"ร่างกายต้องการทะเล" วลียอดนิยมที่เราพบเห็นโดยทั่วไปในสื่อสังคมออนไลน์ ยิ่งช่วงฤดูร้อนแบบนี้การได้ไปเที่ยวทะเล ดำน้ำดูปะการัง อาบแดด ทานอาหารซีฟู๊ด และปาร์ตี้สังสรรค์ริมหาด คือที่สุดของการพักผ่อน "ฟิจิ" เป็นประเทศในฝันของนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะผู้ที่ชื่นชอบการเที่ยวทะเลเป็นพิเศษ ได้รับสมญานามว่าเป็นหนึ่งในสิบประเทศหมู่เกาะที่มีทัศนียภาพทางทะเลที่สวยงามที่สุดในโลก ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ล้อมรอบด้วยประเทศหมู่เกาะต่าง ๆ อาทิ ตองกา นิวแคลิโดเนีย วานูอาตู ซามัว วาลลิสและฟูตูนา นีอูเอ และตูวาลู "ฟิจิ" มีกรุงซูวา (Suva) เป็นเมืองหลวงของประเทศ และเมืองนาดิ (Nadi) เป็นเมืองศูนย์กลางด้านการท่องเที่ยวทางทะเล "13 ชั่วโมง บนเครื่องบิน" เนื่องจากยังไม่มีเที่ยวบินตรงจากไทยไปฟิจิ หากสนใจจะเดินทางไปท่องเที่ยวที่ฟิจิแนะนำให้ต่อเครื่องที่ฮ่องกงหรือสิงคโปร์ จะใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 13 ชั่วโมง โดยประมาณ (ไม่รวมเวลารอเปลี่ยนเครื่อง) ตามรายละเอียดเส้นทาง ดังนี้ DMK - HKG ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 45 นาที (สายการบินใดก็ได้) HKG - NAN ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 10 นาที (FIJI AIRWAYS) หรือ DMK - SIN ใช้เวลาบิน 2 ชั่วโมง 20 นาที (สายการบินใดก็ได้) SIN - NAN ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 10 นาที (FIJI AIRWAYS) * สามารถตรวจสอบเที่ยวบินได้จากเว็บไซต์ของแต่ละสายการบิน ** ผู้เขียนเลือกต่อเครื่องที่ฮ่องกง เพราะที่นั่งของสายการบินฟิจิ แอร์เวย์ส (FIJI AIRWAYS) ณ เวลานั้นมีที่นั่งว่างให้เลือกมากกว่าที่สิงคโปร์ *** ไอเทมชิ้นสำคัญ คือ หมอนรองคอ ทำให้นอนหลับสบาย ช่วยป้องกันอาการคอเคล็ดขณะนอนหลับบนเครื่องได้ดี เพราะบางทีเครื่องบินก็มักจะตกหลุมอากาศ สายการบินฟิจิ แอร์เวย์ส (FIJI AIRWAYS) เป็นสายการบินแห่งชาติของสาธารณรัฐฟิจิ เปิดให้บริการเส้นทางบินตรงระหว่างฟิจิกับอีก 23 ประเทศในภูมิภาคมหาสมุทรแปซิฟิก "BULA BULA BULA" คำพูดแรกที่ได้ยินหลังจากเดินทางถึงสนามบินเมืองนาดิ ประเทศฟิจิ ซึ่งเป็นสนามบินนานาชาติรองรับเที่ยวบินและผู้โดยสารทั้งในประเทศและต่างประเทศ เมื่อเดินทางถึงอาคารผู้โดยสารขาเข้าก็จะพบกับนักดนตรีชาวฟิจิกำลังขับร้องบทเพลงต้อนรับนักท่องเที่ยวพร้อมกับพูดคำว่า "BULA" หรือ บูลา ในภาษาไทยซึ่งมีความหมายว่าสวัสดี เป็นระยะ ๆ สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนเข้ารับการตรวจลงตรา คือ หนังสือเดินทางที่มีอายุการใช้งานมากกว่า 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่เดินทางเข้าประเทศฟิจิ และมีหน้าว่างสำหรับประทับตราอย่างน้อย 2 หน้า แนบพร้อมกับแบบฟอร์มตรวจคนเข้าเมืองซึ่งต้องกรอกข้อมูลอย่างครบถ้วน (พนักบริการบนเครื่องบินจะแจกแบบฟอร์มนี้ประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนเดินทางถึงสนามบินนาดิ) * คนไทยสามารถเดินทางเข้าประเทศฟิจิได้โดยไม่ต้องใช้วีซ่า ** ควรเตรียมเอกสารเกี่ยวกับการจองเที่ยวบิน ที่พัก แผนการเดินทาง หรือหลักฐานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องติดตัวไว้ด้วย เพื่อความสะดวกในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองขอตรวจสอบเอกสารเพิ่มเติม นักดนตรีชาวฟิจิกำลังร้องเพลงต้อนรับนักท่องเที่ยวอยู่ ณ บริเวณห้องโถงก่อนเข้าเขตตรวจคนเข้าเมือง "1 FJD = 13 THB" ดอลลาร์ฟิจิ (FJD) เป็นสกุลเงินท้องถิ่นของประเทศฟิจิ อัตราแลกเปลี่ยนในขณะนั้นอยู่ที่ 1 ดอลลาร์ฟิจิ เท่ากับ 13 บาทไทย กรณีแลกเงินในสนามบินแนะนำให้ใช้เงินสกุล GBP หรือ USD เพราะอัตราการแลกเปลี่ยนจะดีกว่าเงินสกุลอื่น "NADI ศูนย์รวมอาหารนานาชาติ" หมดกังวลเรื่องอาหารการกินไปได้เลย เพราะที่เมืองนาดิมีอาหารร้านเกือบทุกสัญชาติในเอเชียทั้งไทย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และอินเดีย ที่ประทับใจมากคืออร่อยเกือบทุกร้าน รสชาติไม่ต่างจากร้านอาหารดัง ๆ ตามห้างสรรพสินค้าในไทยเลย แนะนำร้านอาหาร อาหารญี่ปุ่น: Daikoku Nadi ร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์เทปันยากิหรือการใช้กะทะเหล็กแบนในการประกอบอาหาร มีให้เลือกทั้งแบบอาหารจานเดียวและอาหารตามสั่ง เมื่อเลือกเมนูเสร็จจะมีเชฟมาประจำที่โต๊ะและแสดงวิธีการทำอาหารให้ดู * ควรโทรจองโต๊ะล่วงหน้า 1 วัน อาหารเกาหลี: Korean BBQ Arirang Restaurant ร้านอาหารเกาหลีสไตล์ปิ้งย่างบาร์บีคิวที่อร่อยมากและโต๊ะก็เต็มไวมากเช่นกัน ดีงามสุดเห็นจะเป็นซุปกิมจิและโซจู อาหารอินเดีย: ไม่ได้ลองทานเพราะไม่ชอบกลิ่นเครื่องเทศ แต่ที่คนฟิจิแนะนำมาคือร้าน Mumbai Dhaba "นั่งเรือเที่ยวหมู่เกาะมามานูกา" หมู่เกาะมามานูกา (Mamanuca Islands) เป็นหมู่เกาะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของฟิจิและเคยถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง Castaway (2000) นำแสดงโดยทอม แฮงส์ การเดินทางไปยังหมู่เกาะมามานูกาทำได้สองรูปแบบ คือ เดินทางเฮลิคอปเตอร์ส่วนตัว (จองล่วงหน้า) และเดินทางด้วยเรือเฟอร์รี่ ซึ่งเป็นตัวเลือกยอดนิยมของนักท่องเที่ยว เรือเฟอร์รี่เปิดให้บริการ ณ ท่าเรือเดนาเรา (Denarau Port) แบ่งเป็น 3 เส้นทางท่องเที่ยวหลัก ประกอบด้วย Seaspray Day Adventure Route, Transfer/Explorer Route และ Malamala Route เพราะประเทศฟิจิประกอบด้วยเกาะน้อยใหญ่มากกว่า 300 เกาะ เอกสารประกอบการตัดสินใจเลือกเส้นทางสำหรับนักท่องเที่ยว ส่วนตัวผู้เขียนเลือกเส้นทาง Transfer/Explorer Route เพราะว่ามีเกาะ Castaway ในเส้นทางนี้ด้วย เมื่อตัดสินใจได้แล้วสามารถเดินเข้าไปซื้อตั๋วที่เคาน์เตอร์ได้เลย ตั๋วเรือเฟอร์รี่ที่ซื้อมาจะมีคูปองที่สามารถใช้แลกอาหารกลางวันได้ 1 มื้อ (อาหารจานหลัก + ของหวาน) รวมถึงสิทธิ์ในการใช้อุปกรณ์สำหรับทำกิจกรรมทางทะเล เช่น เรือคายัค เสื้อชูชีพ เรือใบ แว่นตาว่ายน้ำ และอุปกรณ์สำหรับดำน้ำลึก "Malolo ยังว่างอยู่นะคะ" ฟิจิเป็นหนึ่งในประเทศที่ผู้เขียนมองว่ามีรูปแบบการท่องเที่ยวทางทะเลที่ดีมาก เนื่องจากแต่ละเกาะมีการจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายทางธรรมชาติมากเกินไป ด้วยเหตุนี้ผู้เขียนจึงอดไปเที่ยวเกาะ Castaway แต่ก็มีอีกเกาะที่น่าสนใจเช่นกันและมีที่ว่างอยู่นั่นคือเกาะ Malolo ดินแดนที่ชาวฟิจิเชื่อว่าเป็นเกาะที่เทพเจ้าโบราณสร้างขึ้นและเป็นสถานที่พักผ่อนของดวงอาทิตย์ เอกลักษณ์ของเกาะ Malolo คือ สะพานและศาลาไม้ที่ยื่นออกไปในทะเล สร้างขึ้นเพื่อใช้ต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเยือนเกาะ (ลงจากเรือเฟอร์รี่แล้วนั่งเรือเล็กเข้ามา) เกาะ Malolo เป็นหนึ่งในเกาะที่มีเจ้าของเป็นชาวฟิจิดั้งเดิม เปิดให้บริการห้องพัก ห้องอาหาร บาร์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสปาธรรมชาติ สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้มากที่สุดวันละ 90 คนเท่านั้น โถงรองรับนักท่องเที่ยวที่เพิ่งเดินทางมาถึงเกาะมาโลโล จะมีพนักงานชาวฟิจิคอยให้การต้อนรับและอธิบายเกี่ยวกับสถานที่อำนวยความสะดวกต่าง ๆ บนเกาะ กิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากในหมู่นักท่องเที่ยวคือการดำน้ำชมปะการัง ซึ่งมีความสวยงามเทียบเท่ากับแนวปะการังเขตทะเลอันดามันของไทยแต่มีความอุดมสมบูรณ์มากกว่า และหากนักท่องเที่ยวสนใจจะพักบนเกาะสามารถทำการจองห้องพักได้ที่ http://maloloisland.com/ ภาพและคำบรรยายโดยผู้เขียน CallmeBankgamo