การเดินทางคนเดียว ไม่ได้ทำให้รู้สึกเหงาเสมอไป และการไปไหนมาไหนคนเดียว ก็ไม่ได้หมายความว่า ไม่มีใครคบซะหน่อย ถ้าคุณเรียนรู้ที่จะออกเดินด้วยตัวคุณเอง คุณจะรู้ว่าเสน่ห์ของความเดียวดายมันโรแมนติคขนาดไหน ฤดูหนาวประเทศไทย ให้หนาวสุด ๆ ต้องขึ้นเหนือ จุดหมายปลายทางคราวนี้ คือ “เชียงดาว” หนึ่งในอำเภอที่อยู่สูง ๆ ของเชียงใหม่ เห็นใครไปกันนักต่อนักแล้ว ถ่ายรูปกันมาอวด คนชอบเดินทางนี่ใจสั่น ใครบางคนเคยกล่าวไว้ว่า “การเดินทาง มักทำให้เกิดเรื่องราวเสมอ” ดังนั้น ฉันจึงออกเดินทาง แผนการเดินทางคร่าว ๆ ไม่มีอะไรมาก นั่งรถทัวร์นครชัยแอร์จากรุงเทพ ฯ เลือกที่นั่งเดี่ยว นอนยาวตลอดทาง รู้สึกตัวอีกที อ้าว !!! เข้าเมืองเชียงใหม่แล้วสินะ ลงรถทัวร์ที่ขนส่งอาเขต หลังจากเข้าห้องน้ำล้างหน้าล้างตา หาอเมริกาโน่ร้อน ๆ จิบแก้หนาวฆ่าเวลารอพลขับมารับ ส่วนที่พักเลือกจากรีวิวของนักท่องเที่ยวมากมาย เดินทางคนเดียว ความปลอดภัยต้องมาก่อน “เชียงดาวแคมป์ปิ้ง” นี่ล่ะ อ่านรีวิวแล้วอุ่นใจ น้องอาร์ต เจ้าของแคมป์ปิ้งเดินทางมารับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ประจวบเหมาะพอดีที่น้องเข้ามาทำธุระที่เชียงใหม่ ก็เลยทำให้นักเดินทางอย่างเราไม่ต้องไปต่อรถตู้เพื่อเดินทางขึ้นเชียงดาว กว่าสองชั่วโมง จากตัวเมืองเชียงใหม่เรื่อยมาถึงที่ทำการเชียงดาวแคมป์ปิ้ง น้องบอกให้นั่งพัก เดินเล่น หาอะไรกินไปก่อน จากจุดนี้นั่งรถไปอีกราว ๆ 20 นาที จะถึงแคมป์ปิ้ง ตรงนั้นไม่มีร้านค้า มีแต่ธรรมชาติ ภูเขา สายหมอก และต้นหญ้า ดังนั้น ถ้าอยากจะกินอะไร เดินไปร้านสะดวกซื้อตุนเสบียงให้สำราญ ณ ที่ทำการของแคมป์ปิ้งตรงนี้ มีกาแฟสดหน้าตาดีไว้รองรับด้วยนะเออ เมื่อถึงเวลานัดหมาย กะบะโฟร์วีลคันเดิม พาเราให้เดินทางอีกครั้ง สู่แคมป์ปิ้งอย่างที่ตั้งใจจะมา บุกป่า ฝ่าดงไปได้สักครู่ ก็เดินทางมาถึง...เชียงดาวแคมป์ปิ้ง โอ้ววว มาย ก้อดดดด ... สวยสด และงดงาม อะไรเช่นนี้ เราเดินทางขึ้นมาถึงราว ๆ ห้าโมงเย็น พระอาทิตย์กำลังลาลับ อากาศหนาวกำลังพอดี มีนักท่องเที่ยวที่มาก่อนอยู่แล้ว เป็นครอบครัวบ้าง เป็นกลุ่มเพื่อนบ้าง มื้อเย็นแบบนี้เป็นเวลาของหมูกะทะ เพราะแต่ละกระโจม มีเตาปิ้งย่างของใครของมันอยู่ด้านหน้า กระติก น้ำแข็ง โซดา และเครื่องดื่มต่าง ๆ ที่ตัวเองพึงใจ บรรยากาศดี หอมกลิ่นต้นหญ้า ตรงแม่น้ำเล็ก ๆ เริ่มมีไอหมอกให้เห็น หลังจากร่ำลากับน้องอาร์ตก็ขอตัวจัดเก็บข้าวของให้เป็นที่เรียบร้อยในกระโจมที่จองไว้ กระโจมขนาดปานกลางที่นอนได้สองคน มีฟูกหนาใหญ่สีขาววางอยู่ พร้อมกับผ้าห่มนวมหนาสะอาดสะอ้าน มีโต๊ะเล็ก ๆ ไว้สำหรับวางของ นอนมองฟ้าตรงนี้ ได้อย่างมีความสุขทีเดียวเชียวล่ะ เค้าว่ากันว่า “อากาศหนาว จะทำให้เราเหงามากกว่าที่เคยเป็น” คืนนี้หนาวมาก แต่ไม่เหงานะจ๊ะ เดินทางมาเหนื่อย คืนนี้ขอเอาตัวเข้าไปซุกในผ้าห่มอุ่น ๆ เช้าเมื่อไหร่ ค่อยว่ากัน ... เสียงนาฬกาปลุก ดึงฉันให้ตื่นจากภวังค์ หลับสบายมา บอกเลย หยิบมือถือมาดู เวลากำลังดี หกโมงเช้านิด ๆ ในกระโจมยังหนาวขนาดนี้ ข้างนอกจะหนาวขนาดไหน รูดซิปออกไปกัน ... เช้านี้วัดได้ 15 องศา กำลังพอดี หนาวกำลังชอบ ไอหมอกลอยเหนือน้ำในลำธาร มองแล้วชื่นในหัวใจ ตรงภูเขาด้านหน้าก็ถูกปกคลุมไปด้วยหมอกหนา ฉันอยู่ในเสื้อยืดที่มีเสื้อหนาวหนา ๆ ทับอีกตัว เดินเล่นไปมาชื่นชมความสวยงามอย่างมีความสุข ในส่วนบริเวณลานต้อนรับ เช้า ๆ หนาว ๆ แบบนี้มีเครื่องดื่มร้อน ๆ กับข้าวต้มไว้คอยบริการแขกที่มาพัก ฉันไม่ทานเนื้อสัตว์ แม่ครัวใจดีจัดไข่เจียวมาให้กับข้าวต้มเปล่า 1 ชุด นั่งกินข้าวไป มองวิวไป คนข้าง ๆ มากันเป็นคู่ มาเป็นครอบครัว มองความสุขของคนอื่น เสียงหัวเราะเหล่านั้นมักทำให้เราเกิดรอยยิ้มไม่รู้ตัว ฉันประทับใจในทุก ๆ ที่ที่มีโอกาสได้เดินทางไป ทุกการเดินทางมักมีเรื่องราวแตกต่างกันออกไปเสมอ รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ มิตรภาพ และเรื่องราวไม่คาดคิด มีเงินเท่าไหร่ ก็ไม่สามารถหาซื้อความทรงจำเหล่านี้ได้ ลองหาข้อมูลกันดู ที่พักเก๋ๆ หอมกลิ่นธรรมชาติ ชื่อว่า "เชียงดาว แคมป์ปิ้ง" ที่พักขนาดกะทัดรัด มีบริการเพียง 8 หลัง ไพรเวทสุดๆ กระโจมขนาด 2 ท่าน ราคา 1,550 บาท กระโจมขนาด 4 ท่าน ราคา 2,950 บาท แล้วยังมีราคาพิเศษสำหรับวันธรรมดาด้วยนะเอออยู่ที่ 1,250 บาท กับ 2,500 บาท กระโจมที่นี่มีห้องน้ำส่วนตัวทุกหลัง และ ราคานี้ก็รวมอาหารเช้าแล้วด้วย พักผ่อนกันชิวๆ จิบเบียร์ไป ปิ้งหมูกะทะกันไป บรรยากาศแบบนี้จะประทับใจมิรู้ลืม เพราะอย่างนั้น...ฉันจึงหลงใหลการเดินทาง "Decide how you want to feel, and go wherever it takes to feel that way." – Andy Hayes จงถามตัวเองว่าอยากมีความรู้สึกอย่างไร และไปเหยียบยืนในที่ทำให้คุณรู้สึกแบบนั้นได้ -จนกว่าจะพบกันใหม่- นะพัด เขียน