เข้ามาแล้วไม่ใช่รู้สึกเรียนไปแล้วไม่ชอบ หาคำตอบให้ตัวเองยังไงดีหลายครั้งของการเรียนที่เราไม่ได้ศึกษามาก่อนหรือเข้าเรียนไปแล้วรู้สึกไม่ชอบไม่ใช่ก็อาจจะเป็นอะไรที่ทำให้เราไม่มีความสุขและขาดความมั่นใจในการเรียนไป รวมถึงการที่เรามองภาพในอนาคตของเราไม่ออก ว่าเราจะอยู่กับคณะนี้หรือเดินต่อไปในสายอาชีพนี้ยังไงเพราะยิ่งเรียนไปก็ยิ่งฝืนจนอยากจะขอพัก ขั้นตอนที่เราจะเลือกทางเดินต่อไปก็เริ่มจะคิดหนักจะจัดการความคิดและความรู้สึกยังไงดี ลองค่อย ๆ เริ่มเช็คตัวเองกับข้อเหล่านี้แล้วจะพบคำตอบไปทีละขั้น 1. เช็คตัวเองให้แน่ใจไม่ไหวแล้ว...เรียนไม่รู้เรื่องหรือรู้สึกว่าทำได้ไม่ดี ไม่ชอบวิชาที่เรากำลังเรียนอยู่นี่เอามาก ๆ อย่าเพิ่งรีบร้อนหรือตัดสินใจอะไรด้วยตัวเองไปทั้งหมด ว่าเราคงไม่เหมาะไม่ชอบคณะนี้แล้วหรือเปล่า อาจจะต้องมาเช็คตัวเองเบา ๆ ก่อนว่าโดยรวมทั้งหมดที่เราตัดสินเลือกเรียนคณะนี้เพราะอะไร วิชาที่เราเรียนได้ดีหรือชอบมีอยู่ไหม ยังอยากจะไปต่อในสายอาชีพนี้หรือเปล่า หรือแค่เป็นอารมณ์ชั่วคราวจากการเรียนไม่เข้าใจในบางบทเรียน ลองปรับเปลี่ยนวิธีการเรียนเพื่อให้เข้าใจมากขึ้นหรือใช้วิธีอื่นที่ทำให้เราเข้าใจบทเรียนนี้และผ่านไปให้ได้ในที่สุด แต่หากว่าการเรียนที่เราไม่ชอบจนรู้สึกอึดอัดแทบจะไม่เป็นตัวเอง ค้นพบเช็คตัวตนแล้วท้ายที่สุดก็ได้คำตอบว่าจะไม่ไปต่อขอแบนเข็มไปเลือกเรียนใหม่ก็ขอให้เราแน่ใจแล้วจริง ๆ เพื่อให้เราไม่ต้องรู้สึกเสียดายหากต้องเริ่มใหม่ขอบคุณภาพจาก freepik.com 2. เลือกทางใหม่ในเมื่อสิ่งที่เราเรียนมารู้สึกไม่ใช่ ปัญหาต่อไปคือจะเริ่มไปทางไหนหากต้องการเรียนในคณะใหม่ก็ต้องแน่ใจว่าเราจะไม่เทอีก หลายคนที่ตัดสินใจเปลี่ยนแผนการเรียนอาจจะเพราะมีสิ่งที่ชอบหรือสิ่งที่รักในใจเป็นคำตอบว่าสุดท้ายเราอยากเรียนคณะไหนมากที่สุดอยู่แล้ว เพียงขอให้สิ่งที่ชอบเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์กับชีวิตและเราแน่ใจแล้วว่าจะทุ่มทุกความตั้งใจใส่ให้กับสิ่งนี้จริง ๆ หากได้อยู่ในคณะที่แสดงความเป็นเรา เข้ากับตัวตนของเราโดยไม่ต้องฝืนเป็นสิ่งที่เราคิดว่าน่าจะทำได้ดีดึงความสามรถตัวเองออกมาได้เต็มที่ ก็ขอให้ลุยหน้าต่อไปตั้งใจเคารพในสิ่งที่ตัวเองเลือกขอบคุณภาพจาก freepik.com 3. บอกผู้ปกครองหลายคนอาจจะอยู่ในความรับผิดชอบของผู้ปกครองอยู่เพราะยังได้รับค่าขนม ค่าส่งเสียเลี้ยงดูหรือค่าเทอมที่ผู้ปกครองมีส่วนรับผิดชอบในการออกค่าใช้จ่ายให้ ฉะนั้นการที่เราจะตัดสินใจเปลี่ยนคณะหรือเริ่มที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ จะต้องมีค่าใช้จ่ายต่าง ๆ อย่างค่าสอบหรือช่วงเวลาที่เราต้องหยุดพักเพื่อรอสอบเข้า รวมทั้งแผนการเรียนที่ต้องเริ่มใหม่ผู้ปกครองของเราก็ต้องมีสิทธิ์ที่จะได้รับรู้ ไม่ผิดอะไรที่จะอธิบายให้เขาเข้าใจถึงเหตุผลที่แท้จริงและแสดงความเชื่อมั่นให้ผู้ปกครองได้ทราบว่าหากเราเข้าไปเรียนในคณะใหม่ครั้งนี้เราจะทำออกมาให้ดีอย่างตั้งใจ เชื่อว่าถ้าเรามีเหตุผลที่เข้าใจได้ผู้ปกครองจะต้องอนุญาต ไม่ทำให้เราต้องกังวลใจแน่นอนขอบคุณภาพจาก freepik.com 4. . วางแผนต่อการออกกลางคันหันเข็มไปเรียนคณะใหม่หรือที่ใครต่อใครเข้าใจว่าเรากำลังจะก้าวไปเป็น'เด็กซิ่ว' ก็ต้องมีการวางแผนให้ดีและมีขั้นตอนคล้าย ๆ กับตอนที่เราเริ่มจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยครั้งแรก เช็คให้ชัวร์เราจะได้เตรียมตัวในการทำสอบด้วยการอ่านหนังสือล่วงหน้าเราเพื่อที่เราจะได้ไม่พลาด ทั้งตารางเวลาการรับสมัคร การสอบให้แน่ชัด วางแผนให้ดีว่าเราเองจะเข้าสอบไปในคณะใหม่ที่เราฝันด้วยวิธีใด เช่น รอบสอบตรง รอบสัมภาษณ์ หรือรอบรับพร้อมกันทั่วประเทศ เตรียมพร้อมในทุกครั้งและมีแผนสำรองไว้เสมอรอบนี้เราจะไม่เผลอทำอะไรให้หลุดผังที่ตั้งใจเอาไว้แล้วขอบคุณภาพจาก freepik.com 5. ตั้งใจให้จริงต้องมีความตั้งใจและเอาจริงเพราะนี่ถือเป็นสิ่งที่เราได้ลองเลือกใหม่รวมทั้งโอกาสที่เราใช้ก็ไม่ควรจะใช้ให้มันสิ้นเปลืองจนเกินไป กว่าที่เราจะสู้กับความรู้สึกการตัดสินใจเปลี่ยนแพลนชีวิตกลางคัน ความเชื่อมั่นที่ผู้ปกครองอนุญาตให้เราทำตามความฝันใหม่นี่อย่างเต็มใจและความเคารพตัวเองที่ได้ตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เราก็ควรจะทำมันอย่างเต็มที่ เมื่อสอบก็ขอให้เตรียมตัว ตั้งใจและมุ่งมั่นจริง ๆ หรือเมื่อได้เข้าไปเรียนแล้วก็ขอให้เต็มที่และมีความสุขกับสิ่งที่เลือก จะได้ไม่ผิดหวังเหมือนครั้งเก่า แสดงให้เห็นว่าเราอยากจะมาทางนี้จริง ๆ โดยใช้ความใส่ใจมุ่งมั่นของเราเป็นตัวบอกแล้วทุกอย่างจะไม่มีอะไรต้องกังวลอีกเลยขอบคุณภาพจาก freepik.com ไม่ต้องเอาตัวเราไปเปรียบเทียบกับใคร เพราะจุดมุ่งหมายหรือความสำเร็จในนิยามของแต่ละคนนั้นแทบจะแตกต่างกันอยู่แล้ว ทุกคนสามารถออกแบบชีวิตของเราด้วยตัวเราเอง ไม่ว่าจะอยู่สถานะไหนหรืออาจจะเรียนจบช้า-เร็วกว่าใคร ความตั้งใจและความสำเร็จที่เรามีความสุขจะเป็นตัวบอกเราเองว่าเราไปถึงจุดหมายที่เราตั้งใจแล้วหรือยัง จึงไม่มีคำตอบไหนที่ถูกผิดเสมอไปในเรื่องการดำเนินชีวิต ขอบคุณภาพหน้าปกจาก freepik.com