เนื่องจากวันปิดเทอมช่วงเดือนตุลาคม เพื่อนอยู่บ้านแล้วเหงาค่ะ เพื่อนก็เลยชวนฉันไปอยุธยา ตอนแรกไปกัน 2 คน แล้วมีเพื่อนอีกคนอยากไปด้วย ก็เลยอ่ะทริปนี้ไปกัน 3 คน และนี่คือที่เราคุยกันค่ะ ฉัน : ไปทำไรอยุธยา เพื่อน : อยากไปดูประวัติศาสตร์ ฉัน : โอเค แค่นี้หรอ เพื่อน : อยากกินโรตีบังดิน เห็นในเฟสน่ากิน บังดินเป็นต้นกำเนิด และเพื่อนเค้าก็บอกฉันแบบนั้นค่ะ ฉันก็ตอบตกลงไป มาดูกันค่ะว่าเราเจอกับอะไรบ้าง เราเดินทางโดยรถไฟจากสถานีบุรีรัมย์ไปสถานีอยุธยา ใช้เวลา 5 - 6 ชม. ขึ้นรถประมาณ 00 : 00 น. พวกเราก็เลยหลับบนรถกันค่ะ จะว่าหลับก็ไม่หลับค่ะ เพราะบนรถไฟมีของขายเยอะมาก ทั้งน้ำอัดลม ข้าวจานเดียว ผลไม้ ฯลฯ จอดสถานนีไหนก็มีเสียงตะโกน พวกเราก็เลยหลับ ๆ ตื่น ๆ แต่มันก็เป็นบรรยากาศที่ดีไปอีกแบบค่ะ ตอนนี้เวลา 05 : 00 น. เราถึงอยุธยาแล้วค่ะ ลงจากรถไฟทั้งเบลอ ๆ เหมือนคนยังไม่ตื่น ใช่ค่ะ พวกเรายังไม่ตื่นกันเท่าไหร่ หลังจากนั้นพวกเราก็ไปเปลี่ยนชุด แปรงฟันกันที่ห้องน้ำ พวกเราเดินตรงมาที่ตลาดเพื่อหาอะไรกินกันตอนเช้า ตลาดตอนเช้านี้มีทั้ง ข้าวต้ม ไก่ทอด ของกินเล่นจุกจิก มีเสื้อผ้าขายเล็กน้อยสำหรับใครที่เดินทางมาไกลแล้วไม่ชอบพกของมาเยอะสามารถมาซื้อที่นี่ได้ เราหาอะไรกินเสร็จแล้วเราก็มาที่ท่าเทียบเรือสถานีรถไฟอยุธยา เพื่อนที่จะข้ามฝั่งไป ข้ามฝั่งไม่ถึง 5 นาทีค่ะ พอไปถึงเราก็รอเจ้าของร้านเปิดให้เช่าจักรยาน มอเตอร์ไซต์ เพราะเรามากันเร็วเกิน เค้าจะเปิดให้เช่าประมาณ 7 : 30 ค่ะ หลังจากนั้นร้านเช่าเค้าก็จะให้แผนที่เราสำหรับขับทัวร์ พวกเราเช่าจักรยานเพราะว่าพวกเราคิดว่ามันชิว ๆ ดี ปั่นไปเรื่อย ๆ และได้เจอป้าคนหนึ่งน่ารักมากมาร่วมทริปกับเรา ป้ามาคนเดียวอินดี้สุด ๆ 555 เราขับจักรยานพร้อมดูแผนที่มาเรื่อย ๆ เรามาซื้อบัตรเข้าอุทยาน เราเข้ามาที่วัดมหาธาตุ เดินเยี่ยมชมบริเวณรอบ ๆ เดินถ่ายรูปเล่นบ้าง อากาศก็เริ่มร้อน เราเดินพูดคุยกับคนที่มาเที่ยวด้วยกันอย่างสนุกสนาน และก็ปั่นจักรยานชมวัดต่าง ๆ กัน 4 คน สำหรับใครที่มีจุดประสงค์มาเที่ยวชมวัดหรือประวัติศาสตร์จริง ๆ บอกเลยค่ะว่า ครึ่งวันนี้สามารถเที่ยวชมวัดได้ทุกวัดเลยค่ะ ไม่ว่าจะเป็น วัดไชยวัฒนาราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดใหญ่ชัยมงคล วัดราชบูรณะ ฯลฯ ตามแผนที่เลยค่ะ มอเตอร์ไซต์จะสะดวกกว่านะคะ ส่วนมากที่เสียเวลาก็เพราะถ่ายรูปนี่แหละค่ะ ทริปนี้พวกเรามาเพื่อโรตีบังดินล้วน ๆ ค่ะ ทันใดนั้นเองด้วยอากาศที่ร้อนจัด ปั่นจักรยานจนเมื่อยกันแล้ว หลงทางกันบ้าง พวกเราก็เริ่มเหนื่อยกันก็เลยแวะซื้อน้ำกันกินบ้าง ซื้อไรกินบ้าง แล้วเพื่อนคนที่ชวนก็มาเพื่อโรตี นั่นคือประเด็นหลักของเพื่อน 555 พวกเรา 3 คน ก็เลยขอแยกทางกับป้าที่มาร่วมทริปกับเราเพราะป้าจะไปตลาดน้ำอโยธยา คือระหว่างทางมีร้านโรตีขายเยอะมากค่ะ บังอะไรไม่รู้เยอะมาก แต่เพื่อนฉันต้องการร้านที่ชื่อ "บังดิน" โอเคค่ะ เรา 2 คนก็ต้องพาไป กว่าจะหาเจอค่ะ หลงทางหนักมาก ปั่นจักรยานชมวัดจนเหนื่อย ยังต้องมาปั่นหาร้านโรตี....เอ่อ แต่พอมาถึงร้านโรตี คุ้มมากจริง ๆ ค่ะ คือดีมากกก เนื้อแป้งหอมเหนียว( สุดจริง ๆ ) ไส้อร่อยมาก อร่อยมากพอกินด้วยกันสมกับที่เพื่อนบอก และแล้วตอนนี้เวลาประมาณ 11 โมง หลังจากที่ตามหาโรตีกันจนเหนื่อย เราก็แวะซื้อโรตีกันเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ตกลงกันว่ากลับกันดีกว่า เหนื่อยมากค่ะทุกคน ปั่นจักรยานตากแดด 2-3 ชม. แล้วแดดประเทศไทยก็ตามนั้นค่ะ เราเดินทางกลับประมาณ 5-6 ชม. ระหว่างกลับเราก็หาอะไรกินบนรถไฟ พอถึงบ้านพวกเราก็อาบน้ำ เอาของฝากให้คนในครอบครัวค่ะ ไม่อยากจะรีวิวเท่าไหร่ เพราะมันเหนื่อยมากกก ได้แต่คิดว่า ทำไมฉันต้องบ้าจี้ตามมันด้วย555 ต้องบอกก่อนเลยนะคะว่าตอนแรกเราจะมากันถึงบ่ายโมงกว่าแต่เนื่องจากอากาศไม่เป็นใจนั่นแหละค่ะ เลยต้องตัดสินใจกลับก่อน ถึงจะเหนื่อยแต่คุ้มนะคะ ได้บรรยาศของกลิ่นเหล็กบนรถไฟทั้งขาไปและขากลับ ได้มิตรภาพดี ๆ ใครที่ต้องการจะมาเที่ยวก็ต้องเตรียมใจมาก่อนนะคะว่า สิ่งที่คิดอาจจะไม่ใช่สิ่งที่คิด (ขำเล็กน้อย) ค่าใช้จ่ายทั้งหมดก็ไม่ถึง 600 บาทต่อคนค่ะ อันนี้คร่าวๆนะคะ ค่ารถไฟ ไป-กลับ ประมาณ 300 บาท ค่าโรตี ประมาณ 120 บาท ค่ากิน ประมาณ 100 บาท ค่าบัตร 40 บาท ภาพทั้งหมดโดย : นักเขียน