อะไรคือ ซูชิ? คุณรู้ไหมว่า ซูชิ (Sushi) ที่ทุกคนชอบกินกันนั้น มีประวัติศาสตร์ยาวนานมานับพันปี ซูชิเป็นอาหารคำเล็ก ๆ ที่เป็นเพียงประเภทหนึ่งของอาหารญี่ปุ่น ซึ่งตอนนี้ก็ดังไปทั่วโลกแล้ว ถ้าคุณยังไม่เคยทานซูชิ คงต้องถามแล้วว่า ไปอยู่ที่ไหนมา เพราะทุกวันนี้แค่เดินเข้าซูเปอร์มาเก็ตตามห้างต่าง ๆ ก็หาซูชิทานได้แล้ว เอาล่ะ เรามาเข้าประเด็นกันดีกว่า ซูชิเป็นอาหารดั่งเดิมของชาวญี่ปุ่น เป็นอาหารที่ทานควบคู่กันระหว่างข้าวปั้นที่มีส่วนผสมของน้ำส้มสายชู ปลา เนื้อ และของคาวต่าง ๆ รวมถึง ผัก ไข่ และอาหารทะเล โดยเราจะเห็น วางโปะบนข้าว แต่ชาวต่างชาติส่วนใหญ่จะเข้าใจผิดว่า ซูชิ คือ ข้าวปั้นที่ทานกับปลาดิบเท่านั้น ซึ่งแท้จริงแล้ว ปลาดิบ คือ ซาชิมิ (Sashimi) ของญี่ปุ่นนั่นเอง ดังนั้นร้านที่ขายซูชิส่วนใหญ่ก็จะขายซาชิมิไปด้วย ในร้านอาหารญี่ปุ่นจะมีซูชิให้เลือกรับประทานได้หลากหลายรูปแบบกันเลยทีเดียว เราอาจจะคุ้นเคยกับแบบที่มีปลาดิบวางอยู่ด้านบนข้าว ซึ่งเรียกว่า นิกิริซูชิ ซูชิแบบนี้เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับลูกค้าระบบกลางจนถึงระดับสูง นอกจากนิกิริซูชิแล้ว จะมีซูชิอะไรอีกบ้าง เราไปทำความรู้จักพร้อม ๆ กันเลย 1. นิกิริซูชิ (Nigiri Sushi) คือ ข้าวที่เป็นก้อนรูปวงรีแล้ววางเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก เนื้อวัว หรือของคาวอื่น ๆ ไว้ข้างบน อาจจะเสริมรสหรือตกแต่งด้วยสาหร่ายทะเลก็ได้ 2. มากิซูชิ (Maki Sushi) ซูชิแบบนี้กำลังแพร่หลายไปในตลาดระดับล่าง ทั้งในซูเปอร์มาร์เก็ต และ Food Street เนื่องจากวัตถุดิบราคาไม่สูง และยังมีหลายรูปแบบ ส่วนใหญ่ที่รู้จัก มี 3 แบบด้วยกัน - ม้วนข้าวไว้ด้านในสาหร่ายทะเลอยู่ด้านนอก - ม้วนสลับกับแบบแรกโดยที่สาหร่ายอยู่ด้านในส่วนข้าวอยู่ด้านนอก - ห่อเป็นรูปกรวย 3. ชิราชิ ซูชิ (Chirashi Sushi) ก็แค่เอาพวกเนื้อปลาดิบ ปลาหมึก กุ้ง ผัก ฯลฯ ที่หั่นเป็นชิ้น ๆ วางเรียงบนข้าวที่ใส่อยู่ในกล่องหรือชาม เท่านั้นเอง 4. โอชิ ซูชิ (Oshi Sushi) หรือรูปแบบคันไซจากเมืองโอซาก้า เอาข้าวมาอัดลงในแม่พิมพ์รูปสี่เหลี่ยมตามยาวหั่นขนาดพอดีให้รับประทานเป็นคำ ๆ แล้ววางเนื้อปลาไว้ด้านบน 5. อินะริ ซูชิ (Inari Sushi) เป็นซูชิที่นำเนื้อมาใส่ในเต้าหู้ที่มีลักษณะเป็นถุง คนไทยอาจจะไม่ค่อยรู้จักกันเท่าไหร่นัก ภาพปก ขอบคุณภาพจาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 1 ขอบคุณภาพจาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 2 ขอบคุณภาพจาก Pixabay / ภาพประกอบที่ 3 ขอบคุณภาพจากเพจ Take Japanese Restaurant / ภาพประกอบที่ 4 ขอบคุณภาพจากเพจ Musuko Sushi / ภาพประกอบที่ 5 ขอบคุณภาพจาก Pixabay