อื่นๆ

มาทำความรู้จักกับน้องแมวกัน

370
คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ
มาทำความรู้จักกับน้องแมวกัน

สำหรับบุคคลรักน้องแมว บทความนี้จะอธิบาย ถึงวิธีการเลี้ยงดูแมวที่อ้างอิง ตามประสบการณ์ของผู้เขียนที่เลี้ยงแมวอยู่

1. ช่วงเวลาที่เหมาะสม ในการรับเลี้ยงแมว คือ ช่วง2 เดือน เป็นช่วงที่ลูกแมวหย่านมจากแม่แมว และเริ่มเข้าสู่ระหว่างเจริญเติบโต ถ้าไม่รับมาในระหว่างนี้ ปล่อยให้ถึง 6เดือน หรือ 1 ปี แมวจะไม่เชื่อง ไม่คุ้นเคยกับเจ้าของใหม่

ลูกแมว

(ภาพที่1)


2. พอรับน้องมาแล้ว ควรปล่อยให้ลูกแมวได้สำรวจพื้นที่บ้าน ทำความคุ้นเคยกับบริเวณบ้านก่อน

แมวเดินสำรวจบ้าน(ภาพที่2)


3. ลูกแมวต้องการเวลาพักผ่อน ถึง 16 ชั่วโมง เป็นสัตว์พักผ่อนเป็นเวลานาน

แมวนอน(ภาพที่3)


4. สำหรับกระบะทรายแมวก็สำคัญเช่นกัน กระบะทรายแมวก็เหมือนห้องน้ำของมนุษย์ สัตว์ต้องมีการขับถ่ายของเสีย ถ้าคุณไปรับซื้อลูกแมวมา ทางคนขายลูกแมว จะฝึกให้น้อง ขึ้นกระบะทราย มาแล้ว

แมวบนกระบะทราย(ภาพที่4)

Advertisement

Advertisement


5. เรื่องของอาหารแมว เราต้องฝึกให้น้องกินอาหารเม็ด ในช่วงเด็กของลูกแมว จะถูกฝึกมาให้กินอาหารเปียก แนะนำว่าควรฝึกให้น้องกินอาหารเม็ด ดีกว่า ลดทั้งค่าใช้จ่าย และ ทำให้ผู้เลี้ยงไม่กังวลเรื่องของอาหารลูกแมวด้วย

อาหารเปียก เวลาลูกแมวกินไม่หมด จะแห้งติดจานแมว น้องก็จะไม่กินอีก ถ้าเทให้น้องกิน แล้วน้องกินไม่หมด เก็บใส่ไว้ในตู้เย็นก็ได้ ปลอดภัยจาก ขี้แมลงวัน สาเหตุของการเกิดพยาธิในตัวแมว และยังทำให้อาหารยังสดใหม่อยู่

อาหารเม็ด เหมาะสำหรับ ผู้เลี้ยงที่ทำงาน เช้ากลับดึก หรือช่วงเวลาที่เจ้าของไปเที่ยว1-2วัน อาหารเม็ดสามารถทิ้งไว้ได้เป็นเวลานาน แต่การฝึกน้องกินก็ยากเช่นกัน

- แนะนำ 2 วิธีนี้ ดูค่ะ -

  1. ควรผสมอาหารเม็ดกับอาหารเปียก ให้น้องก่อน ถ้าน้องยังไม่ยอม ลองปรับเปลี่ยนยี่ห้อดู ให้น้องลองกินอาหารเม็ด ขนาดเล็ก จะฝึกง่ายกว่า ควรทำไปเรื่อยๆ จนน้องสามารถกินอาหารเม็ดเพียวๆ ได้
  2. ผู้เลี้ยงอย่างเราต้องใจแข็ง เทอาหารเม็ดไว้ให้น้อง และไม่สนใจทิ้งไว้ ต่อให้น้องมาอ้อนของกินอาหารเปียกก็ต้องอดทน จนแมวทนความหิวตัวเองไม่ได้ ก็จะไปกินเองค่ะ

Advertisement

Advertisement

อาหารเปียกแมว

(ภาพที่5)


6. แมวเป็นสัตว์ชอบปีนป่าย ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสถานที่เลี้ยงน้องด้วย สำหรับคนที่เลี้ยงใน คอนโด    อพาร์ตเมนต์ คอนโดแมว ควรมีติดไว้ แต่สำหรับคนเลี้ยงในบ้าน พื้นที่กว้าง น้องก็จะเดินเล่นรอบบ้าน ไม่ต้องพึ่งคอนโดแมวเลย

แมวนอนบนคอนโดแมว(ภาพที่6)


7. ของเล่นแมว สมควรมีติดไว้ มีเยอะยิ่งดี เพราะน้องเป็นสัตว์เบื่อง่าย เวลาซื้อของเล่นมาให้น้อง แนะนำว่า ซื้อของเล่นที่เป็นพุ่มๆตรงปาย เช่น พวกไม้ตกแมว

แมวเล่นไม้ตกแมว(ภาพที่7)


8. ถ้าตั้งใจซื้อแมวตัวผู้และตัวเมียมาผสมกัน ควรซื้อตัวเมียที่มีอายุมากกว่าตัวผู้ จากประสบการณ์ผู้เลี้ยง ในตอนแรกที่ตั้งใจจะซื้อแมวตัวผู้กับตัวเมียผสมกัน ทั้งสองตัวอายุเท่ากัน และพอทั้งคู่อายุเข้า 6 เดือน ตัวเมียเริ่มติดสัด แมวตัวผู้ที่บ้าน ก็ 6 เดือน เช่นกัน แต่ยังไม่มีอาการติดสัด ตัวเมียทนไม่ไหว เลยโดนแมวจรจัดตัวผู้ผสม ส่วนแมวตัวผู้ของเรา จะเริ่มติดสัดช่วง 9 เดือน

Advertisement

Advertisement

- สรุป ง่ายๆ เลยก็คือ -

  • ตัวเมีย ช่วงระยะติดสัด เริ่มแรก ก็คือ 6,7,8,9 เดือน ระหว่างเดือนไหนก็ได้ แต่จะเริ่มที่ 6 เดือน ช้าสุด 9 เดือน แล้วแต่บางตัวจะเริ่มติดสัดครั้งแรกช่วงไหน
  • ตัวผู้ ช่วงระยะติดสัด ครั้งแรก ที่ 8,9 เดือน จะช้ากว่าตัวเมีย

แมวตัวผู้/ตัวเมีย(ภาพที่8)


9. บริเวณอาณาเขตที่ห้ามสัมผัส อ้างอิงจากประสบการณ์ผู้เลี้ยงอย่างเรา

แมวตัวเมีย หวงเนื้อหวงตัวสูง ยิ่งช่วงท้องลูกแมว ยิ่งห้ามสัมผัสหรือเข้าใกล้เลย โดยเฉพาะบริเวณหน้าท้อง ส่วนที่แมวตัวเมียหวงเป็นพิเศษ ห้ามจับเด็ดขาด!! มีสิทธิ์ทำร้ายเจ้าของได้

แมวตัวผู้ ไม่ค่อยหวงเนื้อหวงตัว อยากจับตรงไหนก็ได้ ส่วนมากแมวตัวผู้ของเราจะชอบมาอ้อนมากกว่าแมวตัวเมีย

**บริเวณที่แมวชอบให้จับ คือ หัว,เกาคาง,ลูบหลัง**

ลูบหัวแมว(ภาพที่9)


10. ต้องคอยศึกษา ในสิ่งที่แมวกินได้และไม่ได้ด้วย

ผู้เขียนได้ศึกษาและรวบรวม มาทั้งหมด 5 ชนิด เป็นหลัก (มีอีกเยอะมากมาย แต่จะยกตัวอย่างมาแค่เฉพาะจริงๆ)

ปลาดิบ,เนื้อดิบ,ไข่ดิบ

  • ใน 3 สิ่งนี้ พบได้ว่าอาจมีสาร จำพวกแบคทีเรีย ตกค้างอยู่

ปลาสด(ภาพที่10)

ไข่ไก่สด(ภาพที่11)

เนื้อดิบสด(ภาพที่12)

ช็อคโกแลต และ ขนมหวานทุกชนิด

  • ขนมหวานทุกชนิดที่มีน้ำตาล ห้ามให้แมวกิน เนื่องจากในขนมหวานมีน้ำตาลในปริมาณมาก ทำให้แมวเสียสุขภาพด้วย และตัวช็อคโกแลตก็มีสารบางอย่าง ทำให้แมว หัวใจ้ต้นถี่ผิดปกติ,ท้องเสีย,กระสับกระส่าย

ช็อคโกแลต(ภาพที่13)

ผลิตภัณฑ์จากนมวัว

  • แมวไม่สามารถกินได้ ภายในร่างกายของแมวไม่มีน้ำย่อยโปรตีนจากวัว เหมือนกับคน ทำให้ท้องเสีย
  • ควรให้กิน นมแพะ มากกว่า

นมวัว(ภาพที่14)

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์

  • แค่เพียงไม่กี่มิลลิลิตรก็ทำให้น้องเสียชีวิตได้ เป็นอันตรายเอามากๆ เพราะในตัวแอลกอฮอล์มีสารบางชนิดที่ไปทำลายการทำงานของตับและสมอง

เครื่องดื่มแอลกอฮอล์(ภาพที่15)

ยาพาราเซตามอล

  • เกิดแมวป่วยหรือเป็นอะไร ห้ามให้น้องได้กินเข้าไป  ยาชนิดนี้อันตรายสำหรับแมวมาก มันจะเข้าไปทำลายเม็ดเลือดแดง และยังเป็นพิษต่อหลอดเลือดเช่นกัน

ยาพาราเซตามอล(ภาพที่16)


จบแล้ว!!

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้รู้จักแมวกันมากขึ้นนะคะ

ขอบคุณสำหรับ ภาพฟรี จาก 2 เว็บนี้ด้วย
เครดิตภาพจาก : Pexels

เครดิตภาพจาก : Unsplash

อัปเดตข่าว ดูหนัง ซีรีส์ใหม่สุดปัง โหลดเลยที่ App TrueID ฟรี!

คัดลอกลิงค์
คัดลอกลิงค์
แจ้งตรวจสอบ

ความคิดเห็น

กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อทำการคอมเม้นต์