ใช้เงินเดือนชนเดือน ปัญหาหนี้สินบัตรเครดิต ผ่อนบ้าน ผ่อนรถยนต์ ชีวิตที่มีสไตส์ แต่อาจไร้สตางค์ ของมนุษย์เงินเดือนรับเงินทุกเดือนจากนายจ้าง พอสิ้นเดือนปุ๊บก็มีเงินเดือนโอนเข้า ไม่มีความเลี่ยง ไม่ต้องลุงทุน ไม่ต้องวางแผนอะไรมาก แค่ลงแรงทำงานตามที่เขาจ้าง แค่นี้สิ้นเดือนก็ได้รับเงินแล้ว ฟังดูชีวิตดี๊ดี แต่ทว่าทำไมยังมีมนุษย์เงินเดือนหลายคนยังคงประสบปัญหาอยู่ เคยได้ยินไหม "สิ้นเดือนเหมือนสิ้นใจ เงินเดือนออกทีไรเหลือแค่ตัวเลข" นั่นอาจเป็นเพราะว่า คนทำงานมีเงินเดือนประจำ รู้แน่นอนว่าสิ้นเดือนมีรายรับ แต่ระหว่างเดือนมีความต้องการเพิ่มขึ้นมากกว่าเงินที่มีในตอนนั้น จึงสร้างหนี้รอหวังเอาเงินเดือนจ่ายชำระหนี้ มีสลิปเงินเดือนที่เป็นเหมือนใบเบิกทางในการสร้างหนี้ ยิ่งเงินเดือนมาก โอกาสในสร้างหนี้ก็มากขึ้นเป็นลำดับ ลองดูกันนะว่าส่วนใหญ่แล้วมนุษย์เงินเดือนมีหนี้อะไรบ้าง "หนี้บัตรเครดิต" ทุกวันนี้ฐานเงินเดือนที่ใช้สมัครบัตรเครดิตไม่ต้องสูงมาก แค่มีเงินเดือน 15,000 บาท ก็สมัครได้แล้ว เพียงเตรียมเอกสารทั่วไป เช่น บัตรประชาชน ทะเบียนบ้าน สลิปเงินเดือน ก็สามารถมีบัตรเครดิตเพื่อใช้เงินในอนาคตได้ ปัญหาไม่ได้อยู่ที่บัตรเครดิต แต่ปัญหาคือตัวเราเองที่ทนต่อสิ่งเร้าไม่ได้ เห็นของใหม่ทันสมัย Smart phone เปิดตัวใหม่ เห็นป้ายลดราคา เสื้อผ้าแบรนด์เนม หรือ ผ่อน 0% ต่อมความอยากก็ถูกกระตุ้นขึ้น เดินลู่เข้าหาแล้วรูดปรื้ดเดียวเท่านั้น หนี้ ตัวใหญ่ ๆ ก็จะนอนรอให้เราจ่ายตอนสิ้นเดือน "หนี้ผ่อนบ้าน" ทำงานมีเงินเดือน สิ่งถูกสอนต่อ ๆ กันมา ต้องมีบ้าน แต่หนี้บ้านเป็นหนี้สินที่ผ่อนระยะยาวถึงยาวมาก 20 - 30 ปี บางรายผ่อนจนถึงเกษียณอายุ เงินที่ผ่อนชำระค่าบ้านก็แล้วแต่ราคาบ้าน เป็นหนีี้ก้อนใหญ่สำหรับมนุษย์เงินเดือนเลยก็ว่าได้ บางคนพอหักค่าบ้านแล้วเงินที่เหลือใช้ก็ไม่มากนัก เลยทำให้คนที่เงินเดือนน้อย ขาดสภาพคล่อง เงินไม่พอในระหว่างเดือน เช่น เงินเดือน 30,000 บาท ผ่อนบ้าน 15,000 บาท เหลือเงินใช้จ่าย 15,000 บาท (คำนวณแบบง่าย ๆ โดยยังไม่หักค่าใช้จ่ายประกันสังคม กองทุน หรืออื่น ๆ ) หากระหว่างเดือนมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เงินไม่พอ ต้องหยิบยืมคนอื่น หรือหนี้อีกอย่างที่มักเกิดตามมา คือ "หนี้บัตรกดเงินสด" ดอกเบี้ยหนักหนาเอาการ ร้อยละ 28 ต่อปี หรือบางคนอาจเลยเถิดไปถึง "หนี้นอกระบบ" "หนี้ผ่อนรถยนต์" เป็นของอีกหนึ่งอย่างที่มันต้องมี เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง หรือเอามาสร้างบารมีให้ตัวเอง เงินเดือนน้อยก็เลือกราคารถยนต์ไม่แพงมาก เงินเดือนเยอะหน่อย รถยนต์ก็จะหรูขึ้นตามลำดับ แล้วแต่รสนิยมของกลุ่มเงินเดือน แต่มันก็เป็นหนี้อีกหนึ่งก้อนโต ที่รอให้เราผ่อนชำระ 3-5 ปี โดยประมาณ ทุก ๆ เดือนก็จะมีหนังสือแจ้งยอดหนี้จากสถาบันการเงินให้เราชำระ หนี้ค่าใช้จ่ายบางอย่างมาก บางอย่างน้อย แต่หลายอย่างรวมกันแล้วจ่ายทีเดียวตอนสิ้นเดือน ก็ไม่แปลกที่มนุษย์เงินเดือนจะใช้เงินแบบเดือนชนเดือน เงินเดือนออกก็ใช้หนี้ ระหว่างเดือนไม่พอก็กดบัตรเพิ่ม วนเป็นวงจรแบบงูกินหางอยู่แบบนี้ หนี้ที่กล่าวมานี้เป็นเพียงบางส่วน แต่ส่วนใหญ่แล้วคนทำงานประจำมักจะมี เพราะไม่มีเงินก้อนเลยต้องผ่อนชำระ การทำงานประจำมีข้อดีในเรื่องของรายได้ที่แน่นอน ตราบใดที่เราคงทำงานอยู่ การวางแผนเรื่องการเงินจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แนะนำให้แบ่งเงินออก เป็น 4 ส่วน เงินรายรับ เงินรายจ่าย เงินออม และเงินที่จะนำไปลงทุนบางส่วน ต้องเพิ่มช่องทางการสร้างรายได้ให้ตัวเองก่อนการสร้างหนี้ใหม่ขึ้น เช่น ถ้าเราอยากได้รถยนต์สักคัน อย่าเพิ่งรีบใจร้อน หาโอกาสสร้างเงินมาผ่อนชำระค่างวดรถยนต์ก่อน ทำจนมั่นใจว่าจะสามารถผ่อนรถยนต์ได้ค่อยซื้อ ผ่อนบ้านก็เช่นเดียวกัน ดูความสามารถในการผ่อนชำระ หากต้องการบ้านราคาแพง ต้องสร้างช่องทางหารายได้ให้มากขึ้นเช่นเดียวกับราคาบ้าน ส่วนเงินเดือนที่มาจากรายได้ประจำนั้น ควรเก็บออม และนำไปลงทุนเพื่อสร้างเป็นทรัพย์สิน ที่จะงอกเงยเป็นเงินเพิ่มให้เรา ผ่อนแรงในการที่ต้องทำงานประจำไปตลอดได้ เงินที่จะนำไปชำระหนี้ให้ใช้เงินที่ได้จากรายได้ที่สร้างขึ้นใหม่ ไม่ควรกระทบการเงินเดือนประจำ จะเป็นการลงทุนประเภทไหน ผู้เขียนแนะนำให้ศึกษาเรื่องการลงทุนโดยละเอียดก่อนนะคะ เครดิตรูปภาพ 1. ภาพหน้าปก : https://www.pexels.comรูปที่ 1 : https://www.pexels.comรูปที่ 2 : https://pixabay.comรูปที่ 3 : https://cdn.pixabay.comรูปที่ 4 : https://images.pexels.comรูปที่ 5 : https://pixabay.com