มาทำความรู้จัก 4 บอร์ดใหม่ "การบินไทย" กับภารกิจทวงคืนน่านฟ้า

หลังจากที่ประสบปัญหามาอย่างยาวนาน ประกอบกับต้องมาเจอกับสถานการณ์ที่คาดไม่ถึงอย่างวิกฤติ COVID-19 ในที่สุดสายการบินประจำชาติอย่าง “การบินไทย” ก็ต้องเดินหน้าเข้าสู่กระบวนการแผนฟื้นฟูกิจการ โดยได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม 2563 ให้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กร ปรับเปลี่ยนกิจการจากเดิมที่เป็นรัฐวิสาหกิจ โดยให้มีผู้บริหารจากภายนอกเข้าไปควบคุมดูแล จนในที่สุด บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) (บมจ.การบินไทย) ก็ได้ทำหนังสือแจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงการแต่งตั้งกรรมการชุดใหม่ ของ บมจ.การบินไทย เราจะมาทำความรู้จัก 4 บอร์ดใหม่ "การบินไทย" กับภารกิจทวงคืนน่านฟ้า ไปพร้อม ๆ กัน

1. นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค

ปัจจุบันทำงานเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีความโดดเด่นในเรื่องกฎหมาย ก็เพราะเคยเป็นข้าราชการตุลาการมาก่อนจะเข้าสู่แวดวงการเมือง นายพีระพันธุ์ เป็น ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พื้นที่กรุงเทพมหานคร ในอดีตเคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม สุดท้ายได้ลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเดือนธันวาคม 2562 และเข้าร่วมงานกับรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เป็นประธานกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาศึกษาปัญหาหลักเกณฑ์แนวทางการแก้รัฐธรรมนูญ เป็นคณะกรรมการบริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ผลงานสำคัญที่ผ่านมาของนายพีระพันธุ์ คือการสอบสวนกรณีทุจริตค่าโง่ทางด่วน 6,200 ล้านบาท และข้อมูลที่นำเสนอในสภาถูกนำไปต่อสู้ในชั้นศาล ทำให้ประเทศไม่ต้องเสียค่าดอกเบี้ยนับหมื่นล้านบาท

4. นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์

ในอดีตเคยดำรงตำแหน่งกรรมการบริหารการบินไทยมาแล้ว ทั้งยังเคยเป็นกรรมการผู้อำนวยการการบินไทย หรือดีดีการบินไทย ได้เข้าไปบริหารการบินไทยในช่วงปี 2552 ซึ่งตอนนั้นการบินไทยก็อยู่ในภาวะที่ตกต่ำ มีปัญหาขาดทุน และประสบภาวะสถานการณ์ทางการเงินที่ย่ำแย่ นายปิยสวัสดิ์ ได้เข้าไปบริหารจนพลิกฟื้นการบินไทยให้กลับมาทำกำไรได้ครั้งแรกในรอบหลาย ๆ ปี จนติดอันดับ 5 ของสายการบินระดับโลก แต่สุดท้ายก็ถูกมติเลิกจ้างเมื่อปี 2555 ในแวดวงการเมืองนั้น นายปิยสวัสดิ์ เคยเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในยุคของรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ มาก่อน

การได้นักบริหารมือทองทั้ง 4 คน เข้ามาเป็นบอร์ดควบคุมดูแลการฟื้นฟูกิจการของ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็นับว่าเป็นความหวังที่เห็นแสงเรืองรองอยู่ข้างหน้า แต่ทั้งนี้การบริหารงานของการบินไทยนับจากนี้นั้น ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ และมีความชัดเจนให้มากที่สุด เพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนให้กลับคืนมา กระบวนการฟื้นฟูครั้งนี้จำเป็นต้องได้แรงหนุนจากทุกภาคส่วน รวมถึงภาครัฐให้มากที่สุด การพ้นสภาพจากการเป็นรัฐวิสาหกิจ ก็อาจเป็นทางออกที่ดีในการบริหาร เพราะได้หลุดพ้นจากกรอบ จากระเบียบที่เป็นสัดส่วนของระบบราชการ  ที่ต้องมาคอยกำกับดูแลทุกขั้นตอน การเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรเป็นเอกชน ก็จะทำให้การแก้ปัญหาต่าง ๆ ทำได้อย่างคล่องตัวมากขึ้น

หลายคนอาจมองว่าการได้คุณ ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กลับมาคุมนั้น ในส่วนของพนักงาน และสวัสดิการอาจจะได้รับผลกระทบเหมือนครั้งก่อนเมื่อปี 2552 – 2555 เพราะนโยบายใช้ยาแรงในตอนนั้น ทั้งการปรับลดเงินเดือน ปลดพนักงาน รวมถึงการตัดค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ๆ ที่ไมจำเป็นออก ทำให้หลายฝ่ายได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง แต่ในมุมกลับกันใครเล่าจะมองเห็นปัญหาโครงสร้างของการบินไทยได้ดีอย่างแท้จริงเท่าคุณ ปิยสวัสดิ์ อดีตกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย

ส่วนคุณบุญทักษ์ หวังเจริญ ผู้พลิกฟื้นธนาคารทหารไทย ให้กลับมาผงาดอยู่แถวหน้าได้นั้น ก็มีความรู้ความสามารถในเรื่องการปรับแก้โครงสร้างหนี้ การที่ทำให้ TMB จากที่ขาดทุนติดต่อกันมาในระยะเวลายาวนาน จนพลิกโฉมมาเป็นธนาคารที่ยืนอยู่ในแถวหน้า ต้องบอกว่าฝีมือนั้นไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ด้วยความคิดของคุณบุญทักษ์ ที่ทันยุคทันสมัย ไม่ยึดติดกับกรอบที่ตายตัว  คงจะมาช่วยกำกับดูแลฐานการเงินการบินไทยได้เป็นอย่างดี

แต่ทิศทางที่แท้จริงจะเป็นอย่างไรนั้น คงต้องติดตามดูกันต่อไปกับอนาคตของสายการบินแห่งชาติของคนไทย ว่าจะกลับมาแข็งแกร่งและมีความมั่นคงอีกครั้งได้หรือไม่? แผนการฟื้นฟูกิจการในครั้งนี้ก็ด้วยเจตนาที่จะปลุกการบินไทยจากที่หลับใหลให้ลุกตื่นขึ้นมาอีกครั้ง หลังภาวะขาดทุนที่รุมเร้า ท่ามกลางการแข่งขันที่จะรุนแรงขึ้นกว่าเดิม จะเปรียบไปก็เหมือนภารกิจทวงคืนน่านฟ้า เพื่อพาการบินไทยพุ่งทะยานฝ่าวิกฤติทั้งหลายขึ้นโบยบินอย่างสง่างามอีกครั้งนั่นเอง

ภาพปก ภาพประกอบ 1 พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค 2 thaipublica 3 news.trueid.net 4 บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน)