เมนูต้มพะโล้เตาถ่าน หมูนุ่มชุ่มลิ้น ช่วงกักตัวอยู่บ้านเพื่อลดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แน่นอนว่านอกจากการทำงานตามหน้าที่แล้ว การทำอาหารก็กลายเป็นอีกหนึ่งหน้าที่สำคัญในช่วงนี้ไปเสียแล้ว วันนี้ก็เช่นกันค่ะ นักเขียนมีเมนูง่าย ๆ วัตถุดิบธรรมดา ทำเองได้ทุกบ้าน แต่อร่อยมาก ๆ มาแนะนำและชวนทำไปพร้อม ๆ กันค่ะ นั่นก็คือ “เมนูหมูพะโล้” แต่จะทำเป็นหมูพะโล้ธรรมดามันก็จะธรรมดาไป ครั้งนี้เลยขอทำด้วยเตาถ่านหลังบ้านค่ะ เลยกลายเป็นเมนู “พะโล้เตาถ่าน หมูนุ่มชุ่มลิ้น” ว่าแล้วนักเขียนก็จัดแจงเตรียมวัตถุดิบสำหรับการทำ “พะโล้เตาถ่าน” กันค่ะ ประกอบด้วย หมูสามชั้นผสมกับเนื้อหมูส่วนขาหน้า ที่เลือก 2 อย่างนี้ก็เพราะเป็นเนื้อส่วนที่ให้รสอร่อยเมื่อทำพะโล้และเนื้อมีความนุ่ม ไข่ไก่ ผงพะโล้/เครื่องพะโล้ หอมแดง/กระเทียม น้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ซีอิ๊วดำ หม้อต้มใบโต ๆ พร้อมน้ำเปล่าครึ่งหม้อ และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการทำพะโล้ของเราวันนี้ก็คือ “เตาถ่าน” ขนาดกลาง ๆ ที่สามารถวางหม้อต้มได้แบบมั่นคงแข็งแรง เมื่อเตรียมวัตถุดิบและอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบถ้วนแล้ว เรามาเริ่มทำไปพร้อม ๆ กันเลยนะคะ วิธีการทำพะโล้เตาถ่าน ไม่ยุ่งยาก ขั้นตอนง่าย ๆ ตามนี้ค่ะ 1. หั่นหมูเป็นชิ้นพอประมาณ แล้วหมักด้วยผงพะโล้ น้ำปลา ซีอิ๊วดำ ทิ้งไว้สักพักให้เครื่องปรุงเข้าเนื้อ 2. ต้มไข่ไก่ให้สุก แล้วพักไว้ 3. จุดไฟเตาถ่าน นำหม้อใบโตตั้งน้ำรอให้เดือด ทุบหอมแดงและกระเทียม ใส่ลงในหม้อ 4. เมื่อน้ำเดือดใส่หมูที่หมักไว้ลงในหม้อ พร้อมเติมเครื่องพะโล้ที่เหลือ 5. รอให้น้ำเดือดอีกครั้ง ใส่ซีอิ๊วดำให้ได้สีสันสวยงาม เติมเครื่องปรุงรสน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ให้ได้รสเค็มและหวานนำพอกลมกล่อม หรือให้ได้รสตามที่แต่และคนชอบ 6. ตั้งไฟเคี้ยวหมูในน้ำซุปต่อไปนาน ๆ จนกว่าเนื้อหมูจะนุ่ม 7. เมื่อชิมเนื้อหมูมีความนุ่มพอประมาณแล้ว ให้ปอกไข่ไก่ต้มที่เตรียมไว้ใส่ลงไป ต้มต่ออีกสักพักจนเนื้อหมูเปื่อยนุ่มตามต้องการ ก็ยกลงจากเตา เป็นอันเสร็จเรียบร้อย เพียงเท่านี้เราก็จะได้หมูพะโล้เตาถ่านแสนอร่อย รสชาติถูกปาก ไว้อุ่นรับประทานไปได้อีกหลายมื้อ สำหรับเหตุผลที่นักเขียนเลือกต้มพะโล้ด้วยเตาถ่านนั้น ก็เพราะว่าช่วยประหยัดแก๊สในครัว เนื่องจากการต้มพะโล้กว่าหมูจะเปื่อยและได้น้ำซุปที่เข้มข้นนั้น ใช้เวลานานราว ๆ 2-3 ชั่วโมง ซึ่งค่อนข้างสิ้นเปลืองแก๊สมาก และแก๊สก็ราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับเตาถ่านที่ต้นทุนถูกมาก ๆ อีกทั้งการต้มพะโล้ด้วยเตาถ่าน ยังให้กลิ่นหอมของไฟถ่านและได้เนื้อหมูพะโล้ที่เปื่อยนุ่มแตกต่างกับการต้มด้วยเตาแก๊สอย่างสิ้นเชิง หากบ้านใดสนใจนำเคล็ดไม่ลับนี้ไปทดลองทำดู สามารถทำได้ง่ายดายเลยค่ะ เพราะวัตถุดิบก็หาง่ายและต้นทุนไม่แพง สามารถเก็บไว้กินได้หลายวัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในสถานการณ์เช่นนี้ไปได้อีกทางหนึ่งนะคะ ภาพทั้งหมดโดยนักเขียน