ยุคสมัยนี้ภาษาอังกฤษเป็นสิ่งจำเป็นกับทุกคนอย่างมาก เรียกได้ว่าใครมีพื้นฐานมากกว่า ก็มีโอกาสในการเรียนและการทำงานที่ดีกว่า ซึ่งเชื่อว่ามีหลาย ๆ คนที่อาจจะไม่ชอบวิชาภาษาอังกฤษ บางคนไม่ชอบจนถึงขั้นแอนตี้เลยก็มี แต่จริง ๆ แล้วถ้าเพื่อน ๆ ลองเปิดใจ และให้เวลากับมัน จะรู้ว่าภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด ใครที่เคยเจอแต่การเรียนแบบเดิม ๆ ที่น่าเบื่อ ลองเปิดใจอ่านบทความนี้ แล้วเพื่อน ๆ อาจจะเปลี่ยนความคิดไปเลยก็ได้ เพราะเราจะมาแชร์ประโยคที่ใช้กันจริงในทุก ๆ วัน เชื่อว่าหลังจากเพื่อน ๆ อ่านจบ จะสามารถนำไปคุยกับคนรอบตัวได้แน่นอนจ้า1. Feel like หลาย ๆ คนเมื่อต้องการจะบอกว่า ฉันอยากทำอย่างนั้นอยากทำอย่างนี้ อาจจะเข้าใจว่าต้องใช้คำว่า want แต่จริง ๆ แล้วเวลาเราต้องการจะบอกว่า " ฉันอยาก . . . " ฝรั่งเค้าจะพูดกันว่า I feel like + v.ing . . .อย่างเช่นซัมเมอร์แบบนี้หลาย ๆ คนคงอยากไปทะเล ก็ใช้ว่า I feel like going to the beach.หรือบางคนนั่งอ่านหนังสืออยู่แล้วเกิดอยากจะเคี้ยวขนมเล่น ๆ ก็ใช้ว่า I feel like having a snake.เพื่อน ๆ อยากทำอะไรกันบ้างลองแต่งประโยคตามดูซิ2. Spend จริงอยู่ที่คำว่า Use แปลว่า " ใช้ " แต่กรณีที่จะบอกว่า " ใช้เงิน " หรือ " ใช้เวลา "จะไม่ใช้คำว่า Use แต่จะใช้คำว่า Spendอย่างเช่นเราเป็นคนชอบใช้เวลาไปกับครอบครัว ก็จะพูดว่า I like to spend time with my family.หรือจะบอกว่าเราใช้เงินไปกับการซื้อเสื้อผ้า ก็พูดได้ว่า I spend my money on clothes.แล้วเพื่อนชอบใช้เวลา หรือใช้เงินไปกับอะไรกันบ้าง ลองแต่งประโยคกันดูน้าขอขอบคุณ : unsplash.com3. About to . . . นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำที่มักใช้กันบ่อย ถ้าคำว่า " About " จะแปลว่าเกี่ยวกับ, ประมาณ แต่ " About to + v.1 " จะแปลว่า กำลังจะ . . .อย่างเช่น นัดกับคุณแม่ไว้ที่ร้านอาหารแล้วคุณแม่โทรมาตาม ก็สามารถตอบได้ว่า I'm about to go. หนูกำลังจะไปหรือ I'm about to leave. หนูกำลังจะออกไป นั่นเองค่ะ ไหนใครมีนัดแล้วโดนโทรตาม อย่าลืมนำไปใช้กันนะคะ4. Addicted to . . . บอกเลยว่าคำนี้สามารถใช้ได้กับหลาย ๆ คน โดยเฉพาะคนที่ชอบเล่นโซเชียลเป็นชีวิตจิตใจ เพราะคำว่า " Addicted to + N. " แปลว่า ติด . . . อย่างเช่นตัวอย่างที่ยกไปว่า ฉันติดโซเชียลมาก ก็ใช้ว่า " I'm addicted to social network. "หรือ เพื่อน ๆ คนไหนที่ติดกาแฟ ต้องทานเป็นประจำทุก ๆ วัน ก็บอกได้ว่า " I'm addicted to coffee. "ขอขอบคุณ : unsplash.com5. Have you . . . อีกหนึ่งคำที่ใช้บ่อยมาก ๆ นั่นก็คือ " Have you + v.3 " จะมีความหมายว่า " . . .แล้วยัง "อย่างเช่น จะถามเพื่อนว่า ทานข้าวแล้วหรือยัง สามารถพูดได้ว่า " Have you eaten yet. "หรือถ้าอยากจะเจาะจงเป็นมื้ออาหารไปเลย ก็พูดได้ว่า " Have you had lunch. " นั่นเองค่ะ6. Are you . . . สำหรับ Are you ตัวที่ตามมาอาจจะเป็น Adj. หรือ N. ก็ได้ กรณีที่ 1 Are you + Adj. จะหมายถึง คุณรู้สึก . . . หรือเปล่า อย่างเช่น Are you hungry. คุณรู้สึกหิวหรือเปล่ากรณีที่ 2 Are you + N. จะหมายถึง คุณเป็น . . . หรือเปล่า อย่างเช่น Are you shopkeeper. คุณเป็นเจ้าของร้านหรือเปล่า7. Do you . . . ในส่วนของ Do you + v.1 . . . จะหมายความว่า ปกติคุณ . . . หรือเปล่าเช่น จะถามว่าปกติคุณดื่มแอลกอฮอล์หรือเปล่า ก็ถามได้ว่า " Do you drink alcohol. "เพื่อน ๆ ลองแต่งประโยคของตัวเองกันดูซิขอขอบคุณ : unsplash.com8. Please take good care ปิดท้ายกันด้วยนี่เลย สำหรับสถานการณ์ไวรัสตอนนี้ขอมอบประโยคนี้กับทุก ๆ คนเลยค่ะ Please take good care of yourself. ดูแลตัวเองดี ๆ นะ นั่นเองค่ะ อ้อออ . . . โดยเฉพาะชาวเชียงใหม่ เชียงรายที่ต้องเจอทั้งไวรัส ทั้ง PM 2.5 ก็ขอมอบประโยคนี้ให้เลือกค่ะ Take extra good care. ดูแลตัวเองเป็นพิเศษด้วยนะ อย่าลืมไปบอกคนรอบตัวกันนะทุกคน เห็นมั้ยหละคะ ภาษาอังกฤษไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเพื่อน ๆ แบ่งเวลาในการฝึกฝนวันละนิด ก็จะค่อย ๆ เก่งขึ้นอย่างแน่นอนจ้า ปล. ภาพหน้าปกเป็นภาพโดยนักเขียน