ความกดดันเป็นเหมือนสภาวะที่ สามารถเจอได้โดยทั่วไปในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน เรื่องเงิน บทบาทหน้าที่ เศรษฐกิจและสังคม ว่างเมื่อไหร่ก็ตามที่มีความทุกข์หรือความเครียดเกี่ยวกับสภาวะเหล่านี้แล้วก็จะเกิดเป็นความกดดันเกิดขึ้น ซึ่งความกดดันในบางครั้งก็เกิดจากการคาดหวังที่มากเกินไป จนทำให้ผิดหวังเสียใจ แท้จริงแล้วนั้นความกดดันมีทั้งดีและไม่ดีแต่ว่าความกดดันที่ไม่ดีอาจส่งผลทั้งต่อทางร่างกายและจิตใจ ภาพโดย Jan Vašek จาก Pixabay ความกดดันในแง่ของการทำงานและการเรียนนั้นเป็นสิ่งที่สามารถพบเจอได้โดยทั่วไปในกลุ่มคนที่กำลังทำงานหรือกำลังเรียน อย่างเช่นตัวอย่างสถานการณ์การ presentงานหรือ present โปรเจคจบ ซึ่งขอให้จะมีการเตรียมตัวมาอย่างดีเท่าไหร่ แต่เหตุการณ์จริงที่จะเกิดขึ้นนั้นก็ย่อมมีความผิดพลาดเกิดขึ้นได้ ซึ่งไม่ใช่มีเพียงแค่ความตื่นเต้นเท่านั้นในการเลือกต้องรับผิดชอบงานในจุดนี้ แต่ยังมีความกดดันและความคาดหวัง ว่าให้งานที่ทำออกมานั้นจบและผ่านไปด้วยดี ยังไม่รวมความคาดหวังจากผู้คนที่กำลังรอดูผลงาน พวกเขาอาจจะคาดหวังว่างานที่ออกมานั้นจะต้องดี และช่วยในการแก้ปัญหาที่กำลังดำเนินอยู่ แต่ถ้างานมันออกมาเฟล จากความคาดหวังที่ว่างานจะออกมาดีนั้นคงจะกลายเป็นความเศร้าและความทุกข์ที่จะต้องมานั่งแก้งานหรืออาจจะต้องทำโปรเจคใหม่กันเลยทีเดียว ภาพโดย mohamed Hassan จาก Pixabay ในกลุ่มคนที่มีทัศนคติในแง่บวก จะมองจุดบกพร่องตรงนี้ให้กลายเป็นพลังเพื่อพัฒนาตนเองไปสู่ ซึ่งจะทำให้คนกลุ่มนี้สามารถประสบความสำเร็จจากการพยายามทำงาน แต่ถ้าความพยายามนั้นเกินความพอดีอาจจะทำให้เป็นโรคเครียด หรือโรคกระเพาะได้ซึ่งอาจจะมีผลมาจากความแค่นั้นเอง ในกลุ่มคนที่มีทัศนคติในแง่ลบนั้น ความกดดันส่งผลร้ายแรงต่อทั้งทางร่างกายและทัศนคติของพวกเขาเป็นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่น ถ้าสิ่งที่เขาคิดเป็นสิ่งที่ผิดและไม่เป็นที่ยอมรับ การพรีเซนต์งานของเขาจะมีจุดจบที่น่าเศร้าทันที อย่างน้อยก็เพียงแค่แก้งานใหม่หรืออย่างมากก็อาจจะต้องทำโปรเจคใหม่ ซึ่งมันไม่ง่ายเลยกับการที่เขาเคยคิดว่า Project ของเขามันดีที่สุดแล้ว มันจึงทำให้เขาไม่อยากที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เขาทำอยู่เดิม ซึ่งมันอาจจะทำให้กลุ่มคนเหล่านั้นคิดว่าสิ่งที่เขาได้แสดงออกไปนั้นอาจจะมีกลุ่มคนที่ไม่พอใจและกำลังกลั่นแกล้ง แทนที่พวกเขาจะเอาเวลาไปใช้ในการแก้หรือหาโปรเจคใหม่ ๆ ในการทำงาน อาจจะทำให้เขาเป็นคนที่ไม่ไว้วางใจใคร และมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อคนอื่นได้ แต่ในกรณีที่ถูกคาดหวังจากคนอื่นจนมากเกินไป เมื่อเขาพยายามในการทำงานอย่างเต็มที่แล้วแต่ผลไม่ได้เป็นไปอย่างที่คนอื่นเขาคาดหวังไว้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้คนกลุ่มนี้กลายเป็นโรคซึมเศร้า ท้อแท้หมดกําลังใจในการทํางานไปเลยก็ได้ ภาพโดย Enrique Meseguer จาก Pixabay จากตัวอย่างทั้งสองนี้จะเห็นได้ว่ากลุ่มคนทั้งสองกลุ่มคนนี้ได้รับความกดดันเหมือนๆ แต่พวกเขามีทัศนคติต่อความกดดันที่แตกต่างกัน เพราะพื้นฐานเดิมของพวกเขานั้นมีทัศนคติที่ไม่ได้เหมือนกันตั้งแต่แรกแล้ว ซึ่งคนที่มีทัศนคติมองโลกในแง่ดีเขาจะเห็นแต่ในสิ่งที่ดีๆ แล้วสามารถที่จะขจัดปัญหาที่มีอยู่ให้ลดลงได้ แต่ในขณะที่คนที่มีทัศนคติในการมองโลกแห่งความเป็นจริงหรือมองในแง่ลบจนเกินไป พวกเขาอาจจะต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้ มันอาจจะดูยากและต้องการกำลังใจบ้าง สำหรับพวกเขา ก่อนที่คนรอบข้างจะมีอาการป่วยเป็นโรคต่างๆ ที่เกิดจากความกดดัน ผู้คนในที่ทำงานหรือเพื่อนร่วมงานควรสังเกตและให้กำลังใจเขา หรือควรที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือกันในฐานะเพื่อนมนุษย์ เพราะมันอาจจะเป็นสิ่งที่ช่วยสังคมเป็นโลกที่น่าอยู่ ออกแบบภาพหน้าปกโดยใช้ https://www.canva.com/