ผลกระทบจาก COVID-19 ทำให้อุตสาหรกรรมการท่องเที่ยวซบเซาลงมาก ที่ญี่ปุ่นเองจากที่มีนักท่องเที่ยวเดินกันให้ควั่ก ตอนนี้กลับบางตาอย่างเห็นได้ชัด ไม่ครึกครื้นเหมือนที่เคยผ่านมาเลยค่ะ ในตอนนี้เอง COVID-19 ก็ยังคงระบาดไปทั่วทั้งโลก ในแต่ละประเทศก็มีมาตรการป้องกันการติดเชื้อที่ไม่เหมือนกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันนั่นคือ ‘อาการ’ หลัก ๆ ของเจ้าไวรัสที่เป็นตัวส่งสัญญาณบอกว่าเราอาจมีความเสี่ยงที่จะเป็น COVID-19 ค่ะ บทความนี้ทางผู้เขียนจึงจะยกตัวอย่าง 3 อาการหลักที่ทำให้เราเป็นผู้เสี่ยงที่อาจติดเชื้อซึ่งจะยกตัวอย่างด้วยคำศัพท์ภาษาญี่ปุ่น เพื่อให้ผู้ที่กำลังศึกษาภาษาญี่ปุ่นได้นำคำศัพท์ไปใช้ในการสื่อสารหรือการติดตามข่าวญี่ปุ่นได้เข้าใจและรวดเร็วมากขึ้น นอกจากนี้การเรียนรู้คำศัพท์เหล่านี้ก็ช่วยให้เราบอกอาการกับคุณหมอหรือพยาบาลที่ญี่ปุ่นในกรณีที่เราป่วยที่นั่นได้อีกด้วยนะคะ 咳 (Seki)‘อาการไอ’ แน่นอนว่าเป็นอาการแรก ๆ ที่พบเห็นในผู้ติดเชื้อหลายคนแม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อบางรายที่ไม่มีอาการนี้เลยก็ตาม ภาษาญี่ปุ่นนั้นใช้คำว่า เซกิ ซึ่งต้องเป็นคันจิตัว 咳 เท่านั้น เพราะมีคำอื่น ๆ ที่ออกเสียงเหมือนกันแต่ใช้คันจิคนละตัว ซึ่งหากเราใช้ผิดก็จะทำให้ความหมายผิดไปด้วยเช่นกันค่ะ ใครที่ท่องเที่ยวหรือใช้ชีวิตอยู่ที่ญี่ปุ่นแล้วมีอาการไอ เราก็สามารถบอกคุณหมอได้อย่างงู ๆ ปลา ๆ ว่าเรามีไอ (seki ga demasu) หรือพูดเซกิเฉย ๆ ไม่ต้องพูดเต็มประโยคคุณหมอก็เข้าใจได้ค่ะ 発熱 (Hatsunetsu)‘มีไข้’ อาการนี้เรียกได้ว่ามีกันแทบทุกคนในหมู่ผู้ติดเชื้อ ซึ่งพวกเขาจะมีอุณหภูมิร่างกายสูงผิดปกติหรือก็คือมีไข้นั่นเองค่ะ แต่ก็มีบางรายที่ไม่มีไข้เลยแต่กลับติดเชื้อเสียอย่างนั้น คำนี้สามารถใช้บอกเพียว ๆ ได้เลยโดยไม่ต้องทำเป็นรูปประโยคค่ะ ทางคุณหมอและพยาบาลก็จะเข้าใจได้ง่ายกว่าคำว่า 熱 (Netsu) ที่แปลว่าไข้เฉย ๆ เพราะคำว่าเน็ตสึนั้นสามารถใช้บอกได้ทั้งตอนมีหรือไม่มีไข้นั่นเองค่ะ แต่หากพูดฮัตสึเน็ตสึคุณหมอก็จะรู้ได้ทันทีว่ามีไข้ด้วยค่ะ 息切り (ikigire)‘หายใจไม่ทัน’ หรือหายใจลำบาก อาการนี้ก็เป็นอีกอาการที่พบได้มากในหมู่ของผู้ติดเชื้อค่ะ ซึ่งที่ญี่ปุ่นเรียกว่า อิคิกิเระ ถ้าหากใครมีอาการนี้บ่อย ๆ ก็ต้องรีบพบแพทย์เพื่อตรวจเชื้อเลยนะคะว่าติดเชื้อไวรัสเข้าแล้วหรือไม่ นอกจาก 3 คำที่ยกตัวอย่างมานั้นก็ยังมีอาการอื่น ๆ ปะปนมาบ้างอย่างเช่น 体の痛み (karada no itami) อาการปวดตามตัวที่พบเห็นบ้าง หรือ 頭痛 (zutsuu) อาการปวดหัว ซึ่งคำเหล่านี้สามารถใช้อธิบายกับแพทย์หรือพยาบาลชาวญี่ปุ่นเพื่อบอกอาการของเราได้เลยทันทีค่ะ แต่หากไปเที่ยวแล้วร่างกายเกิดความผิดปกติ มีปัญหาเกี่ยวกับสุขภาพและไม่สามารถสื่อสารภาษาญี่ปุ่นได้ ก็ควรให้คนจากประกันหรือหาล่ามคนไทยคอยช่วยจะดีที่สุดนะคะ เพราะเรื่องของสุขภาพนั้นไม่เข้าใครออกใคร หากสื่อสารผิดนิดเดียวก็อาจเป็นอันตรายได้เลยค่ะ ดังนั้นคำศัพท์เหล่านี้เรียนรู้ไว้ก็ไม่เสียหาย ยังสามารถนำไปศึกษาหรือฝึกอ่านหรือฟังสื่อต่าง ๆ ของญี่ปุ่นได้อีกด้วยนะคะเครดิตภาพปก: freepikภาพประกอบโดยผู้เขียน