ประสบการณ์บริจาคเกล็ดเลือดครั้งเเรก สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาเล่าประสบการณ์ในการบริจาคเกล็ดเลือดครั้งเเรกในชีวิตของผม ก่อนอื่นเลยต้องบอกก่อนว่าผมเป็นนักศึกษาที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี หรือเรียกสั้นๆว่า มทส. ในที่นี้ผมขอเรียกว่า มทส. นะครับ ต้องขอเล่าก่อนว่าปกติผมบริจาคเลือดเป็นประจำอยู่เเล้วในวันนี้ก็เลยตั้งใจจะไปบริจาคอีกครั้ง ซึ่งหลังจากบริจาคเเล้วเราจะสามารถบริจาคได้อีกครั้งหลังจาก 3 เดือนนับจากวันที่ไปบริจาคมานะครับ สถานที่ที่ผมจะไปนั่นก็คือโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย ขอเรียกว่าโรงพยาบาล มทส. นะ วันที่ผมจะไปคือวันศุกร์ที่ 10 มกราคม 2563 ที่ผ่านมาหลังจากผมเรียนในช่วงเช้าเสร็จและช่วงบ่ายไม่มีเรียนต่อ จึงเป็นโอกาสที่ดีในการไปอย่างสบายใจ ก่อนไปเราควรทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนนะ ร่างกายจะได้มีเเรง เมื่อเราไปถึงก็ให้กรอกเเบบฟอร์มขอเข้าบริจาค แต่ผมไม่ได้ถ่ายรูปมาด้วยขออภัยด้วยครับ หลังจากกรอกแบบฟอร์มเสร็จเเล้วก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่เพื่อวัดความเข้มข้นของเลือด เเละความดันโลหิตต่อไป แต่หลังจากวัดทุกอย่างเรียบร้อยเเล้วพี่ๆเจ้าหน้าที่เห็นว่าตัวผมร่างกายมีเกณฑ์ผ่านที่สามารถบริจาคเกล็ดเลือดได้ พี่เจ้าหน้าที่จึงได้เจาะเลือดอีกครั้งเพื่อนำไปวัดระดับเกล็ดเลือด ซึ่งเกณฑ์ที่ผ่านต้องมีเกล็ดเลือดประมาณ 200,000-240,000 มีน้ำหนักมากกว่า 55 กิโลกรัม ซึ่งปรากฏว่าเลือดผมมีระดับเกล็ดเลือดประมาณ 320,000 ซึ่งผ่านฉลุย หลังจากนั้นก็รอพี่เจ้าหน้าที่เตรียมเครื่องคัดเกล็ดเลือด เเละระหว่างรอเราก็นั่งจิบน้ำแคลเซียมรอ ซึ่งพี่ๆเจ้าหน้าที่บอกว่าจะช่วยเรื่องการชะลอการเเข็งตัวของเลือด โดยเครื่องคัดเกล็ดเลือดก็มีหน้าตาประมาณนี้นะครับ ซึ่งรูปนี้ผมหามาจาก internet นะครับ ก่อนการบริจาคพี่ๆก็จะอธิบายการทำงานของเครื่องและขั้นตอนการทำงาน คือ การบริจาคเกล็ดเลือดทำเหมือนการบริจาคเลือดปกติเลยครับ โดยเครื่องจะทำงานเป็นรอบ โดยแต่ละรอบจะดึงเลือดจากร่างกายเราไปคัดเเยกเฉพาะเกล็ดเลือดออกมาเเละนำเลือดส่วนที่คัดเเยกเเล้วคืนสู่ร่างกายของเรา เเละจะทำอย่างนี้เป็นรอบๆไป ซึ่งปริมาณเกล็ดเลือดของผม จะอยู่ที่ 5 รอบหรือประมาณ 50 นาที และนี่คือภาพของผมที่พี่เจ้าหน้าที่ถ่ายให้ขณะเข้ารับการบริจาคครับ ซึ่งถุงที่มีน้ำสีเหลืองๆนั้นก็คือเกล็ดเลือดของผมเองครับ ระหว่างการบริจาคนั้นอาจจะมีอาการชาที่ปากเป็นอาการที่เกิดขึ้นอย่างปกติในการเข้าบริจาคนะครับ ไม่ต้องตกใจนะ หลังจากบริจาคเสร็จเเล้วเราก็ไปนั่งพัก ดื่มน้ำหวานเเละขนมเพื่อเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดเเละเพื่อเป็นการพักป้องกันการหน้ามืดเเละเป็นลมเเละตอนกลับเจ้าหน้าที่จะมีธาตุเหล็กให้เราด้วย เพื่อเพิ่มความเข้มข้นของเลือดที่เสียไป แนะนำให้ทานให้หมดนะครับ และนี่คือประสบการณ์บริจาคเกล็ดเลือดครั้งเเรกของผมเอง รู้สึกดีมากๆครับที่ได้บริจาคให้ผู้ป่วย พี่เจ้าหน้าที่บอกว่าเกล็ดเลือดมีความต้องการใช้สูงมากในผู้ป่วยมะเร็ง แต่การบริจาคมีอัตราน้อยมากเพราะด้วยคนที่ผ่านเกณฑ์บริจาคมีน้อยมากๆ ถือว่าเป็นบุญกุศลที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์นะครับ และที่สำคัญการบริจาคเกล็ดเลือดสามารถบริจาคได้เดือนละ 1 ครั้ง ต่างจากการบริจาคเลือดเเบบธรรมดาที่ทำได้ 3 เดือนต่อครั้ง สุดท้ายนี้ก็ขอเชิญชวนทุกคนร่วมบริจาคกันเยอะๆนะครับ สามารถทำได้ทุกศูนย์บริจาคโลหิตทุกที่ สวัสดีครับ THANK YOU