Wherever I live, I shall feel homesick for Tibet. (คำพูดของ Heinrich Harrer จากหนังสือ Seven Years in Tibet) ทิเบต ดินแดนที่ได้รับฉายาว่าหลังคาโลก จากที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 3,600 เมตร สำหรับผู้รักการเดินทางแล้ว ทิเบตย่อมเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ต้องไปสักครั้งในชีวิต ดินแดนที่เข้าถึงได้ยาก การเดินทางจึงจำเป็นต้องเตรียมพร้อมอย่างยิ่ง ผู้เขียนใช้เวลาเกือบปีวางแผนและเตรียมความพร้อมของร่างกายสำหรับการเดินทางในฝันครั้งนี้ จึงขอนำมาแบ่งปันสำหรับผู้สนใจจะเดินทางไปดินแดนลับแลแห่งนี้ ช่วงเวลาเดินทาง ช่วงเวลาเดินทางมีผลมากต่อค่าใช้จ่าย ก.พ. - มี.ค. มักเป็นช่วงปิดการท่องเที่ยวในทิเบต ด้วยตรงกับเวลาฉลองปีใหม่ของทิเบตกับจีน ทิเบตจึงห้ามนักท่องเที่ยวเข้า วันที่แน่นอนแต่ละปีอาจไม่ตรงกัน ต้องตรวจสอบให้ดี เช่น ปี 2562/2019 ปิดเดือน ก.พ. - มี.ค. สามารถตรวจสอบจากเว็บนี้ได้ >>> http://www.cafespinn.com/en/tibet/ เม.ย. - พ.ค. ถือเป็นฤดูใบไม้ผลิ ช่วงพีคของทิเบต ข้อดี อากาศดี ข้อเสีย อะไร ๆ ก็แพง มิ.ย. - ส.ค. ฤดูฝน ยังพีคอยู่แต่น้อยกว่า เม.ย. - พ.ค. ค่าใช้จ่ายยิ่งแพงขึ้นได้อีก ก.ย. - ธ.ค. เริ่มหนาว คนน้อย ค่าใช้จ่ายถูกลง ทัวร์จะถูกลงมากในช่วงนี้เป็นต้นไป และถูกลงได้อีกในเดือน ธ.ค. สภาพอากาศในแต่ละเดือนในทิเบต จาก https://www.chinahighlights.com/tibet/weather.htm วิธีเดินทาง 1.1 การเดินทางไปทิเบตไปได้จากสองประเทศคือ เนปาลกับจีน ผู้เขียนไม่แนะนำเนปาลเพราะกลัวมีปัญหาเรื่อง Tibet Travel Permit (TTP) (จากอ่านกระทู้ของต่างชาติพบปัญหาไม่ได้ permit เพราะเข้าทางเนปาลค่อนข้างเยอะ เสี่ยงสูง) 1.2 ไปทางจีน มีสองทางเลือก เครื่องบิน กับ รถไฟ 1.2.1 - เครื่องบิน ไม่สามารถบินตรงได้เพราะคนที่จะเดินทางเข้าทิเบตต้องได้ permit ก่อนเข้าทิเบต จึงต้องมีเวลาแวะพักเพื่อรับ permit เสียก่อน - รถไฟ นั่งยาวเลยจ้า ตามตารางข้างล่าง ที่มา: https://www.tibetdiscovery.com/train-to-tibet/ นอกจากนี้ ตั๋วรถไฟอาจจองยาก เพราะเป็นทริปยอดนิยม และค่าตั๋วก็ราคาพอ ๆ กับเครื่องบินเลยทีเดียว หากใครไม่มายด์เรื่องวิว เครื่องบินก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะประหยัดเวลา ค่าใช้จ่ายก็พอ ๆ กัน หรือถูกกว่าด้วยซ้ำ 1.3 เมืองที่จะไปลง ผู้เขียนเลือกจากระยะห่างและความน่าสนใจของเมือง เพราะคิดว่าต้องเผื่อเวลาแวะพักก่อนเข้าทิเบต จึงน่าจะมีเวลาเที่ยวชมเมืองอยู่บ้าง ด้านล่างนี้เป็นตารางแสดงระยะเวลาการเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพฯ ถึงเมืองต่าง ๆ ในจีนซึ่งมีไฟลท์เดินทางเข้าทิเบต บริษัททัวร์ อาจกล่าวได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ยุ่งยากที่สุดสำหรับผู้เขียนเลย อันที่จริงผู้เขียนเริ่มมองหาทัวร์ตั้งแต่ได้ตั๋วเครื่องบิน เพราะมีบริษัททัวร์มากเหลือเกิน จริง ๆ แล้ว การกำหนดวันเดินทางก็ควรเริ่มจากทัวร์ทิเบตนี่แหละ เพราะว่าหลาย ๆ บริษัททัวร์ (จากที่สอบถามมาทั้งหมดกว่าแปดสิบถึงเก้าสิบเปอร์เซ็น) เขามีกำหนดทัวร์เริ่มวันเดินทางที่แน่นอนอยู่แล้ว ผู้เขียนพลาดบริษัททัวร์หลายแห่งเพราะวันเดินทางเข้าทิเบตไม่ตรงกับที่เขาตั้งไว้ ถ้าอยากไปให้ได้จริง ๆ บริษัททัวร์ก็จะจัดแบบ private ให้ได้ แต่ราคาสูงมากโขอยู่ คำแนะนำคือ ให้สอบถามตารางเวลากับบริษัททัวร์ที่สนใจไว้ก่อนซื้อตั๋วเครื่องบินน่าจะดีกว่า อย่างไรก็ตาม ทัวร์ทิเบตก็มีค่อนข้างถี่ ถึงจะซื้อตั๋วไปแล้วก็ยังพอมีตัวเลือกอยู่ รายการทัวร์ของแต่ละที่ก็ค่อนข้างคล้าย ๆ กัน เพราะถูกกำหนดโดยรัฐบาลจีน ทั้งระยะเวลาและสถานที่ ต่างกันที่ราคา และอุปกรณ์เสริม เช่น ถ้าราคาทัวร์ถูกหน่อยก็จะไม่มีน้ำดื่มกับออกซิเจนกระป๋องให้ เป็นต้น วันแรกของทัวร์แต่ละที่คือวันที่เราไปถึง และวันสุดท้ายคือวันที่เราเดินทางกลับ เช่น ทัวร์แปดวัน เราจะได้เที่ยวจริงหกวัน ผู้เขียนขอแนะนำเว็บ https://tibetecotravel.com/ เป็นเว็บไซต์รวมรวมบริษัททัวร์ที่ดำเนินการโดยคนทิเบตจริง ๆ เพราะอยากให้รายได้ไปสู่คนพื้นเมืองไม่ใช่คนจีนที่มาทำธุรกิจ แล้วบริษัทต่าง ๆ ในเว็บนี้ยังให้คำมั่นในการดำเนินงานในแบบอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมด้วย ส่วนการพิจารณา ผู้เขียนเลือกบริษัททัวร์ที่ได้รับแนะนำใน Lonely Planet ประกอบกับรีวิวใน tripadvisor ว่าด้วยเอกสาร เอกสารสำคัญที่ต้องทำเพิ่มนอกเหนือจากหนังสือเดินทางก็คือวีซ่ากับ TTP ทิเบตเพอร์มิต หรือชื่อเต็ม Tibet Travel Permit คือเอกสารที่ต้องสำแดงในการซื้อตั๋วรถไฟ/เครื่องบิน และสำแดงเมื่อคุณเข้าและออกเมืองแต่ละเมืองในทิเบต ชาวต่างชาติทุกคนจำเป็นต้องมีเอกสารนี้ (คนจีนไม่ต้อง) และจะไม่ออกให้กับคนที่ทำอาชีพ นักการทูต, สื่อมวลชน, เจ้าหน้าที่ราชการ, คนอินเดียบางประเภท ทิเบตเพอร์มิตขอเองไม่ได้ บริษัททัวร์ที่เราเลือกจะเป็นผู้ดำเนินการให้ ค่าธรรมเนียมรวมอยู่ในค่าทัวร์ ใช้เวลาอย่างน้อยสองอาทิตย์ จะได้ก่อนเดินทางไม่เกินสองอาทิตย์ อนึ่งเพอร์มิตที่ใช้ในทิเบตมีทั้งหมดสามประเภท นอกจาก TTP ยังมี Alien's Travel Permit กับ Military Permit กำหนดจากอาณาเขตดังรูป อ้างอิงจาก https://www.chinatibettrain.com/tibettravelpermit.htm https://www.tibettravel.org/tibet-travel-permit/tibet-permits.html สุดท้ายก็คือการเตรียมร่างกาย ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ทำให้ร่างกายของคนที่อยู่พื้นราบเป็นประจำต้องปรับตัวอย่างมาก ร่างกายเราต้องแข็งแกร่งจริง ๆ ผู้เขียนไม่ได้กินยากัน Altitude Sickness ก่อนไป เพราะกลัวผลข้างเคียง เนื่องจากผู้เขียนเป็นคนออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว จึงค่อนข้างมั่นใจในความแข็งแกร่งของร่างกาย ทว่าเมื่อเอาเข้าจริงก็หอบน่าดูเช่นกัน และคนที่ร่างกายอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัวจะมีอาการย่ำแย่ลง ดังนั้น คนที่ต้องการเดินทางไปทิเบตต้องเตรียมร่างกายให้สมบูรณ์พร้อม คิดเสียว่ากำลังจะไปเข้าแข่งโอลิมปิกก็ได้ การเตรียมพร้อมในทุกการเดินทางย่อมลดทอนโอกาสที่จะมีปัญหาและอุปสรรคขณะเดินทาง และทำให้เราสามารถดื่มด่ำความสำราญในการเดินทางได้อย่างเต็มที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเดินทางไปในที่แปลก ๆ หรือเดินทางคนเดียว การเดินทางซึ่งเตรียมพร้อมเป็นอย่างดี ย่อมนำมาซึ่งประสบการณ์ดี ๆ อันน่าประทับใจไม่รู้ลืม ภาพประกอบโดยผู้เขียน