่ตัวเอง และเหล่าอากงอาม่าว่า กินปลาเยอะ ๆ จะได้ฉลาด เพราะคนจีนมีความคิดหรือความเชื่อที่ว่า ถ้าได้กินส่วนหนึ่งในร่างกายของสิ่งมีชีวิต จะช่วยทดแทนส่วนเดียวกันของร่างกายเราได้ เป็นความเชื่อที่ฝังอยู่รากลึก เป็นรากฐานที่ถูกปลูกฝังกันมานาน ซึ่งการกินของจีนก็มีตั้งแต่การกินหัวปลา การกินหูฉลาม การกินอวัยวะเพศสัตว์แปลก ๆ ไปจนถึงการกินเนื้อมนุษย์ด้วยกันเองเลยค่ะสมัยก่อนนั้นคนจีนส่วนมากเป็นคนที่ลำบากยากจน และบ้านเมืองแร้นแค้นเป็นส่วนใหญ่ ทางเดียวที่จะสบาย ก็คือ การส่งลูกชายไปเป็นขันที หรือคนรับใช้กษัตริย์ ว่ากันว่าถ้าครอบครัวชาวนาคนไหนส่งลูกชายไปเป็นขันที หรือเข้าวังได้ จะมีรายได้มากพอที่จะทำให้ครอบครัวสุขสบายได้ทั้งครอบครัวไปเลย พ่อแม่ของคนจีนสมัยนั้นจึงมองการณ์ไกล และทำการตอนตรงนั้นของลูกชายตั้งแต่เด็ก ๆ เพื่อคาดหวังว่าพ่อหนุ่มคนนี้ จะสานฝันครอบครัวให้ขยับฐานะได้ คนบางคนก็ให้ลูกไปตัดออกตั้งแต่เด็ก เพื่อไม่ต้องรับรู้ความเจ็บปวดตอนโตมา แต่พ่อแม่บางคนไม่ได้คิดไปไกลขนาดนั้น จึงมีโรงตัดตรงนั้นของผู้ชายขึ้นมามากมาย บางร้านก็เปิดไม่ทันจนต้องหยุดปิดกิจการ เพราะคนที่ต้องการเป็นขันทีในยุคนั้นเยอะเกินไปเมื่อขันทีที่มาสมัครมีมากเกินความจำเป็นในยุคนั้น บางคนก็เลยต้องลองผิดลองถูกในการผ่าตัดเอาตรงนั้นออกด้วยตัวเองค่ะ ซึ่งบางคนสำเร็จก็โชคดีไป แต่บางคนไม่สำเร็จก็ต้องอยู่กับความเจ็บปวดไปตลอดทั้งชีวิตค่ะ ขอบคุณเครดิตรูปภาพ หน้าปกรูปภาพประกอบที่ 1 / 2 / 3 โดย OpenClipart-Vectors