เอเวอร์ตัน vs ลิเวอร์พูล พรีเมียร์ลีกอังกฤษ คืนวันจันทร์ที่ 16 มีนาคม 2563 (เช้าวันที่ 17 มีนาคม) เวลา 03.00 น. ถ่ายทอดสด ID Station , True Premier Football HD 1 ศึกฟุตบอล พรีเมียร์ลีก นัดมันเดย์ไนท์สัปดาห์นี้ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ขยับเข้าใกล้แชมป์เข้าไปทุกขณะ ต้องการชัยชนะอีกเพียง 2 นัดเท่านั้นจะคว้าถ้วยแชมป์มาครอง เตรียมทำศึกเมอร์ซี่ไซด์ยกพลไปเยือนทอฟฟี่ เอเวอร์ตัน นอกจากเป็นศึกแห่งศักดิ์ศรีของสองทีมร่วมเมืองลิเวอร์พูล นัดนี้ยังเป็นที่จับตามองว่าลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ จะเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้หรือไม่หลังจากล่าสุดเพิ่งถูกทีมตราหมี แอตเลติโก มาดริด บุกมาพิชิตถึงถิ่นแอนฟิลด์ 2-3 เขี่ยตกรอบ 16 ทีมสุดท้ายยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกไปอย่างน่าเสียดาย ภาพโดย : https://pixabay.com/th/photos/2698969 ภาพรวม นัดแรกที่ทั้งคู่พบกันเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเปิดบ้านถล่มเอเวอร์ตันไปแบบขาดลอย 5-2 ก่อนที่ในรอบ 3 ฟุตบอลถ้วย FA Cup ลูกทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ เล่นในบ้านเป็นฝ่ายย้ำแค้นอีกครั้งเฉือนชนะไป 1-0 ก่อนเริ่มเกมผู้มาเยือนเอเวอร์ตัน ของกุนซือ คาร์โล อันเชล็อตติ แข่ง 29 นัด มี 37 คะแนน อยู่อันดับ 12 ของตารางตามหลังอันดับ 5 อย่างแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อยู่ 8 คะแนน แม้ว่าจะเพิ่งบุกไปโดนเชลซี ถล่มไป 4-0 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ยังมีลุ้นไปเล่นฟุตบอลยูโรปาลีก ส่วนเจ้าบ้านลิเวอร์พูลลงเล่นมา 29 นัด มี 82 คะแนน รั้งจ่าฝูงของตารางทิ้งห่างเรือใบสีฟ้าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่มีเพียง 57 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด จึงเท่ากับว่าลิเวอร์พูลต้องการอีกเพียง 6 คะแนน เพื่อคว้าแชมป์อย่างเด็ดขาด นัดนี้จะมีขึ้นที่สนาม กูดิสันพาร์ก บ้านของเอเวอร์ตัน คาดการณ์ว่าจะมีขึ้นท่ามกลางอุณหภูมิเย็นสบายที่ 11 องศา ไม่มีปัญหาเรื่องฝนตก สภาพอากาศในวันแข่งขันจึงไม่เป็นอุปสรรคสำหรับทั้ง 2 ทีม ข้อมูลสภาพอากาศ : www.accuweather.com/th/gb/liverpool/l7-9/daily-weather-forecast/330510 ภาพโดย : https://pixabay.com/th/photos/3597192 สภาพความพร้อม ลิเวอร์พูล เพิ่งกรำศึกหนัก 120 นาทีเต็มเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา จะยังขาดผู้รักษาประตูอลิสสัน เบ็คเกอร์ ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ จำใจต้องใช้งานมือสองอย่างอาเดรียน ที่พลาดบ่อยในระยะหลังต่อไป นัดนี้มองว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ จะสลับผู้เล่นหลายตำแหน่งที่มีอาการล้า โดยเฉพาะในแผงกองกลางอย่างจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่มีอาการล้าให้เห็นชัดเจน น่าจะสลับสับเปลี่ยนผู้เล่นที่สดกว่าลงมาบดแดนกลาง จะมาในระบบ 4-3-3 เปิดเกมรุกตามถนัดเช่นเคย ผู้เล่นที่คาดว่าน่าจะได้ลงสนามเริ่มจากผู้รักษาประตูยังใช้บริการอาเดรียน คู่เซ็นเตอร์เป็นเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค จับคู่กับโจ โกเมซ แบ็คซ้ายแอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน คอยเติมเกมรุกเช่นเดียวกับทางฝั่งขวาอเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ ยังลงมาประจำการเช่นเดิม แผงกองกลางน่าจะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด นอกจากจอร์แดน เฮนเดอร์สัน ที่ต้องพัก เรามองว่าเจอร์เก้น คล็อปป์ จะตัดสินใจพักยกแผง โดยจะส่งกลางฟาบินโญ่ , เจมส์ มิลเนอร์ และนาบี เกอิต้า ที่ดูจะฟิตสมบูรณ์กว่าลงสนาม แต่แนวรุกยังคงใช้บริการซาดิโอ มาเน่ และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่วนในรายของซาดิโอ มาเน่ ที่วิ่งมาตลอดทั้งเกมในนัดที่แล้วแบบหมดถัง จะสลับกับทาคุมิ มินามิโนะ ดาวเตะจากญี่ปุ่นที่จะได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยมีอ็อกซ์เลด แชมเบอร์เลน และจอร์แดน เฮนเดอร์สัน เป็นตัวทีเด็ดพลิกเกมอยู่ข้างสนาม สภาพความพร้อม เอเวอร์ตัน คาร์โล อันเชล็อตติ ยังคงไม่สามารถใช้งานเชมัส โคลแมน แบ็คขวาทีมชาติไอร์แลนด์ที่ยังคงมีอาการบาดเจ็บ ที่เหลือได้พักมาเต็มหนึ่งสัปดาห์สามารถเลือกใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา จัดทัพมาในระบบ 4-4-2 นำโดยผู้รักษาประตูจอร์แดน พิกฟอร์ด กองหลังเมสัน โฮลเกต ประสานงานร่วมกับไมเคิล คีน แบ็คขวาฌิบริล ซิดิเบ้ ยังคงลงมาประจำการ ทางฝั่งซ้ายเป็นหน้าที่ของลูคัส ดิกเน ข้ามมาที่แผงกองกลางส่งอันเดร โกเมส เล่นร่วมกับทอม เดวี่ส์ ดาวรุ่งที่ฟอร์มกำลังสด โดยมีกิลฟี่ ซิกูร์ดส์สัน ลากเลื้อยทางฝั่งซ้าย ส่วนฝั่งขวาธีโอ วัลคอตต์ จะได้รับโอกาสลงแทนเบอร์นาร์ด อานิซิโอ ที่ฟอร์มแผ่วในนัดที่แล้ว ส่วนคู่กองหน้าคัลเวิร์ต เลวิน ลงล่าตาข่ายคู่กับริชาร์ลิซอน โดยมีอเล็กซ์ อิโวบี ศูนย์หน้าชาวไนจีเรียรอรับโอกาสเป็นตัวทีเด็ดอยู่ข้างสนาม ภาพโดย : https://pixabay.com/th/photos/3568903 ความน่าจะเป็น นัดนี้เรามองว่าการเพิ่งตกรอบยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกของลิเวอร์พูล ไม่น่าจะส่งผลอะไรกับสภาพจิตใจนักเตะมากนัก เพราะเป้าหมายหลักสูงสุดของพวกเค้ายังคงเป็นถ้วยพรีเมียร์ลีกที่หากเก็บชัยชนะในนัดนี้ได้ นัดต่อไปรอฉลองแชมป์ทันที และลิเวอร์พูล 6 นัดหลังสุดยังไม่เคยพลาดท่าแพ้เอเวอร์ตันเลย แม้จะเล่นในกูดิสันพาร์ก แต่การนับถอยหลังคว้าแชมป์จะเป็นแรงกระตุ้นให้พวกเค้าเก็บชัยชนะในนัดนี้ สกอร์ที่คาด เอเวอร์ตัน 0-2 ลิเวอร์พูล เตรียมตัวฉลองแชมป์ในนัดต่อไป ภาพหน้าปก : https://pixabay.com/th/photos/3568903 , https://pixabay.com/th/photos/2698969