รูปภาพจาก : https://www.pexels.com/th-th/photo/3296431/ "ขึ้นจมูกอ่ะ กินไม่ไหว" "กลิ่นฉุนมาก" "มันเผ็ดเกิน" "กินทีนี่จี๊ดขึ้นสมองเลย" หากพูดถึง 'วาซาบิ' สิ่งแรกที่ผุดขึ้นบนสมองก็คงจะเป็นครีมสีเขียวมิ้นต์ กลิ่นฉุน ๆ และรสชาติที่สามารถทำลายล้างระบบลิ้นและประสาทได้ เพียงแค่เม็ดถั่วเขียวเดียวเท่านั้น มักเสริฟพร้อมซูชิหรือปลาดิบตามร้านอาหารญี่ปุ่น แหม ก็ถูกทั้งหมดแหละ หากใครที่เคยได้ลิ้มลองรสชาติของเจ้าวาซาบิคงจะเข้าใจว่าความซี๊ดซ๊าดผ่านจมูกจนขึ้นไปสมองมันเป็นยังไง ตาโตเองก็เป็นหนึ่งในบุคคลส่วนใหญ่ที่มีประสบการณ์ครั้งแรกในการกินวาซาบิแล้วสมองแทบระเบิดจนต้องวิ่งไปหาน้ำมากินเป็นลิตร ๆ "นี่มันอะไรกันว่ะเนี่ย ไม่เคยกินอะไรฉุนขนาดนี้" โอ้โห คนที่เกิดภาคอีสาน มีแม่เป็นคนภาคอีสาน มีญาติเป็นคนอีสาน และบรรพบุรุษก็เป็นคนอีสานแท้ๆอย่างตาโตเนี่ย เรื่องเผ็ด ๆ แซ่บ ๆ นี่บ่ย่าน(ไม่กลัว)เด้อ ถ้าถูกปากก็กินเรียบค่ะ เกิดมายังไม่เจออะไรที่เผ็ดแบบฉุนขึ้นจมูกขนาดนี้มาก่อน จะยอมแพ้ได้ยังไงคะ ต้องจัดบ่อย ๆ ให้หาย ก็เริ่มมาเรียนรู้การกินวาซาบิเมื่อสมัยม.ต้น เวลาพ่อแม่เลี้ยงวันเกิดคนในครอบครัวมักจะพาไปกินบุฟเฟต์ที่มีซูชิ แน่นอนเราก็ตักมาเต็มจานค่ะ วาซาบินี่ตักมาช้อนใหญ่เลยค่ะ พ่อเห็นนี่แทบสำลักข้าว แต่ก็มิได้นำพาค่ะ กินทุกครั้งก็ขึ้นจมูกทุกครั้ง น้ำหูน้ำตาก็ไหลน่าเกลียดไปหมด กลั้นหายใจก็แล้ว ละลายกับซอสโชยุก็แล้ว (ซอสสีน้ำตาลเข้มรสชาติเค็มๆที่มาคู่กัน) ทำยังไงดีล่ะทีนี้ .... ตอนนั้นพี่ชายก็เลยบอกค่ะว่าการกินวาซาบิ แบบไม่ให้จี๊ดต้องหายใจทางจมูก ตอนแรกก็ไม่เชื่อนะ เพราะคนส่วนใหญ่เขาจะกลั้นหายใจ แต่ก็ไหน ๆ แล้วลองมาเป็นร้อยครั้ง จะจี๊ดเพิ่มอีกสักครั้งจะเป็นอะไรไป ก็ลองทำตามค่ะ เอาซูชิปลาดิบจิ้มวาซาบิที่ละลายอยู่ในซอสโซยุ ตักเข้าปาก ในใจเตรียมจี๊ดละ แต่ทันทีที่หายใจทางจมูกปั๊ป ! 'เห้ย! ทำไมมันไม่จี๊ดละ' !! โอ้โห เป็นไปได้เว้ย ไม่จี๊ดขึ้นสมองเลย! แต่ว่ามันก็ยังสัมผัสได้ถึงความเผ็ดหน่อย ๆ ของวาซาบิอยู่ เลยลองกินใหม่ โดยปิดปากและหายใจทางจมูกอีกครั้ง ก็ลองกินช้า ๆ ดู จับทางได้ว่า ถ้าหายใจออกจะรู้สึกว่าเผ็ดได้อยู่ แต่ถ้าหายใจเข้าจะไม่รู้สึกเผ็ดเลย ทีนี้แหละค่ะ อวดไปทั่วบ้านทั่วเมืองว่า ฉันนี่แหละคือ 'มาสเตอร์วาซาบิ' รูปภาพจาก : https://www.pexels.com/th-th/photo/3296435/ และอยู่มาวันหนึ่งที่โรงเรียนจัดงานกิจกรรมอาเซียน ซึ่งก็รวมถึงอาเซียน+3 ที่มีดินแดนปลาดิบอย่างญี่ปุ่นด้วย ก็มีซูชิมาขายค่ะ เอาแล้ว ถึงเวลาโชว์ศักยภาพสูงสุดของตัวเองแล้ว... แข่งกินวาซาบิ!! โอ้โห ตาโตนี่ชิวมาก เพื่อนก็แพ้ไป ใครแพ้จ่ายค่ะ จนกระทั่งอาจารย์ชาวญี่ปุ่นก็มาเห็นว่าเรากินวาซาบิเก่งมาก เราก็บอกไปว่าเนี่ย เป็นทริคส่วนตัวของเรานะ เขาก็ชอบมาก แถมยังสอนให้กินคู่กับเนื้อปลายังไงให้อร่อยด้วย ตอนนั้นรู้สึกว่าตัวเองได้รับพรจากสวรรค์ และนั่นแหละค่ะคือที่มาของทริคที่ตาโตจะบอกต่อไปนี้....ทริคเด็ดในการกินวาซาบิให้อร่อยและไม่จี๊ดขึ้นสมอง แถมยังช่วยทำให้เมนูปลาดิบมีรสหวานอร่อยขึ้นเป็นเท่าตัวนั่นก็คือ... รูปภาพจาก : https://www.pexels.com/th-th/photo/3296436/ เวลาที่วาซาบิเข้าปากไปแล้ว พยายามหายใจเข้าถี่ ๆ ให้มากที่สุด พูดง่าย ๆ ก็คือเป็นการหายใจถี่ๆที่จะหายใจเข้ามากกว่าหายใจออกหลายคนมักจะชอบกลั้นหายใจ แต่จริง ๆ แล้วนั่นเป็นวิธีที่ผิดมาก เพราะจะยิ่งทำให้จี๊ดขึ้น และที่สำคัญต้องหายใจทางจมูกเท่านั้นนะคะ และเวลาจะกินคู่กับซูชิให้อร่อย ตาโตเห็นหลายคนชอบนำวาซาบิผสมกับซอสโชยุให้เหลว ๆ วิธีนั้นจะสร้างความจี๊ดมหาศาลเลยค่ะ เพราะอาจารย์ญี่ปุ่นบอกว่าการทำแบบนี้จะทำให้วาซาบิรสจัดขึ้นจากซอสโชยุ แถมยังทำให้เสียรสชาติของซูชิอีก จริง ๆ แล้วควรจะนำวาซาบิมาวางบนซูชิหรือวางไว้ตรงกลางระหว่างเนื้อปลากับข้าวและทริคของตาโตนั้นคือการพลิกตะแคงข้างซูชิเพื่อให้ส่วนเนื้อและข้าวแตะโดนน้ำซอสโซยุทั้งคู่แล้วค่อยรับประทานค่ะ โอ้โห ทริคเด็ดแบบนี้ไม่ค่อยบอกใครนะคะ แต่ว่าวันนี้ก็ได้มาพูดจนหมดเปลือกแล้ว เพื่อน ๆ คนไหนที่ยังกินวาซาบิแล้วจี๊ดอยู่หรือใครที่ยังไม่กล้ากินก็สามารถลองวิธีของตาโตได้ค่ะ เพราะตาโตก็อยากให้ทุกคนที่ชื่นชอบในการกินอาหารญี่ปุ่นอย่างซูชิและปลาดิบได้มีความสุขกับการกินวาซาบิโดยไม่ต้องมานั่งดื่มน้ำตามเยอะ ๆ ให้กระเพาะเหลือช่องว่างในการกินน้อยลง แถมวาซาบิก็มีประโยชน์อีกด้วย เพราะว่าวาซาบินั้นก็คือสมุนไพรดีๆนั่นเอง ใครที่เป็นหวัดคัดจมูกบ่อย ๆ หากกินวาซาบิแล้วจมูกจะโล่งขึ้นเลยค่ะ แค่มีทริคในการกินก็จะพบว่าการกินวาซาบินั้นไม่ยาก แถมยังมีประโยชน์อีกด้วย ปรบมือค้าาาา !!! 👏🎉