ในปัจจุบัน สภาพทางสังคมของญี่ปุ่นอยู่ในลักษณะที่ต่างคนต่างอยู่ไม่มีใครสนใจใคร ญาติพี่น้องห่างเหินหายหน้าหายตา บางคนหนีจากลูกหลานไปหาเช่าอพาร์ตเมนต์อยู่คนเดียวและไม่มีปฏิสัมพันธ์กับคนในชุมชนเลย ค่าเช่าบ้านก็หักผ่านบัญชีธนาคาร ทุกๆเดือนเจ้าของอพาร์ตเมนต์ก็แทบไม่มีความจำเป็นต้องมาเจอหน้าลูกบ้านเลย และนั่นทำให้คนเหล่านั้นต้องเสียชีวิตอย่างโดดเดี่ยวโดยที่ไม่มีใครรับรู้ คุณซาซะกิ เจ้าของบริษัทรับจ้างทำความสะอาดบ้านขยะที่มีคนตายแห่งหนึ่ง เปิดเผยว่า " ในฤดูร้อนศพจะมีการเน่าเปื่อยเร็วมาก ทั้งหนอนทั้งแมลงวันบินไต่ตอมกันให้ยั้วเยี้ยเต็มไปหมด บางทีศพก็จะเน่าเปื่อยจนเผยให้เห็นกระดูกสีขาวก็มีไม่น้อย " โดยวันนี้จะยกเคสตัวอย่างการทำงานของเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดของบริษัทรับจ้างแห่งนี้ให้ทุกคนได้รู้ว่าพวกเขาต้องเจอกับอะไรบ้าง เริ่มต้นที่การมุ่งหน้าไปยังตัวอำเภอเมืองชิบะ เมืองชายฝั่งทะเลอันสวยงามน่าอยู่ ในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม บริษัทนี้ได้ถูกจ้างไปทำความสะอาดอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งเจ้าของห้องเป็นชายวัย 70 ปีกว่า เสียชีวิตคนเดียวภายในห้องที่ล็อคกุญแจจากข้างในทำให้ตำรวจจำเป็นต้องทุบหน้าต่างกระจกเพื่อทำการปลดล็อคกลอนด้านใน เจ้าหน้าที่จะทำการพ่นยาฆ่าแมลงเข้าไปในช่องของหน้าต่างที่ถูกทุบก่อนเปิดประตู หลังจากนั้นไม่นานก็ทำการเปิดประตู กลิ่นเหม็นอย่างรุนแรงโชยหึ่งออกมาด้านนอก เหม็นเกินจะทนจนอธิบายไม่ถูก ไม่ใช่แค่กลิ่นเน่าเหม็นจากศพคนตายเท่านั้น ยังมีกลิ่นเหม็นจากอาหารที่เน่าบูดภายในครัวอีกด้วย สารพัดกลิ่นเหม็นตลบอบอวลอยู่ภายในห้องที่ถูกปิดตาย แมลงวันและแมลงสาบยั้วเยี้ยตามกองขยะ “กลิ่นพวกนี้ไม่ว่าคุณจะพบเจอกี่ครั้งคุณก็จะไม่มีวันเคยชินกับมันหรอก” เจ้าของบริษัทกล่าว หลังจากที่พ่นยากำจัดแมลงเสร็จแล้ว พนักงานของเราก็จะเปลี่ยนชุดป้องกันเชื้อโรคอย่างดีเพื่อลงมือปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่ตำรวจกล่าวว่า สาเหตุการตายคาดว่าน่าจะเป็นเพราะโรคติดต่อร้ายแรง ( พวกวัณโรค ) นั่นทำให้งานของพวกเขาต้องยุ่งยากมากขึ้นไปอีก เพราะต้องมีการกำจัดเชื้อโรคให้ถูกต้อง พนักงานจะใช้น้ำยาฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของกรด Hypochlorous ฉีดพรมลงไปบนพื้นเพื่อฆ่าเชื้อโรคตรงที่พบศพ หลังจากที่เก็บขยะออกไปจนหมดแล้วก็จะเป็นงานแกะลอกแผ่นวอลเปเปอร์ที่สกปรกด้วยคราบเลือดออก ส่วนงานพื้นจะต้องลอกออกทำความสะอาดใหม่ทั้งหมดเช่นกัน คุณซาซากิ เจ้าของบริษัทบอกว่าทุกขั้นตอนที่ทำอยู่มีจุดประสงค์เพื่อให้ครอบครัวของผู้ตายได้มาเก็บข้าวของที่มีค่าอย่างสบายใจเท่านั้นแหละ ถ้ายังมีรอยคราบเลือดหรือกลิ่นเหม็นหลงเหลืออยู่ ก็คงไม่มีใครอยากจะเข้ามาหลอกจริงไหม? แต่จนถึงขณะนี้ทางตำรวจก็ยังคงหาญาติพี่น้องผู้ตายไม่พบ การตายอย่างโดดเดี่ยวนี่ไม่ใช่จะหาญาติพี่น้องได้ง่ายๆ ส่วนใหญ่มักจะหาไม่เจอด้วยซ้ำไป เป็นสังคมที่ต่างคนต่างอยู่จริงๆ การไปรับทำความสะอาดบ้านในลักษณะนี้แต่ละครั้ง พวกพนักงานจะเห็นถึงความเหงา โดดเดี่ยว และเหลือเพียงตัวคนเดียวของผู้ตาย บางคนก็ตายเพราะความเจ็บป่วย บางคนก็ตายเพราะความเหงา ในบางเคสกว่าจะพบศพผู้เสียชีวิตก็ผ่านไปนานถึง 4-5 เดือนก็มี โดยตัวเลขสถิติของคนที่ไร้ญาติขาดมิตรของคนญี่ปุ่นสูงถึงสามหมื่นคนต่อปี นับได้ว่าเป็นการ เกิดมาตัวคนเดียวและตายคนเดียวอย่างแท้จริง Credit: Facebook ธนากร ใจสุขสกุลดี https://headlines.yahoo.co.jp/article… http://news.livedoor.com/lite/article_detail_amp/14860021/ 501room / Shutterstock.com