อาการปวดฟันเป็นอะไรที่ทรมานมาก ว่าไหมคะ ฉันเป็นคนหนึ่งที่มักมีอาการคล้ายปวดฟัน ทำไมถึงใช้คำว่าคล้าย เพราะมันเป็นการปวดเหงือก อาการปวดเหงือกนั้น มันแยกไม่ออกเลยทีเดียวว่า เป็นที่ฟัน หรือเป็นที่เหงือก แต่ถ้าได้มาหาสาเหตุ วิเคราะห์กันดี ๆ กลับพบว่า อาการนั้นมาจากสาเหตุแผลในปาก เพียงแค่ทาขี้ผึ้งก็หายแล้ว ใช้เวลา 2-3 วันก็กลับมาเป็นปกติได้ไม่ยาก จนมาล่าสุด พบว่าสบฟันกรามไม่ได้ หาทางออกไม่เจอ ฟันผุก็ไม่มี เพียงแค่เนื้อฟันมีน้อยเพราะอุดมาบ่อย จึงต้องแก้ปัญหาด้วยการถอนฟัน แล้วค่อยกลับไปใส่ฟันเทียมทีหลัง มันจะเป็นปัญหากวนใจมากเลยจริงไหมคะ แต่มีอาการปวดฟันอย่างหนึ่ง ถ้าหาสาเหตุไม่ดี ก็เอาต้องจบลงด้วยการถอนฟันเช่นกัน นั่นคือ การปวดกราม และกล้ามเนื้อ หรือที่เรียกว่าทันตกรรมบดเคี้ยวนั่นเองค่ะ ฉันได้มีความรู้ และประสบการณ์เกี่ยวกับเรื่องนี้เมื่อครั้งแม่ฉันปวดฟันมาก และหาสาเหตุไม่เจอ ถอนฟันไปหลายซี่ รักษารากฟันไปก็หลาย หงุดหงิดใจที่ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ เจอหมอบางคนก็ดุเสียจนดูไร้เหตุผล จนหมอที่แม่รักษาด้วยประจำ แนะนำว่าให้ลองไปปรึกษากับทันตแพทย์ในสาขาทันตกรรมบดเคี้ยวดู เพราะอวัยวะที่เราใช้บดเคี้ยวอาหารนั้น ประกอบไปด้วยกล้ามเนื้อ ขาต่อกกรรไกร ฟัน ระบบเส้นเลือด รวมทั้งระบบประสาทอีกด้วย ทันตกรรมสาขานี้เป็นอะไรที่ใหม่สำหรับฉัน แถมการรักษาส่วนใหญ่เป็นการให้คำปรึกษา และปรับพฤติกรรมมากกว่า ไม่เหมือนกับการรักษาอย่างอื่นที่สามารถทำเงินได้เป็นกอบเป็นกำ เช่น การรักษารากฟัน การจัดฟัน การใส่รากฟันเทียม เป็นต้น มีการรักษาด้านนี้อย่างเดียวที่ฉันเห็น นั่นคือ การใส่เฝือก คงเป็นคำตอบได้อย่างหนึ่งว่า ทำไมจึงไม่พบทันตแพทย์ในสาขานี้มากนักนั่นเอง แต่อย่างน้อยทักษะเบื้องต้นที่ทันตแพทย์ทุกคนต้องมี คือ การถอนฟัน และการอุดฟัน อาการของการปวดที่ว่านั้น ได้แก่ 1. การเจ็บปวด และกดเจ็บบริเวณกล้ามเนื้อใบหน้า และข้อต่อกรรไกร อ้าปากก็ปวดร้าวไปทั้งกราม 2. มีเสียงที่ข้อต่อขากรรไกร มักเกิดตอนอ้าปาก หุบปาก หรือเยื้องปากเวลาเคี้ยว 3. อ้าปาก หรือเยื้องปาก ที่ทำให้ขากรรไกรเคลื่อนที่ไปจากแนวปกติ ทำได้น้อยลง หรือได้จำกัด สาเหตุที่ทำให้เกิดอาการดังกล่าว คือ การเคี้ยวอาหารข้างเดียวเป็นเวลานาน ทำให้ขากรรไกรสองข้างรับแรงได้ไม่เท่ากัน การรักษาอาการปวดนั้น ทำได้ด้วยการ ทานยาแก้ปวด และประคบอุ่นเพื่อให้กล้ามเนื้อผ่อนคลาย แต่นั่นคือการรักษาระยะสั้น ส่วนการรักษา และดูแลในระยะยาวนั้น ทำได้โดย ไม่ควรใช้ฟันข้างใดข้างหนึ่งเคี้ยวอาหารเป็นประจำ เพราะเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดอาการปวด ควรใช้ฟันหลังในการเคี้ยวอาหาร ไม่ควรใช้ฟันหน้าเคี้ยว หากไม่สามารถเคี้ยวได้สองข้างเพราะสูญเสียฟันหลัง ก็ควรใส่ฟันเทียมทดแทน เพื่อช่วยรับแรงในการบดเคี้ยว หรือหากถนัดเคี้ยวอาหารข้างเดียว ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อหาสาเหตุ และแก้ไขการวางตำแหน่งขากรรไกรให้ถูกต้อง ในขณะที่ไม่ได้ใช้ขากรรไกร ฟันต้องไม่สบ หรือขบกัน สังเกตจากกล้ามเนื้อขากรรไกรต้องรู้สึกผ่อนคลาย ฝึกวางตำแหน่งศรีษะให้ตรง ไม่ยื่นคาง ส่วนบ่าไหล่ก็ปล่อยลงตามสบาย และไม่ห่อไหล่มาด้านหน้า หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ต้องอ้าปากกว้าง หรือที่ทำให้ขากรรไกรรับแรงมากไป หากมีอาการปวดอยู่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ต้องอ้าปากกว้าง ผู้ป่วยควรฝึกการหาวแบบไม่อ้าปาก โดยการผ่อนลม กล่าวคือ การใช้ปลายลิ้นแตะบริเวณเพดานปากตลอดเวลาที่หาว แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมออกมา หากต้องได้รับการรักษาทางทันตกรรมอื่น ๆ ควรแจ้งทันตแพทย์ผู้รักษาให้ทราบเพื่อจะได้เพิ่มความระมัดระวัง และหยุดพักเป็นระยะ ผู้ที่มีอาการผิดปกติที่ขากรรไกรไม่ควรนอนคว่ำ แนะนำให้นอนหงายจะดีที่สุด สุดท้ายการรู้จักผ่อนคลาย การฝึกสมาธิ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ ก็สามารถช่วยลดความเครียด และโรคภัยไข้เจ็บได้หลากหลายค่ะ