การทำประกันชีวิตเป็นทางเลือกหนึ่งของการลงทุนเพื่อความมั่นคงของชีวิตและครอบครัวที่เรารัก เพราะประกันชีวิตเป็นผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่มีประโยชน์ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและให้ความคุ้มครองเราในเรื่อง "เงิน" ในยามที่ชีวิตเกิดเหตุไม่คาดฝันเกี่ยวกับความเป็นความตาย หากวันหนึ่งเราเจ็บป่วยเป็นโรคร้ายแรงเราก็มั่นใจได้ว่าเรามีค่ารักษา หรือหากประสบอุบัติเหตุอันตรายถึงขั้นพิการทำงานไม่ไหว เราก็ยังพอมีเงินชดเชยสักก้อนจากทุนประกันเอาไว้ต่อชีวิต แม้กระทั่งเราเสียชีวิตไปก่อนวัยอันควร ครอบครัวลูกหลานหรือคนข้างหลังก็ยังจะได้รับเงินก้อนหนึ่งเป็นเงินสำรองให้ใช้ชีวิตต่อไปได้ โดยมีบริษัทประกันจ่ายเงินให้กับผู้รับผลประโยชน์ที่เราได้ระบุชื่อเอาไว้ตอนทำสัญญา ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตในท้องตลาดนั้นมีหลากหลายรูปแบบให้เราเลือกซื้อ ซึ่งล้วนมีวัตถุประสงค์หลักเหมือนกันคือช่วยคุ้มครองรายได้ของเราไม่ให้สูญสิ้นไปจนหมดเนื้อหมดตัวกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่ได้กล่าวไปข้างต้น ทำให้เราและครอบครัวมีเงินสำรองฉุกเฉินเอาไว้ใช้จ่าย และในบทความนี้ก็จะแนะนำถึงประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ที่มีจุดเด่นคือทำครั้งเดียวได้ทั้งการออมเงินเพื่ออนาคตและคุ้มครองชีวิตของเราไปพร้อมกัน เรียกได้ว่า ยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์คืออะไร คือการออมเงิน สะสมเงินกับกรมธรรม์ประกันชีวิตแทนการฝากเงินกับธนาคาร ขณะเดียวกันก็ได้รับความคุ้มครองการเสียชีวิตไปพร้อมๆกันด้วย แถมเงิน(เบี้ย)ที่เราจ่ายไปยังได้รับดอกเบี้ยมากกว่าการฝากเงินแบบออมทรัพย์กับธนาคารเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็นผลิตภัณฑ์การเงินที่ช่วยสร้างวินัยในการเก็บหอมรอมริบ เพราะต้องส่งเบี้ยต่อเนื่องหลายปี อีกทั้งยังไม่สามารถขอเบิกหรือถอนเงินออกมาใช้ได้ แต่จะได้เป็นเงินก้อนในอนาคตเมื่อครบกำหนดตามสัญญา หรือหากเราเป็นอะไรไปในระหว่างสัญญา ครอบครัวคนข้างหลังก็จะได้รับทุนประกันหรือจำนวนเงินเอาประกันภัยครับข้อดีของประกันชีวิตสะสมทรัพย์ - ช่วยสร้างวินัยในการออมเงิน - สามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้ - ให้ความคุ้มครองและความมั่นคงกับชีวิต - ผลตอบแทนมีการรับประกันจำนวนที่แน่นอน - ผลตอบแทนที่ได้รับไม่ต้องเสียภาษีเหมือนดอกเบี้ยเงินฝาก ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์มีระยะเวลาความคุ้มครองให้เลือกทั้งระยะสั้นและระยะยาวหลายปี ถ้าหากเราต้องการซื้อเพื่อนำไปลดหย่อนภาษีนั้นจะต้องเลือกระยะเวลาคุ้มครองตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จึงจะสามารถนำเงินค่าเบี้ยประกันไปลดหย่อนภาษีได้สูงสุดถึง 100,000 บาท อีกทั้งผลตอบแทนหรือเงินก้อนใหญ่ที่เราจะได้รับในอนาคตนั้นก็ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้อะไรเลย ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์จึงเป็นการลงทุนเพื่อตัวเราและครอบครัวที่คุ้มค่าครับแล้วข้อด้อยของประกันสะสมทรัพย์ล่ะ? - สภาพคล่องน้อยมากๆ เพราะเบิกถอนเงินออมออกมาใช้ไม่ได้ หากจะเวนคืนหรือยกเลิกกรมธรรม์มันก็ไม่ได้เหมือนการปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่จะได้เงินของเราทั้งหมดกลับคืนมา แต่จะได้เป็นมูลค่าเงินสดซึ่งก็ไม่คุ้มค่ากับที่เราได้จ่ายไปแน่นอน - ผลตอบแทนจากการเก็บออมต่ำเมื่อเทียบกับการลงทุนแบบอื่นๆ ประกันชีวิตสะสมทรัพย์เหมาะสำหรับคนที่อยากเก็บออมแบบรักษาเงินต้นให้ปลอดภัยจากการขาดทุนและได้ความคุ้มครองไปพร้อมกัน ถ้าหากหวังผลตอบแทนที่มากขึ้นการลงทุนกับกองทุนรวมอาจจะเหมาะสมกว่า - ทุนประกันคุ้มครองชีวิตไม่สูงเมื่อเทียบจำนวนเบี้ยที่เท่ากันกับประกันแบบตลอดชีพ ถ้าหากเราต้องการทำประกันเพื่อมีมรดกหรือเงินก้อนไว้ให้คนข้างหลัง ประกันชีวิตแบบตลอดชีพจะเหมาะสมมากกว่าแบบสะสมทรัพย์ เพราะเบี้ยไม่แพงและได้ทุนประกันสูงกว่า ถ้าหากเพื่อนๆ สนใจประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์ก็ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมหรือปรึกษาตัวแทนกับบริษัทประกันที่เพื่อนๆไว้วางใจได้ครับ ถึงแม้ประกันสะสมทรัพย์จะไม่ได้ให้ผลตอบแทนที่ดีมากเหมือนสินทรัพย์อื่น แต่ก็ได้ความคุ้มครองชีวิตเป็นของแถม ที่สำคัญอย่าลืมวางแผนรายได้ของเราและครอบครัวก่อนตัดสินใจซื้อเพื่อไม่ให้เบี้ยที่ต้องจ่ายกลายเป็นภาระจนจ่ายไม่ไหวนะครับขอบคุณรูปภาพจาก Pixabay : ภาพปก / ภาพประกอบ 1 / ภาพประกอบ 2 / ภาพประกอบ 3