(ภาพอธิบายการเกิดสุริยุปราคา)(ภาพท้องฟ้าในเวลา 19.19 น. ในวันที่ 21 มิถุนายน 2563 เป็นวันครีษมารยัน วันที่กลางวันนานกว่าปกติ : สังเกตได้ว่าที่ปลายขอบฟ้ามีแสงสีแดงอยู่)สุริยคราสคืออะไรปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่นานทีปีหนจะเกิดขึ้นสักครั้ง ซึ่งสุริยคราสหรือสุริยุปราคาเกิดจากการโคจรของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ และโลกโคจรมาอยู่ในแนวเดียวกัน โดยดวงจันทร์จะคั่นกลางระหว่างโลก และพระอาทิตย์ และเมื่อดวงจันทร์มาคั่นระหว่างโลก และพระอาทิตย์ เราจึงเห็นพระอาทิตย์มืดลง หรือมีแสงน้อยลงนั่นเอง ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อไม่นานมานี้ก็คือวันที่ 21 มิถุนายน 2563 ทำให้ทั้งวันมีกลางวันที่ยาวนานกว่าปกติ เพราะดวงอาทิตย์โคจรไปถึงจุดหยุด (solstice) ผู้เขียนเองก็เฝ้าดูปรากฏการณ์นี้ในช่วงบ่ายของวันเช่นกัน และได้ถ่ายภาพท้องฟ้าในเวลา 19.19 น. เอาไว้เพราะแม้จะทุ่มหนึ่งแล้วแต่ท้องฟ้ายังมีสีแดงปรากฏอยู่ตรงปลายขอบฟ้าอยู่นั่นเอง มหัศจรรย์มากๆ วิธีการดูวิธีที่หนึ่ง ดูผ่านฟิล์มกรองแสง ไม่ควรดูตาเปล่า เพราะอาจทำให้ถึงขั้นตาบอดได้วิธีที่สอง ดูผ่านเงา โดยนำวัตถุที่มีลักษณะทรงกลม และมีช่องว่างเป็นวงกลมมาถือไว้กลางแดด เราก็จะสามารถดูปรากฏการณ์นี้ตรงเงาได้ และจะเห็นว่าเงาแสงของพระอาทิตย์ทอดผ่านช่องทรงกลมถูกทาบทับด้วยพระจันทร์นั่นเองความเชื่อคนไทยสมัยก่อนมีความเชื่อว่าการที่พระอาทิตย์ถูกกลืนกินเป็นความโชคร้าย ลางร้าย หรือเป็นลางบอกเหตุอะไรบางอย่าง จนต้องมีวิธีการเคาะไม้ เคาะกะลา ตีปี๊บ หรือทำเสียงดังให้พระราหูคายพระอาทิตย์ออกมา ขณะเดียวกันในทางโหราศาสตร์ก็มีหมอดูออกมาตักเตือนว่าห้ามทุกคนออกนอกบ้านไปโดนแสงคราส หรือสุริยุปราคาเพราะจะทำให้ดวงตกเอาได้ เช่น จากที่ดีจะกลายเป็นร้าย ส่วนคนที่ร้ายอยู่แล้วก็จะยิ่งเลวร้ายขึ้นไปอีก ซึ่งเรื่องนี้ก็เป็นความเชื่อส่วนบุคคล แง่คิดและความรู้ที่ได้จากการดูปรากฏการณ์ดังกล่าวร่วมกันกับครอบครัว ผู้เขียนรู้สึกว่ามันเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในครอบครัว และกับคนรอบข้างที่พอดูแล้วเราก็มีถกเถียงกันว่ามันเกิดขึ้นจากอะไร และช่วยกันหาคำตอบ ซึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างสัมพันธ์ที่ดีแล้ว ยังเป็นการสร้างองค์ความรู้ใหม่ให้ตัวเองอีกด้วย ภาพถ่ายโดย ผู้เขียน ของคุณภาพตกแต่งจาก เส้นวงกลม/พระอาทิตย์/พระจันทร์1/พระจันทร์2/โลก/เส้นตรง