หลังจากที่เมื่อคืนวิ่งหนีพลุกันจนวุ่น ก็ได้กลับไปนอนพักที่ห้อง วันนี้ผมตื่นมารู้สึกดี รู้สึกว่าวันนี้เป็นปีใหม่แล้ว ปีนี้จะเป็นปีที่ดี (มาถึงตอนนี้ ปี 2020 เป็นปีที่ดีหรือไม่ ก็แล้วแต่วิจารณญานผู้อ่านแล้วกันนะครับ 555555) หลังจากที่เก็บของและทานอาหารเช้าเสร็จแล้ว กรุ๊ปผมก็ขึ้นรถบัสกลับไปสถานี Täsch อีกครั้ง คราวนี้กลับไปที่เมืองเซอร์มัทอีกรอบ เพื่อที่จะไปขึ้นภูเขาแมทเทอร์ฮอร์น หลายๆ คนอาจจะคุ้นกับภูเขานี้จากสัญลักษณ์ Paramount Pictures ส่วนผมเหรอ? ตามภาพครับ 55555 วิธีขึ้นไปภูเขาแมทเทอร์ฮอร์นจะต่างจากตอนที่ขึ้นยอดเขาจุงเฟราเมื่อวันก่อน วันนี้ผมได้นั่งกระเช้าไฟฟ้าขึ้นไปที่ยอดเขา ใครที่มาจากสถานีรถไฟเซอร์มัท จะต้องเดินเลาะเมืองไปเรื่อยๆ จนถึงอีกฝั่งของเมือง ที่จะมีสถานีกระเช้าลอยฟ้าอยู่ แล้วที่นี่เขาไม่เหมือนสถานีกระเช้าไฟฟ้าที่อื่น คือที่นี่เขามี Toblerone ซองเล็กๆ แจกฟรี เหมือนที่เห็นตามภาพด้านบนเลย อันนั้นก็เอามาจากที่เขาวางแจกไว้ให้ หลังจากขึ้นไปบนกระเช้าแล้ว ก็ได้นี่งชมวิวไป การขึ้นไปยอดเขาแมทเทอร์ฮอร์นใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากด้านล่างสุดจนไปถึงด้านบน ที่สถานี Klein Matterhorn ด้านบนที่ผมขึ้นไปจะมีลานสกีเป็นทางยาว ปราสาทน้ำแข็ง (ที่ผมไม่ได้ไป) และคุ้นๆ ว่าจะมีโรงหนังที่สูงที่สุดในโลกด้วย ตอนนั้นผมเห็นป้ายแต่ไม่ได้เข้าไปดู หลังจากถ่ายรูปบนยอดเขาไปสักพัก ก็ได้เวลาลงไปที่เมืองเซอร์มัทอีกครั้ง เพื่อที่จะไปทานข้าวเที่ยง และเนื่องจากว่าวันนี้เป็นวันปีใหม่ ทางทัวร์ของผมเลยเลี้ยงเครื่องดื่มให้ลูกทัวร์คนละขวด เห็นทีผมเลยจัด Radler อีกสักขวด หลังจากทานข้าวเที่ยงแล้ว ก็นั่งรถไฟกลับไปที่สถานี Täsch อีกครั้ง ก่อนที่จะนั่งรถบัสไปที่เมือง Montreux ไปที่ปราสาทชิลยอง เพื่อแวะถ่ายรูปสัก 15 นาที ปกติแล้วจะได้เข้าไปชมปราสาท แต่ว่าวันนี้เป็นวันปีใหม่ ปราสาทเลยปิดไม่ให้เข้าชม เลยได้แค่ถ่ายรูปหน้าปราสาท ถ่ายรูปเสร็จแล้วก็นั่งรถตรงไปที่เมืองเจนีวา เพื่อที่จะไปทานข้าวเย็น และไปนอนค้าง โรงแรมที่ผมไปพักคืนนี้ ชื่อว่า Ramada Encore Geneve ตัวโรงแรมนะ ไม่ได้มีอะไรน่าแปลก แต่รอบๆ โรงแรมเนี่ยสิ ออกมายืนอยู่หน้าโรงแรม มองไปฝั่งซ้ายเป็นห้างสรรพสินค้า มีโรงหนัง ร้านเสื้อ และอื่นๆ อีกมากมาย หันไปมองฝั่งขวา มีสนามกีฬา เป็นแบบสนามบอลจริงๆ เลย สนามกีฬาเมืองเจนีวานี้ เป็นสนามเหย้าของ Servette FC ซึ่งผมมองไปรอบๆ โรงแรม ก็มีป้ายของทีม Servette FC ติดอยู่ให้เห็น ผมเลยคิดว่าโรงแรมนี้น่าจะเป็นที่พักของนักเตะก่อนลงแข่งขัน (ขนาดสนามกีฬาของเมืองเจนีวา ดูแล้วขนาดน่าจะใกล้เคียงกับช้างอารีน่า ของบุรีรัมย์ยูไนเต็ด)