เรื่องราวแฟนตาซี เหนือธรรมชาติมักสร้างจินตนาการที่ล้ำเลิศให้กับผู้อ่านได้เป็นอย่างดี บทความนี้ผู้เขียนรีวิวและแนะนำหนังสือ “แม็กนัส เชส กับเทพแห่งแอสการ์ด : เรือมรณะ” เขียนโดย Rick Riordan แปลโดย พลอย โจนส์ ซึ่งเป็นภาคสุดท้ายของการเดินทางเพื่อหยุดยั้งวันสิ้นโลกของเหล่าอินแฮร์ยาร์ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรผู้เขียนจะรีวิวให้ได้อ่านกันค่ะหลังจากภารกิจการค้นหา “ค้อนของธอร์” สำเร็จลงพร้อมกับการที่ “โลกิ” สามารถหนีจากพันธนาการที่ผูกมัดเขาไว้ในถ้ำไปได้ แผนการก่อ “แร็กนาร็อก” หรือวันสิ้นโลกก็เริ่มขึ้นด้วยการที่โลกิจะออก "เรือนักฟลาร์" หรือ “เรือเล็บ” เรือลำนี้ถูกสร้างจากเล็บของคนตายผู้ไร้เกียรติ คนที่ตายโดยทั่วไปไม่ได้สร้างวีรกรรมกล้าหาญต่าง ๆ มากพอให้ได้ไปวัลฮัลลา หากเรือนักฟลาร์ออกเดินทางไปวันสิ้นโลกก็จะเกิดขึ้น ดังนั้น แม็กนัสและเหล่าเพื่อนอินแฮร์ยาร์ รวมถึง “ซามิราห์” เพื่อนผู้เป็นวัลคิรี ได้ทำภารกิจออกเดินทางเพื่อไปหยุดยั้งเรือลำนี้ที่มีโลกิเป็นกัปตันและผู้บงการ พวกเขาเดินทางผ่านต้นไม้โลก ไปยังเก้าโลกต่าง ๆ เพื่อค้นหาสิ่งของที่จะสามารถทำให้ชนะโลกิได้นั่นคือ “มี้ดแห่งควาเซียร์” เป็นเครื่องดื่มคล้ายเหล้าหรือเบียร์ที่มีคุณสมบัติในการทำให้ผู้ที่ดื่มเข้าไป มีศิลปะการพูดแบบกวี และด้วยเหตุนี้แม็กนัสต้องเป็นผู้ดื่มมี้ดแห่งควาเซียร์เพื่อทำการแข่งขัน “ฟลายติง” หรือแข่งด่ากันกับโลกิ เทพแห่งการโกหก หลอกลวงและมีศิลปะการพูดที่เลิศล้ำระหว่างการเดินทางแม็กนัสและเพื่อน ๆ ได้เรียนรู้กันและกันมากขึ้น ทั้งเรื่องราวในวัยเด็ก อดีตที่ขมขื่นและความกล้าหาญ ความรักใคร่ในเพื่อนฝูง ทุกคนรู้สึกเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโลกิแน่นอนว่าพวกเขาย่อมมีความกลัวก่อขึ้นในจิตใจ อีกฝ่ายเป็นถึงเทพเจ้าและมีเวทมนตร์แต่พวกเขาก็ไม่ย่อท้อ ในการแข่งกันฟลายติงโลกิใช้คำพูดที่กระทบเบื้องลึกในจิตใจของแม็กนัส คำพูดที่เสียดสีและแทงใจดำ ทำให้ผู้ฟังรู้สึกไร้ค่า แต่แม็กนัสก็สามารถเอาชนะได้ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง ไม่ให้คำพูดเหล่านั้นทำร้ายจิตใจของเขาได้ เขามีเพื่อน มีครอบครัวที่อยู่เคียงข้าง เขาไม่ได้ตัวคนเดียวอีกต่อไป โลกิต่างหากที่ไม่เหลือใครแม้กระทั่งครอบครัว ความจริงในข้อนี้ทำให้โลกิถึงกลับหมดพลังและล่าถอย ทำให้แม็กนัสและเพื่อน ๆ เอาชนะโลกิได้แม้จะเป็นวรรณกรรมแนวแฟนตาซี อ่านเพลินและสนุก แต่ก็ยังคงแฝงข้อคิดให้กับผู้อ่านได้ดีโดยเฉพาะในเรื่องของ “คำพูด” ที่สามารถทำร้ายคนได้ ทุกวันนี้คนที่ถูกทำร้ายส่วนใหญ่มาจากคำพูดที่ร้ายกาจ ทำร้ายจิตใจ ทำให้คนนั้นรู้สึกไร้ค่า จนกระทั่งเกิดโศกนาฏกรรมขึ้นตามที่เห็นในหน้าข่าวต่าง ๆ มากมาย โลกิอาจเปรียบได้กับคำพูดที่เลวร้าย รุนแรง คำพูดที่ไม่ได้ผ่านการไตร่ตรองว่าผู้ฟังจะรู้สึกอย่างไร แม็กนัสเปรียบเสมือนผู้เยียวยา แทนการพูดที่ดี พูดด้วยใจจริง พูดในสิ่งดีให้ผู้ฟังได้เห็นในสิ่งดีของตนเอง รู้สึกมีค่าและมองข้ามคำพูดร้ายนั้นไปได้ รวมถึงบทเรียนเรื่องของอดีต บางครั้งคนเราก็ไม่อยากนึกถึงอดีตที่มันผ่านมาแล้วแต่รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้วอดีตบางครั้งก็สวยงามและควรค่าแก่ความทรงจำ เราต้องยอมรับมันให้ได้เพราะเรื่องราวเหล่านั้นก็มีทั้งเรื่องดีที่ควรเก็บรักษา และเรื่องร้ายที่ควรนำมาเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขให้ถูกต้องและไม่ทำมันพลาดอีกโลกทั้งเก้าน่าสนใจเพราะมีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมที่แตกต่างกันอย่างมากมาย ผู้อ่านเชื่อหรือไม่ว่าจักรวาลนี้มีโลกทั้งเก้าอยู่จริง ๆ ร่วมผจญภัยไปในโลกทั้งเก้ากับแม็กนัสและเพื่อน ๆ ได้ใน “แม็กนัส เชส กับเทพแห่งแอสการ์ด” มีทั้งหมด 3 เล่มจบ สามารถหาซื้อได้ตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป และสามารถสั่งซื้อทางออนไลน์ตามหน้าเว็บไซต์ของร้านหนังสือได้ค่ะ หรือไปอ่านรีวิวในบทความของผู้เขียนก่อนได้นะคะ ภาพที่ 1 - 3 ถ่ายโดยผู้เขียนขอบคุณภาพภาพที่ 4 จาก Pixabay