ใครเป็นสายชาเขียวบ้าง ยกมือขึ้นหน่อย! หากใครเป็นคนที่ชอบชาเขียวเหมือนแมวเหมี๊ยว รับรองจะต้องชอบร้านนี้ เกียวโต อินาริ ร้านที่มีครบทั้งซอฟท์ครีม พาร์เฟ่ต์ เครื่องดื่มร้อน-เย็น เมนูเด่น ๆ ก็คือชาเขียว แต่ถ้าใครที่ไม่ชอบชาเขียว ก็มีเมนูเครื่องดื่มอย่างอื่นให้เลือกทั้งชานม ช็อกโกแลต นมสด ฯลฯ เรียกได้ว่าถ้าคนที่พาไปด้วยไม่อินกับชาเขียวก็ยังมีเมนูมากมายให้อินอีกเยอะ ร้านนี้มีหลายสาขา สาขาที่แมวเหมี๊ยวไปคือ เซ็นทรัลพระราม 9 เดินทางสะดวกด้วย MRT ลงสถานีพระราม 9 แล้วเดินเข้าห้างได้เลย ร้านอยู่ ชั้น 6 หน้าร้าน เดอะ พิซซ่า คอมปะนี (ภาพถ่าย: แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) ตอนแรกตั้งใจจะกินชาเขียวไข่มุกสักแก้ว แต่พอเห็นเมนูที่วางบนเคาน์เตอร์เท่านั้นแหละ เมนูละลานตาไปหมด ตัวเลือกเยอะแบบนี้ เราก็ต้องเยอะตาม แมวเหมี๊ยวเลยเลือก "ตามที่ตัวเองอยากกินทั้งหมด" หลังจากที่สแกนดูจากเมนูแล้ว เมนูที่เข้าตาและราคาโดนใจก็คือโมจิมัทฉะ พาร์เฟ่ต์ ราคา 125 บาท เพราะดูจากรูปแล้วเครื่องแน่น น่าจะครบตามที่อยากกิน (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) ตอนแรกคิดว่าจะเดินไป กินไปสบาย ๆ แต่พอดีเหลือบเห็นว่ามีที่นั่ง ก็ตัดสินใจนั่งกินที่ร้านดีกว่า เวลาตอนนั้นคนไม่พลุกพล่านด้วย พอมานั่งที่โต๊ะก็จะมีป้ายวาง ข้อความในป้ายระบุไว้ว่า "ขออภัยคุณลูกค้าที่ต้องรอนาน เพื่อความอร่อยเข้มข้นของสินค้า ทางร้านใช้เวลาผลิตแก้วต่อแก้ว" สำหรับใครที่หัวร้อนอยากกินเดี๋ยวนั้นต้องยอมรับกติกาหน่อยนะจ๊ะ ของดีมีคุณภาพต้องรอสักนิด ถ้ารสชาติอร่อยมันก็คุ้มค่าแก่การรอว่าไหม (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) รอสักพักพาร์เฟ่ต์ของเราก็มาเสิร์ฟ จะบอกว่าเหนือความคาดหมายมาก วัตถุดิบทุกอย่างบอกได้เลยว่าล้นแก้ว และแก้วใหญ่มาก ดีแล้วที่ตัดสินใจนั่งกินที่ร้าน ถ้าถือนี่มีหวังเละเทะแน่นอน จะเห็นได้ว่าทั้งการจัดเรียง และการเสิร์ฟดูมีเอกลักษณ์และใส่ใจจริง ๆ ชอบถาดไม้เล็ก ๆ ที่รองแก้วพาร์เฟ่ต์ ดูพอดีและน่ารักมาพร้อมน้ำเปล่าเย็น ๆ เอาไว้ล้างคอ (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) เรามาดูกันว่าในแก้วนี้มีอะไรอะไรบ้างเริ่มจากเจลลี่มัทฉะ และเจลลี่โฮจิฉะ ก้อนใหญ่สองก้อน เสียบไม้มาดูน่ารัก พร้อมด้วยถั่วแดงอาซูกิ รสไม่หวานมากปั้นมาเป็นก้อนขนาดใหญ่ แถมด้วยซอฟท์ครีมมัทฉะที่กดมาตั้งแต่กลางแก้วสูงเลยขอบแก้วมาจนน่าตกใจ มีโมจิลูกใหญ่ยักษ์ ยังไม่พอดูวัตถุดิบที่แทรกกันแต่ละชั้นสิ มีทั้งคอนเฟลก ซอฟท์ครีมโฮจิฉะ และข้างใต้ยังมีวุ้นมัทฉะ และวุ้นโฮจิฉะหั่นบางกองอยู่ด้านล่าง (มาเจอตอนกินเกือบหมดว่ามีวุ้นกองอยู่ข้างล่างเยอะมาก) (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) หันมาอีกด้าน จ๊ะเอ๋ ! น้องไข่มุกอัดแน่นมาก พูดถึงเรื่องรสชาติกัน ไข่มุกหนึบกำลังพอดี รสไม่หวานไป เคี้ยวแล้วสู้ฟันมาก ผสมกับซอฟท์ครีมมัทฉะรสเข้มเข้ากัน ตักลงไปเจอคอนเฟลกกรอบ ๆ ยิ่งทำให้เคี้ยวเพลินจนหยุดไม่ได้ ส่วนเจลลี่มัทฉะ และเจลลี่โฮจิฉะที่เสียบไม้อยู่ รสชาติของชาเข้มข้นมาก ตอนแรกคิดว่าจะเป็นเจลลี่ที่ค่อนไปทางหวาน แต่พอกินแล้วมันคือรสธรรมชาติของชาที่ไม่ได้แต่งเติมอะไรเลย เพราะตอนที่ค่อย ๆ ละเลียดตัวเจลลี่ไปนั้น กลิ่นชามันกรุ่นอยู่ในปาก จะกินพร้อมซอฟท์ครีมก็เด็ด หรือจะกินแต่เจลลี่เปล่า ๆ เพื่อเปิดต่อมรับรสก่อนก็ไม่ว่ากัน ส่วนถั่วแดงอาซูกิ ยังมีเนื้อความเป็นถั่วแดงอยู่ ไม่ได้เนียนมากกินแล้วรู้สึกถึงรสสัมผัสของถั่วแดง ยิ่งตักกินพร้อมซอฟท์ครีมยิ่งเข้ากัน (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) สำหรับมัทฉะแน่นอนว่าหลายคนคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว แต่ตัวโฮจิฉะอาจจะเคยได้ยินกันมาบ้าง แต่ เอ๊ะ! มันคืออะไรนะ ตอนแรกแมวเหมี๊ยวก็สงสัยว่าอาจจะเป็นอีกสายพันธุ์ของชา แต่ไปหาข้อมูลมาก็พบว่าตัวโฮจิฉะก็คือผงชาเขียวที่ผ่านการคั่วนั่นเอง "โฮจิ" มีความหมายว่าคั่ว "ฉะ" ก็คือ ชา โฮจิชะก็คือชาเขียวที่ผ่านการคั่ว เลยทำให้ผงชาเป็นสีน้ำตาล ซึ่งตัวโฮจิฉะจะผ่านการคั่วด้วยอุณหภูมิประมาณ 200 องศาเซลเซียส เมื่อคั่วด้วยความร้อนสูงแล้วก็นำมาทำให้เย็นอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระบวนการนี้จะทำให้คาเทชินและคาเฟอีนในชาเขียวลดลง ซึ่งทั้งสองตัวนี้จะมีผลในเรื่องรสชาติขมของชา เลยทำให้โฮจิฉะ เป็นชาที่รสอ่อน กินง่าย ไม่ขมมากเหมือนชาเขียวนั่นเอง (ข้อมูลประกอบโฮจิฉะ eatconnection.com) (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) มาถึงโมจิลูกใหญ่กว่าเหรียญสิบ อันนี้ประทับใจมาก ถ้าใครชอบรสสัมผัสที่หนึบหนับจะประทับใจโมจิชิ้นนี้ทันที ส่วนไส้ของโมจิที่แมวเหมี๊ยวกินคือมันม่วง(ตอนแรกคิดว่าถั่วแดง) โมจิที่นี่ต้องยกนิ้วให้เลยมันอร่อยมาก ชอบตรงที่เนื้อโมจิไม่หนืดและเละเกินไป ส่วนเนื้อซอฟท์ครีมที่ให้มาเยอะจนน่าตกใจ เนื้อดีมาก ไม่เหลว กินกับท็อปปิ้งทุกอย่างที่จัดมาเข้ากันหมด ส่วนกลางแก้วก็จะเจอซอฟท์ครีมโฮจิฉะที่รสชาติเบาบาง ยังไม่พอตักลงไปเจอเจลลี่มัทฉะและเจลลี่โฮจิฉะอีก คราวนี้แหละความเข้มข้นดีดขึ้นมาอีก สุดยอดของการคาดเดารสชาติในพาร์เฟ่ต์แก้วนี้เลย เพราะมีรสชาติที่ซ่อนให้ตกใจเล่นทุกคำที่กิน (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) ถ้าใครเป็นคนที่ชอบความหลากหลาย และอยากกินอะไรหลาย ๆ อย่างในแก้วเดียวแนะนำ พาร์เฟ่ต์ ซึ่งพาร์เฟ่ต์ของร้านก็มีหลากหลายรสชาติ ไม่จำเป็นต้องเป็นตัวมัทฉะก็ได้ แต่ถ้าใครที่ชอบรสอ่อนก็สั่งเป็นตัวโมจิโฮจิฉะพาร์เฟ่ต์ก็ได้เพราะไม่ขมมาก และคาเฟอีนต่ำ หรือจะเลือกเป็นแบลคมิลค์ทีพาร์เฟ่ต์ รสชานมอ่อน ๆ หรือใครไม่ชอบชาเขียวก็จัดดาร์กช็อกคุกกี้มิลค์พาร์เฟ่ต์ก็น่าสน แต่ถ้าใครมองว่าพาร์เฟ่ต์หนักไป เยอะไป ขอแบบเบา ๆ ก็ตัดเป็นตระกูลเครื่องดื่มใส่ไข่มุกก็ได้ หรืออยากเดินกินเพลิน ๆ ก็เลือกนี่เลย ซอฟท์ครีมวาฟเฟิล สำหรับแมวเหมี๊ยวแล้ว ถือว่าของสมราคาเพราะทุกอย่างล้นแก้วจริง ๆ และรสชาติอร่อย แต่อย่าลืมนะว่า เค้าค่อนข้างใช้เวลาทำ เพราะเค้าจัดเรียงวัตถุดิบแบบแก้วต่อแก้ว แต่ก็คอนเฟิร์มได้ว่า คุ้มค่าแก่การรอคอยแน่นอน ดูแค่รูปอาจฟินไม่เท่าต้องไปลองกินเอง ... (ภาพถ่าย : แมวเหมี๊ยวบนกองหนังสือ) สำหรับใครที่อยากตามรอยก็ดูข้อมูลด้านล่างนี้ได้เลย ชื่อร้าน : Kyoto Inari เวลาเปิด- ปิด : เปิดทุกวัน (ตามเวลาห้างเปิด - ปิด) พิกัด ร้าน kyoto inari 7 สาขา สะดวกห้างไหนแวะห้างนั้นได้เลย สาขาเดอะมอลล์บางกะปิ (ชั้น G หน้ากูร์เมต์ ซุปเปอร์ มาร์เก็ต) สาขาเซ็นทรัล ปิ่นเกล้าชั้น G (หน้าท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต) สาขาเซ็นทรัล บางนา ชั้น B (หน้าท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต) สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ชั้น 3 (หน้าศูนย์ AIS) สาขาเซ็นทรัล เวิลด์ ชั้น 6 (หน้า อาหาร MK GOLD) สาขาเซ็นทรัล พระราม 9 ชั้น 6 (หน้าร้าน เดอะ พิซซ่า คอมปะนี) สาขาไอคอนสยาม ชั้น G (หน้าร้านตะลิงปิง)