ภาพปก:https://pixabay.com โควิด โควิด โควิด” คำนี้เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตไปแล้วสำหรับช่วงเวลานี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักคำว่า “โคโรนาหรือโควิด -19” ระยะเวลาหลายเดือนที่ผ่านมาผู้คนทั่วทุกมุมโลกต้องตกอยู่ในสถานการณ์ ที่เรียกว่า “วิกฤติการณ์ โควิด-19” มาพร้อมการระบาดของเชื้อไวรัส ที่ชื่อ“โคโรนาหรือโควิด-19”นำมาซึ่งปรากฏการณ์ การเปลี่ยนแปลงต่อวิถีชีวิตของมนุษย์ยุคปัจจุบันอย่างมากมายนับไม่ถ้วน “ปรากฎการณ์ อุบัติคำใหม่” ในสถานการณ์โควิด-19 เป็นการรวบรวมข้อมูล คำศัพท์ใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ที่เราท่านอาจจะได้ยินแทบจะตลอดทุกช่วงเวลา เรียกได้ว่าทั้งวันทุกวันจนหลายท่านเริ่มจะคุ้นชิน ผ่านแถลงการณ์ทางสื่อต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งในวงสนทนา บางคำแปลไม่ออกหรือบางคำก็อาจไม่เข้าใจเลย ความหมายโดยรวม“อุบัติคำใหม่”มีความหมายว่าการเกิดขึ้นของสิ่งใหม่หรือคำใหม่ ที่เพิ่งมีและไม่เคยประสบมาก่อน (สืบค้นจากพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน) ศัพท์เหล่านี้มีอยู่หลากหลายคำ ซึ่งหากเราได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับคำศัพท์เหล่านี้จะทำให้เราเข้าใจ ในสถานการณ์และรับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อการปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้อง ครั้งนี้ไม่ได้นำเสนอทุก ๆ คำ แต่จะเลือกเฉพาะคำใหม่ที่เรา “ควรรู้” ซึ่งมีความสัมพันธ์และเกี่ยวข้องจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต มุ่งเน้นคำศัพท์ที่เกี่ยวด้านการระบาดของโรค ด้านสังคมและการป้องกันเป็นสำคัญ “ตามมาดูกันค่ะ” “คำที่ควรรู้” ด้านโรคและการระบาด “คำที่ควรรู้ ” 1.COVID-19 คือ ชื่ออย่างเป็นทางการสำหรับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 โดยใช้ชื่อว่า COVID-19 ซึ่งย่อมาจาก “coronavirus disease starting in 2019” หรือโรคไวรัสโคโรนาที่เริ่มต้นในปี 2019 ได้รับการประกาศจากองค์การอนามัยโลก เมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2563 2.Coronavirus กลุ่มเชื้อไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจในคน มีหลายสายพันธุ์ ส่วนใหญ่ลักษณะอาการ ที่ไม่รุนแรง คือ เป็นไข้หวัดธรรมดา ในขณะที่บางสายพันธุ์อาจทำให้เกิดอาการรุนแรงจนถึงขั้นปอดอักเสบได้ เช่น โรคติดเชื้อไวรัสทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) หรือโรคซาร์ (SARS) เป็นไวรัสกลุ่มที่มีการค้นพบใหม่ไม่เคยปรากฏว่ามีการติดเชื้อไวรัสชนิดนี้ในคนมาก่อน พบครั้งแรกที่เมืองอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย สาธารณรัฐประชาชนจีน ในช่วงปลายปี 2019 ด้านการแพทย์ “คำที่ควรรู้ ” 3. PUI (Patients under investigated) ผู้ป่วยเข้าเกณฑ์สอบสวนโรค คำ ๆ นี้ “พียูไอ” หลายท่านคงได้ยินบ่อยจนคุ้นหูสำหรับคำนี้ มีความหมายว่าผู้ป่วยที่มีอาการเข้าเกณฑ์ต้องสอบสวนโรคซึ่งก็คือบุคคล ที่มีความเสี่ยงที่ต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโรค หรือ 4.Close contact : ผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย และคำศัพท์ที่เกี่ยวข้องในกลุ่มเดียวกัน ได้แก่ • High Risk Contact ผู้สัมผัสที่มีความเสี่ยงต่อการรับเชื้อสูง • emerging disease โรคเกิดใหม่ • transmission การแพร่เชื้อ ด้านสังคมและการป้องกัน “คำที่ควรรู้ ” 5. Super Spreader หมายถึง ผู้ที่แพร่เชื้อเป็นวงกว้าง และอีกคำที่มักมาคู่กัน Cluster คือผู้ติดเชื้อเป็น กลุ่มก้อน จากข้อมูลอธิบายได้ว่า โดยเฉลี่ยผู้ติดเชื้อหนึ่งคนจะแพร่เชื้อไปยังคนอื่น ๆ ได้ประมาณ 2 คน แต่สำหรับ Super Spreader จะแพร่เชื้อไปได้หลายเท่า หรือมากกว่า 20 คน และสำหรับประเทศไทย ได้แก่ กลุ่มสนามมวย เป็นต้น 6. Social Distancing : การเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส เป็นมาตรการที่กระทรวงสาธารณสุขแนะนำ เพื่อให้ลดการแพร่ระบาดของโรค โควิด–19 กิจกรรมที่ทำคือไม่ไปที่มีผู้คนแออัดหรือหากจำเป็นจริง ๆ ก็ควรมีการ เว้นระยะห่างจากบุคคลอื่น ประมาณ 1– 2 เมตร 7.Quarantine : การกักกันเพื่อสังเกตอาการเริ่มป่วย เป็นคำที่นำมาใช้คู่กันกับ Social Distancing มีความหมายว่า การกักกันเพื่อสังเกตอาการ ที่เริ่มป่วยคำ ๆ นี้จะใช้เฉพาะผู้ที่เข้าข่ายเสี่ยง ติดโรคเท่านั้น เช่น กลุ่มคนที่เดินทางกลับจากต่างประเทศหรือที่คนไทยคุ้นกันเพราะโด่งดังในโลกโซเชียลมีเดีย ก็คือ “กลุ่มผีน้อย” ซึ่งจะมีอยู่ด้วยกัน 5 รูปแบบ ได้แก่ Home Quarantine : การให้ผู้เข้าข่ายเสี่ยงกักกันที่บ้าน ประเทศไทยใช้บังคับทั้งนักท่องเที่ยวและชาวไทยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยงที่ต้องรับการกักกันตัว 14 วัน ที่บ้านหรือโรงแรม โดยใช้แอปพลิเคชั่นของท่าอากาศยานไทย (AOT) ในการติดตามตัว State Quarantine : การกักกันโรคที่ศูนย์ควบคุมโรค เช่น ศูนย์กักกันโรคที่ฐานทัพเรือสัตหีบ Local Quarantine : การกักกันโรค ในส่วนของต่างจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้รับผิดชอบ เป็นสถานที่ที่รัฐกำหนดขึ้น เพื่อให้การเฝ้าระวัง ป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีวัตถุประสงค์ของการต้องมีสถานที่กักกัน ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อหรือผู้ที่เดินทางกลับจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโรค เป็นการสังเกตการณ์เริ่มป่วยเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ Self Quarantine การให้ผู้ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดโรคแยกตัวเองออกจากครอบครัวชุมชน หรือสังคม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส 8. Quarantine Activities : กิจกรรมที่ทำขณะแยกตัวเอง ออกจากครอบครัว ชุมชน หรือสังคม เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส อาทิ อ่านหนังสือ เรียน Online ทำอาหาร หรือทำเบเกอรี่ เป็นต้น หรือ 9. Work From Home : การทำงานจากที่บ้าน เป็นหนึ่งในกิจกรรม Social Distancing ถ้าแปลตรง ๆ คือการทำงานที่บ้านจะช่วยให้เราไม่ต้องออกไปเจอใคร ลดการแพร่ระบาดของไวรัสได้ การทำงานที่บ้านหากต้องการประสิทธิภาพสูงสุด การเตรียมความพร้อมถือเป็นสิ่งสำคัญ 10. Lockdown : การป้องกัน หมายถึงการปิดประเทศหรือปิดพรมแดน คือการห้ามบุคคลในประเทศเดินทางออกนอกประเทศ และห้ามบุคคลภายนอกประเทศเดินทางเข้ามาในประเทศ 11. Fake news : ข่าวปลอม ที่ถูกพิสูจน์ได้ว่าข้อมูลไม่เป็นความจริง เป็นลักษณะข่าวสาร ที่ถูกส่งในช่วงที่สถานการณ์อ่อนไหวเช่นการระบาดของเชื้อไวรัส โดยผ่านช่องทางการแชร์ ได้แก่ Social Network,Line,Facebook,Twitter แต่จากการที่คนตื่นตัวในการติดตามข่าวสาร ประกอบกับการเผยแพร่ที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว ไม่ได้มีการตรวจสอบคัดกรองความจริงหรือ ความถูกต้อง จึงทำให้เกิด “ข่าวลวง”ทำให้เข้าใจผิด ถึงขั้นสร้างความเสียหายและส่งผลกระทบในระดับความเชื่อ 12. Self Isolation : การแยกตัวผู้ป่วยที่เป็นโรคติดต่อ หรือการแยกตัวโดยสมัครใจไร้การควบคุม หมายถึง การโดดเดี่ยวตนเอง เป็นการให้ผู้ที่ติดเชื้อรับผิดชอบตนเอง โดยการแยกตัว อยู่ห่างจากผู้อื่น เพื่อการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อ ซึ่งอาจเรียกว่าเป็นการกักตัวโดยสมัครใจ เพราะไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่คอยจับตามองอย่างใกล้ชิด ถือเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่งต่อการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โดยเฉพาะพื้นที่ ๆ มีการแพร่ระบาดสูง ที่จริงแล้วคำศัพท์ใหม่ ๆ ที่กล่าวถึงเหล่านั้น บางคำอาจมีอยู่แล้วหรือเคยได้มีการใช้มาก่อนหน้านี้ โดยจากที่ได้ทำการสืบค้นข้อมูล พบว่าสาเหตุประการหนึ่งที่เราไม่ค่อยจะคุ้นหู อาจเป็นเพราะบางส่วน มาจากศัพท์ทางการแพทย์ซึ่งส่วนใหญ่ใช้เฉพาะในวงการแพทย์ แต่เนื่องจากช่วงเวลานี้มีการระบาดของเชื้อไวรัสที่รุนแรงและรวดเร็ว ส่งผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยและการดำเนินชีวิตมนุษย์ทุก ๆ คน จึงเป็นส่วนที่ทำให้มีการ นำคำศัพท์เหล่านี้มาใช้ซ้ำบ่อยขึ้น และรวมถึงคำศัพท์ใหม่ ๆ ในความหมายด้านอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เฉพาะแต่ในทางการแพทย์เท่านั้น เชื่อว่าความรู้ ความเข้าใจในข้อมูลเหล่านี้ จะก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษโดยเฉพาะในขณะที่สถานการณ์ระบาดของเชื้อไวรัสฯที่ยังไม่มีใครสามารถค้นคว้าหรือผลิตยารักษาออกมาใช้ได้ ดังนั้นการเตรียมความพร้อมตนเอง จึงมีความจำเป็นและสำคัญยิ่งต่อทุกการดำเนินชีวิตเหมือนดังสำนวนไทยกล่าวไว้ว่า “รู้ไว้ใช่ว่าใส่บ่าแบกหาม” แต่สำหรับผู้เขียนแล้วคิดว่าเมื่อมีสิ่งหนึ่งสิ่งใดเกิดขึ้นและจากไปก็มักมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นมาทดแทนสิ่งเดิม และสิ่งใหม่นั้นถือเป็นการเรียนรู้และ เป็นประสบการณ์แก่เราได้หากเพียงเรารู้จักการถอดบทเรียนนั้นและสำคัญที่สุด “การ์ดอย่าตก” นะค่ะทุกท่าน ขอบคุณ รูปภาพปกบทความ จาก https://pixabay.com/ canva รูปภาพประกอบที่ 1 จาก https://pixabay.com รูปภาพประกอบที่ 2 จาก https://pixabay.com รูปภาพประกอบที่ 3 จาก https://pixabay.com รูปภาพประกอบที่ 4 จาก https://pixabay.com