มะม่วงกวนตามท้องตลาด เราไม่สามารถควบคุมความหวานได้ ยิ่งช่วงนี้พายุฤดูร้อนเข้าครอบคลุมพื้นที่หลายจังหวัด มะม่วงสุกที่ห้อยต่องแต่งอยู่ตามต้นก็ร่วงหล่นลงมาแตกกระจายไปหมด ให้กินเพียว ๆ ก็คงกินไม่หวาดไม่ไหว ผู้เขียนจึงเก็บมาทำมะม่วงกวนไว้กินนาน ๆ เสียเลย ซึ่งมะม่วงที่เลือกใช้คือ “มะม่วงแก้ว”นำมะม่วงแก้วที่ได้ มาผ่าเพื่อเอาเนื้อออก เปิดตัวมาก็เหนอะหนะสักหน่อย แต่ของอร่อยแบบไม่ลงทันก็ต้องลงแรงหนักกว่าปกติใช้ช้อนขูดเนื้อมะม่วงให้ได้ในปริมาณที่ต้องการ เจ้ามะม่วงแก้วนี้ ตอนหนุ่ม ๆ อาจจะเปรี้ยวไปบ้าง แต่พอสุกมาก็หอมหวานใช้ได้เลยล่ะจากนั้นก็นำมะม่วงที่ได้ไปปั่นให้ละเอียด สีก็จะออกมาเหลืองนวล เนื้อนุ่มนิ่มน่าจิ้มเล่นต่อไปคือการกวน ไม้ที่ใช้กวนนี้ ป้าของผู้เขียนแนะนำให้ใช้ลำอ้อยนำมาเหลาปลาย เพื่ออาศัยความหวานหอมจากอ้อยในขณะที่กวน บ้างก็ว่าจะทำให้สีมะม่วงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมเท่าใดนัก อันนี้ต้องมาพิสูจน์หลังกวนก่อนจะกวนต้องก่อไฟ ใส่ฟืน เพราะให้ความร้อนได้แรงตามใจนึก ก่อไฟเสร็จก็นำกระทะใส่น้ำตั้งไฟร้อน ๆ เมื่อกระทะเดือดได้ที่ก็เทมะม่วงปั่นที่เตรียมไว้ลงไปได้ทันที“กวนวนไปทางเดียวกัน” ต้องพิถีพิถันขนาดนั้นเลยหรือ “ป้องกันการเกิดฟอง รอให้มันเดือดก่อนจะกวนไปทางไหนก็ตามใจ” ด้วยความเป็นคนหัวอ่อน ก็เออออตามคนสอนไป ไม่ใช่อะไรนะคะกลัวแกบ่น มะม่วงเริ่มเดือดก็ใช้ไฟปานกลางในการกวน เดี๋ยวมันดีดใส่หน้าเสียโฉม แต่ต้องกวนไปเรื่อย ๆ ไม่หยุด เวลาผ่านไปนานแค่ไหนไม่อาจรู้ แต่พอคนสอนเดินมาดูแล้วพบว่า ปริมาณมะม่วงในหม้อลดลงเกือบนิ้ว ก็สั่งให้เอาฟืนใส่ เร่งไฟอีกหน่อย ส่วนผู้เขียนเองก็กวนวนไปจนกล้ามแขนจะขึ้น เมื่อไฟเริ่มอ่อนก็ยกลงจากเตานี่คือหน้าตามะม่วงกวนสุดใหม่ ๆ เหลืองอ๋อยได้ใจ เมื่อกี้แอบเอานิ้วป้ายเนื้อทะม่วงใส่ปาก ขอบอกว่าหวานกว่ากินตอนก่อนจะนำมากวน “ทำไมไม่เทใส่ใบตองหรือพลาสติกคะ” ผู้เขียนเห็นป้านำถาดใบใหญ่มา 3 ใบแล้วลูบน้ำมันมะพร้าวบาง ๆ “กลัวฝนตกใส่ แล้วจะเก็บลำบาก” ป้าพูดถูก ช่วงนี้พายุฤดูร้อนโหมกระหน่ำ บางวันแดดเปรี้ยง ๆ ฝนก็ยังไม่ปรานีหลังจากเทมะม่วงใส่ถาดแล้วก็นำไปตากทันที ซึ่งวันนี้ฝนก็ตกเหมือนที่ป้าบอก ซึ่งการเทมะม่วงกวนใส่ถาดนี้ทำให้เก็บเข้าร่มได้อย่างรวดเร็ว พอเช้าวันต่อมาก็นำมาตาก ตกเย็นก็กินได้แล้วมะม่วงกวนทั้งสามถาดนี้ลอกออกมาเป็นแผ่นใหญ่ ๆ กินได้สะใจมาก แม้ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล แต่กลับให้ความหวานอมเปรี้ยวแบบธรรมชาติ กินไม่หยุด เด็ก ๆ ก็ชอบ สายรักสุขภาพก็ฟิน กินแล้วกินอีก อยากเก็บไว้นาน ๆ ก็เพียงตัดเป็นแผ่น ๆ ซับน้ำมันด้วยกระดาษ A4 จากนั้นก็ม้วน ๆ ใส่ถุงมัดปาก เป็นอันเสร็จอ้อ! แต่ขอเตือนไว้อย่างหนึ่งว่า ห้ามกินเยอะ เพราะกินแล้วอาการหิวข้าวก็จะกำเริบนั่นเอง ลองนำไปทำทานที่บ้านนะคะ สูตรง่าย ๆ จะทำไว้ขายก็ดีงามเลยล่ะ ภาพประกอบโดยผู้เขียน