จากบทความที่แล้ว ผู้เขียนได้นำเสนอเรื่อง ผ้าอนามัยฟรีมีในโลก พูดถึงประเทศสก็อตแลนด์ ซึ่งผ่านกฎหมายสวัสดิการผ้าอนามัยฟรีเพื่อผู้หญิงเป็นประเทศแรก วันนี้จึงชวนมาอัปเดตนโยบายเรื่องผ้าอนามัยของประเทศทั่วโลก ว่าตอนนี้มีความก้าวหน้าหรือล้าหลังไปอย่างไรบ้าง เวลาเราเห็นคนใกล้ตัวเป็นประจำเดือนแล้วต้องวิ่งวุ่นหาผ้าอนามัย มันก็เป็นเรื่องที่ทำให้เกิดคำถามอยู่บ่อยครั้งถึงความเหมาะสมของนโยบาย เพราะความจริงแล้วผ้าอนามัยก็ไม่ได้ต่างจากเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายหรือยารักษาโรค ที่ผู้หญิงควรจะได้รับสวัสดิการให้เข้าถึงง่ายกว่าที่เป็นอยู่ แต่หลายประเทศกลับจัดให้ผ้าอนามัยเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย เป็นเครื่องสำอางที่ต้องชำระภาษีในอัตราสูงกว่าสินค้าอุปโภคบริโภคชนิดอื่น ๆ เรื่องนี้จึงเป็นปัญหาระดับชาติ ผู้หญิงทั่วโลกต้องออกมาเรียกร้องทางโซเชียลมีเดีย ผ่าน #FreePeriod รูปภาพโดย Freepik : Freepik การเรียกร้องดังกล่าวเป็นแรงกระตุ้นที่ทำให้ทั่วโลกตื่นตัวกับเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย เริ่มจากประเทศแถบแอฟริกา ที่ดูเหมือนสวัสดิการด้านสุขอนามัยจะไม่ได้ก้าวหน้าเหมือนประเทศในภูมิภาคอื่น แต่ต้องยอมรับว่าหลายประเทศอย่าง จาไมกา แทนซาเนีย ไนจีเรีย มีการยกเลิกภาษีสำหรับผ้าอนามัยแล้ว ส่วนเคนยา เป็นประเทศแรกในแอฟริกาที่ยกเลิกภาษีผ้าอนามัย รัฐบาลยังอุดหนุนเงินส่วนหนึ่งเพื่อจัดหาผ้าอนามัยและแจกจ่ายให้ผู้ยากไร้มาอย่างต่อเนื่องกว่า 10 ปีแล้ว รูปภาพโดย Freepik : Freepik ประเทศหนึ่งในเอเชียที่ผ้าอนามัยดูจะเป็นปัญหาซึ่งกระทบต่อชีวิตประจำวันมากเป็นพิเศษคือ อินเดีย โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง รัฐบาลอินเดียเคยเก็บภาษีผ้าอนามัยมากถึง 12% ทำให้เด็กผู้หญิงหลายคนต้องตัดมดลูกทิ้งเพื่อตัดปัญหาผ้าอนามัยแพง เกิดการประท้วงยาวนานหลายเดือน จนทำให้รัฐบาลอินเดียยุติการเก็บภาษีผ้าอนามัยและสินค้าเพื่อสุขอนามัยชนิดอื่น ๆ แล้วเมื่อปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าสหรัฐอเมริกามหาอำนาจของโลก ย่อมตระหนักดีถึงปัญหาของประชากรเพศหญิง แต่ด้วยความที่แต่ละรัฐมีอำนาจบริหารเป็นของตัวเอง จึงทำให้นโยบายยกเลิกภาษีผ้าอนามัยยังไม่ครอบคลุมทั้งประเทศ แต่เกือบทุกรัฐก็ได้ดำเนินนโยบายยกเลิกภาษีผ้าอนามัยแล้ว รัฐล่าสุดที่ผ่านนโยบายนี้คือรัฐยูทาห์ ซึ่งยกเลิกการเก็บภาษีผ้าอนามัยแล้วเมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา รูปภาพโดย Freepik : Freepik ส่วนในทวีปยุโรป นอกจากสกอตแลนด์ที่ผู้หญิงได้ใช้ผ้าอนามัยฟรีแล้ว หลายประเทศได้ขยับผ้าอนามัยออกจากประเภทสินค้าฟุ่มเฟือยไปอยู่ในสินค้าอุปโภคบริโภคทั่วไป อังกฤษลดภาษีผ้าอนามัยและกำลังจะยกเลิกการเก็บภาษีภายในกลางปีนี้ ส่วนฝรั่งเศส เนเธอแลนด์ โปรตุเกส สวิตเซอร?แลนด์ และเยอรมนี ได้ยกเลิกการเก็บภาษีผ้าอนามัยอย่างถาวรแล้วเช่นกัน รูปภาพโดย Freepik : Freepik ย้อนกลับมาที่บ้านเรา ยังคงมีการเรียกร้องให้รัฐบาลทบทวนราคาผ้าอนามัย ซึ่งหลายคนมองว่ายังเป็นสินค้าที่มีราคาสูง เฉลี่ยแล้วผู้หญิงไทยต้องใช้เงินประมาณ 300 บาทไปกับค่าใช้จ่ายต่อการเป็นประจำเดือนแต่ละครั้ง ซึ่งเท่ากับค่าแรงขั้นต่ำ 1 วันเลยทีเดียว ทำให้เราเห็นว่า เรื่องของประจำเดือนเป็นเรื่องสำคัญ สุขอนามัยทางเพศของผู้หญิงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ท่ามกลางการตื่นตัวของทั่วโลก ผู้เขียนเชื่อว่าอีกไม่นาน ไทยเราจะเป็นอีกประเทศหนึ่งที่ผู้หญิงจะเข้าถึงผ้าอนามัยได้ง่ายกว่าที่เป็นอยู่อย่างแน่นอน รูปภาพหน้าปกโดย Freepik : Freepik