นับตั้งแต่ไวรัสโควิด-19 ได้ระบาดขึ้นครั้งแรกที่เมืองอู๋ฮั่น ประเทศจีน ก่อนที่จะกระจายไปในประเทศต่าง ๆ จนขยายวงกว้างไปทั่วโลก จนมีผู้ติดเชื้อในปัจจุบันถึง 4 ล้านกว่าคนและมีคนตายเกือบ 1.5 แสนคนทั่วทั้งโลก โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุดและเสียชีวิตมากที่สุดยังเป็นของสหรัฐอเมริกา รองลงมาก็ยังเป็นกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปเป็นส่วนใหญ่ ส่วนประเทศไทยเรามีคนติดเชื้อ 3 พันกว่าคน และมีผู้เสียชีวิต 56 คน ในเหตุการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสนี้ ประเทศไทยโดยศูนย์บริหารหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 หรือ ศบค. ได้ออกมาตรการต่าง ๆ ออกมาต่อสู้ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย ให้อยู่ที่บ้าน ทำงานที่บ้าน การปิดสถานที่ต่าง ๆ รวมถึงการออกพระราชกำหนดการบริหารในสถานการณ์ฉุกเฉิน ซึ่งส่งผลให้การประกอบอาชีพของประชาชนหลายกลุ่มหยุดชะงัก ดำเนินชีวิตด้วยความลำบากเพราะขาดรายได้ แต่ในสภาพแบบนี้ ยังมีเรื่องดี ๆ ของคนไทยด้วยกันอย่างหนึ่งคือ การหยิบยื่นน้ำใจให้กัน คนมีมากก็ให้คนที่มีน้อยกว่า ซึ่งมีให้เห็นตั้งแต่ระดับชุมชนหมู่บ้านไปจนถึงระดับประเทศที่บรรดาเศรษฐีทั้งหลายออกมาร่วมมือกับรัฐบาล เป็นต้น แต่มีกิจกรรมอย่างหนึ่งที่น่าสนใจคือ "ตู้ปันสุข" ตู้ปันสุขหรือชื่ออื่น ๆ ใกล้เคียงกันนี้ เป็นกิจกรรมที่คนไทยเลียนแบบมาจากต่างประเทศคือสหรัฐอเมริกา มาปรับให้เข้ากับวัฒนธรรมแบบไทย ๆ โดยเอาตู้กับข้าวมาตั้งไว้หน้าบ้าน หรือสถานที่มีผู้คนเห็นได้สะดวก ภายในตู้ใส่อาหาร น้ำ เครื่องดื่ม ข้าวสาร หรือบางที่มีเสื้อผ้าด้วย เพื่อให้ใครที่ต้องการได้นำไปกินไปใช้ รวมถึงให้คนอื่น ๆ ได้เอาของมาเติมใส่ให้ด้วย ประหนึ่งว่าเป็นตู้เก็บความสุขไว้แบ่งปันกันนั่นเอง แต่สามสี่วันมานี้ ก็เกิดเรื่องดราม่าขึ้นกับตู้นี้ สาเหตุมาจากในหลาย ๆ พื้นที่ได้บางคน บางกลุ่ม ตะเวนไปกวาดเอาของในตู้จนหมด ไม่เหลือไว้เผื่อคนอื่น ๆ เลย ที่หนักหนาสาหัสหน่อยก็คือ คนที่มีพฤติกรรมเช่นนั้นบางคน ขับรถเก๋งไปขนเอาของ บางกลุ่มรวมตัวไปโวยวาย ด่าว่าเจ้าของตู้ ทำไมไม่เอาของมาเติม ทำไมนำตู้กลับเข้าบ้าน ไม่มาวางไว้ข้างนอก ไม่ใช่เรื่องผิดปกติที่ผู้คนจะตำหนิหรือประณามพฤติกรรมแบบนั้น เพราะในสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายพยายามแบ่งปันน้ำใจให้กัน แม้จะอ้างความยากจน ความด้อยโอกาส หรืออาจจะอ้างว่านำไปเผื่อคนอื่น ก็ฟังไม่ขึ้นอยู่ดี เพราะยังมีกรณีคุณลุงแต่งตัวมอมแมม มาหยิบเอานมกล่องเดียวแล้วบอกว่าพออิ่มแล้ว ไม่ว่าจะในสถานการณ์ปกติ หรือในช่วงโควิดระบาดนี้ก็ตาม เราก็จะเห็นคนบางส่วนที่อยากได้จนเกินพอดี ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ตัวเองได้ แล้วยิ่งตอนนี้มีคนหยิบยื่นให้มากยิ่งเห็นเป็นจังหวะเหมาะ แต่ในทางกลับกัน เราก็เห็นคนไทยทั่ว ๆ ไป ที่ปกติก็เอื้อเฟื้อ อารีคนอื่นอยู่แล้ว พอมีไวรัสเห็นเพื่อนคนไทยด้วยกันลำบาก ก็ยิ่งมีน้ำใจมากขึ้น ในขณะที่คนส่วนหนึ่งมองเห็นวิกฤติเป็นโอกาสในการทำเรื่องดี ๆ ต่อเพื่อนมนุษย์ ต่อสังคม ประเทศชาติ แต่คนอืกส่วนหนึ่งกลับเห็นเป็นโอกาสในการหยิบฉวย เอาเปรียบคนอื่น ๆ และสังคม ซึ่งก็เห็นได้จากตู้ปันสุข หรือเรื่องอื่น ๆ ตามที่ปรากฎในสื่อทั่วไป"ตู้ปันสุข" จึงเหมือนกันกับปรอทวัดไข้อย่างหนึ่ง ช่วยให้เราวินิจฉัยได้ว่า ใครแข็งแรง ใครอ่อนแอ ใครสบายดี ใครป่วย คนที่แข็งแรง อาจจะหงิดหงิดบ้างกับความดื้อของคนป่วย แต่มาช่วยกันป้องกันโรค ช่วยให้คนไทยหายป่วย ร่วมมือกันสร้างสังคมที่แข็งแรงต่อไปครับ ภาพประกอบที่ 1 จากเจ้าของบทความ ภาพประกอบที่ 2 จากเจ้าของบทความ ภาพประกอบที่ 3 จากเจ้าของบทความ ภาพประกอบที่ 4 จากเจ้าของบทความ