หากพูดถึงผักพื้นบ้าน หลายๆ ท่านคงคิดถึงผักริมรั้ว ริมบึง ซึ่งเป็นการปลูกผักตามท้องถิ่น ที่ไม่ใช้สารเคมี จึงมีความปลอดภัย ราคาไม่แพงมากนัก สามารถปลูกและหารับประทานได้ง่าย มีประโยชน์หลากหลาย นอกจากเป็นอาหารแล้วยังเป็นสมุนไพร หนึ่งในนั้นคือ “บวบ” ซึ่งเป็นผักพื้นบ้านที่ผู้เขียนชอบนำมาทำอาหารรับประทานอยู่เป็นประจำ "บวบ" เป็นผักพื้นบ้านที่ปลูกง่าย พบได้ในทุกภาคของประเทศไทย มีชื่อเรียกตามท้องถิ่นต่างๆ ว่า "มะนอย" หรือ "บักนอย" บวบจะมีผิวเปลือกสีเขียว หารับประทานได้ตลอดทั้งปี มีขายตามตลาดสดหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต สามารถนำมาทำอาหารได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเมนูบวบต้ม บวบนึ่ง รับประทานคู่กับน้ำพริกต่างๆ หรือจะนำมาผัดใส่ไข่ ใส่กุ้ง หรือใส่หมูสับกระเทียมพริกไทยก็อร่อยไม่แพ้กัน หรือจะนำมาทำเป็นแกงเลียงก็อร่อยไปอีกแบบ บวบที่นิยมนำมารับประทานมี 3 ชนิด ได้แก่ “บวบเหลี่ยม” โดยผิวเปลือกจะมีลักษณะเป็นเส้นนูนเป็นเหลี่ยมๆ อย่างชัดเจน เป็นบวบที่นิยมนำมาประกอบอาหารมากที่สุด “บวบงู” มีลักษณะผิวเรียบ เปลือกบาง มีลายริ้วสีขาว เนื้้้อนิ่ม พบมากในภาคอีสาน และ “บวบหอม” หรือ “บวบกลม” ลักษณะผิวเปลือกมีลายริ้วคล้ายแตงกวา เนื้อในจะมีรังบวบเป็นเส้นใยที่เหนียวมาก เรียกว่า "ใยบวบ" โดยนำมาตากแดดให้แห้งเพื่อทำใยบวบขัดผิว ซึ่งจะช่วยทำความสะอาดผิวพรรณได้เป็นอย่างดี เห็นได้จากตามร้านสปา ร้านขัดผิวต่างๆ จะมีการนำใยบวบมาใช้กันอย่างแพร่หลาย และในหลายพื้นที่ก็มีการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากใยบวบจนเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยม จนกลายเป็นสินค้า OTOP ของดีประจำท้องถิ่น หรือแม้แต่มีวางขายตามตลาดหรือห้างสรรพสินค้า เช่น แปรงขัดตัวใยบวบ ฟองน้ำล้างจานใยบวบ รองเท้าใยบวบ เป็นต้น และนี่ก็เป็นอีกประโยชน์ของบวบที่มีมากกว่าความอิ่มอร่อย และอีกประโยชน์ของบวบ ที่นอกเหนือจากคุณค่าทางอาหาร และการนำมาผลิตเป็นของใช้แล้วนั้น บวบยังมีสรรพคุณทางยาหรือเป็นสมุนไพรอีกด้วย ในทางตำรายาสมุนไพรพบว่า ผลบวบหรือเนื้อบวบมีเนื้อที่มีความชุ่มน้ำ ทำให้มีฤทธิ์เย็น ซึ่งจะช่วยบำรุงร่างกาย แก้ร้อนใน ใช้เป็นยาลดไข้ ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ และยังช่วยขับน้ำนมในสตรีที่ให้นมบุตรได้ นอกจากนี้เรายังสามารถนำเมล็ดและใบของบวบมาต้มกับน้ำและดื่มเพื่อแก้อาหารปวดท้องบิด หรือท่านใดที่มีอาการท้องผูกก็ให้นำรากบวบมาต้มกับน้ำและดื่มใช้เป็นยาระบายได้ ในส่วนของดอกบวบจะมีรสขมเล็กน้อย ใช้รักษาอาการไอ เจ็บคอ และหอบ ด้วยการใช้ดอกบวบแห้งผสมกับน้ำผึ้งแล้วต้มจิบเป็นยา หรือผู้ที่ถูกแมลงสัตว์กัดต่อย ผิวหนังเป็นกลากเกลื้อน ก็สามารถนำใบสดของบวบมาตำแล้วพอกบริเวณผิวหนังได้ เมื่อทราบถึงสรรพคุณของ “บวบ ผักพื้นบ้านสารพัดประโยชน์” แบบนี้แล้ว ก็อย่าลืมหาบวบมาปลูกติดบ้านเพื่อรับประทานและใช้ประโยชน์กันนะคะ ขอบคุณเครดิตรูปประกอบจาก Freepik.comรูปหน้าปก / รูปประกอบที่ 1 / รูปประกอบที่ 2 / รูปประกอบที่ 3 / รูปประกอบที่ 4 / รูปประกอบที่ 5