ข้างหลังภาพ คือ นวนิยายประพันธ์โดยศรีบูรพา หรือชื่อจริงว่า กุหลาบ สายประดิษฐ์ เริ่มตีพิมพ์เป็นตอน ๆ ลงใน หนังสือพิมพ์ประชาชาติรายวัน เมื่อ พ.ศ. 2479 เป็นเรื่องราวของความรักต่างวัย ต่างสถานะ นอกจากเรื่องราวที่กินใจแล้ว ภาษาที่ใช้ในเรื่องเป็นภาษาที่งดงาม มีวลีที่เป็นที่ชื่นชอบมากมาย นวนิยายเรื่องนี้เมื่อรวมเล่มได้รับการตีพิมพ์ซ้้าถึง 47 ครั้ง ได้รับการยกย่องในเรื่องความงามในเชิงวรรณศิลป์ และถูกนำไปแสดงเป็นละครโทรทัศน์ ภาพยนตร์ รวมถึงละครเวที ในรูปแบบละครเพลงภาพถ่ายโดย Pixabay จาก Pexels ข้างหลังภาพ เป็นเรื่องราวความรักของผู้หญิงชื่อหม่อมราชวงศ์กีรติ ในขณะที่อายุย่างเข้า 35 ปี ท่านเจ้าคุณ อธิการบดีพ่อหม้ายลูกติด อายุราว 50 ปี แต่ด้วยความหมดหวังจะได้พบผู้ชายที่ดีกว่า เธอจึงตกลงแต่งงานด้วย ถึงแม้งานแต่งงานในครั้งนี้จะไม่ได้เกิดจากความรักแต่ชีวิตของเธอนั้นเปลี่ยนไปได้พบเห็นโลกภายนอกมากยิ่งขึ้นภาพโดย ไทยโพสต์ คุณหญิงกีรติหรือหม่อมราชวงศ์กีรติมีลักษณะสมบูรณ์แบบในเรื่องหน้าตาตามแบบสตรีนิยม ดังตัวอย่าง “หม่อม ราชวงศ์กีรติเป็นคนร่างอวบแต่ว่าไม่ใช่คนใหญ่โต สมบูรณ์และเปล่งปลั่ง ผิวอ่อน ดวงหน้านั้นเมื่อได้สังเกตเห็นโดยใกล้ชิดและ บ่อยครั้ง ก็ยิ่งประจักษ์ในความสวยงามเด่นชัดทวีขึ้น ดวงตาดำใหญ่ภายใต้ขนคิ้วยาว มีน้ำสุกใสหล่ออยู่ในดวงตานั้น แก้มปลั่ง คางเล็กเปิดนิดหน่อยจนมีรอยบุ๋มอันน่าพิศวาสเหนือลูกคางนั้น ริมฝีปากเรียวยาวและเต็ม ประทับด้วยรูปสามเหลี่ยมสีแดงสอง รูปเบื้องบน และอีกรูปหนึ่งที่เบื้องล่าง ท้าให้ริมฝีปากคู่นั้นมีความงามเหนือสิ่งใด ๆ หมด” ( หน้า 12 ) ดังจะเห็นได้จากบทนี้ คือคุณลักษณะหน้าตาผู้หญิงที่สวยงามตามแบบสตรีนิยมด้วยความที่หม่อมราชวงศ์กีรติเป็นแบบอย่างของสุภาพสตรีไทยสมัยสังคมของเราด้วยการอบรมแบบไทย และการเป็นลูกเจ้านายในวัง ทำให้หม่อมหม่อมราชวงศ์กีรติมีลักษณะทาทางมารยาทอ่อนโยน แสดงความนึกคิดอย่างสุภาพและไม่มากเกินกว่าที่สังคมจะยอมรับนิยมผู้หญิงที่เอาใจใส่กับการแต่งตัวบ้ารุงตนเองให้ดูสดชื่น รวมถึงคุณสมบัติของแม่บ้านที่ดีรู้จัก การจัดอาหาร การรับแขกให้สุขสบายไม่เก้อเขิน แบ่งลักษณะคุณสมบัติสตรีที่คุณหญิงกีรติพึงมีดังต่อไปด้านความทรงคุณค่าของสตรีนิยมในคุณหญิงกีรติดังตัวอย่างต่อไปนี้“ พวกผู้ชายมีความเบิกบานใจอย่างยิ่งที่ได้เห็น สุภาพสตรีไทยที่ทรงโฉมประโลมตาอย่างหม่อมราชวงศ์กีรติจากประเทศสยามมาเยือนนครโตเกียว ทำให้เขาทั้งหลายมีความภาคภูมิใจในเมื่อได้ประสบว่าชนชาวญี่ปุ่นได้มองดูสตรีไทยของเราด้วยสายตาแสดงความนิยมชมชื่นในความสวยงามที่อาจลึกซึ้งเกินกว่าความคาดหมายของเขา ” ( หน้า 15 ) ดังจะเห็นได้จากบทนี้ที่ผู้ชายชมคุณหญิงด้วยแววตาชื่นชมในความสวย และความสง่างามตามแบบอย่างสตรีไทยด้านการช่วยเหลือเกื้อกูลของคุณหญิงกีรติที่พึงมีต่อผู้ชาย ดังตัวอย่างต่อไปนี้“ เธอมักจะแสดงความปรานีต่อ ข้าพเจ้าเนือง ๆ เป็นต้นว่าในเวลารับประทานอาหารก็มักจะคอยช่วยเหลือดูแลให้ความสะดวกแก่ข้าพเจ้า ราวกับข้าพเจ้าเป็น เด็ก ๆ ครั้งหนึ่งเธอพบรอยปริที่เน็กไทของข้าพเจ้า เธอได้ขอให้ข้าพเจ้าถอดออกแล้วก็จัดแจงเย็บให้ด้วยตนเอง อีกครั้งหนึ่ง เธอพบโคลนเปื้อนปลายแขนเสื้อของข้าพเจ้า เธอก็เรียกไปแปรงให้”( หน้า 16) ดังจะเห็นได้จากบทนี้ คุณหญิงกีรติคอย ช่วยเหลือนพพรซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สตรีที่พึงมีต่อผู้ชายด้านการกตัญญูต่อพ่อที่ให้กำเนิดแม้พ่อจะบังคับให้แต่งงาน ดังตัวอย่างต่อไปนี้ “ เธอผิดกับฉันตรงกันข้ามในเวลาสงบและในเวลาที่จิตใจหมกอยู่ในความงามของธรรมชาติเช่นเวลานี้ฉันอดคิดสิ่งที่ฉันรักที่สุดไม่ได้ฉันคิดถึงท่านพ่อท่านแม่ และน้อง ๆ ของฉัน ภายในบ้านอันเต็มไปด้วยความสงบสุขคิดถึงชีวิตเมื่อ 10 ปีล่วงมาแล้ว เมื่อเราอยู่กันพร้อมหน้าที่บ้านของ เรา และคิดถึงชีวิตของฉันเองในเวลานั้น ชีวิตที่สมบูรณ์ไปด้วยความสุข และเต็มไปด้วยความหวัง” ( หน้า 36 ) ดังจะเห็นได้ จากบทนี้ ที่คุณหญิงกีรติคิดถึง พ่อ แม่ และน้อง ซึ่งเป็นคุณสมบัติด้านการกตัญญูรู้คุณซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สตรีควรมีด้านกิริยา มารยาท ความเป็นผู้ดีทั้งกาย วาจา ใจ ความฉลาด ดังตัวอย่างต่อไปนี้ “ คุณหญิงฉลาดพูดเหลือเกิน ฉลาดเสียทุกสิ่งทุกอย่าง จนผมตามไม่ทันแม้สักอย่างเดียว " ( หน้า 43 ) ดังจะเห็นได้จากบทนี้ที่นพพรชมคุณหญิงกีรติฉลาดทั้ง ด้านการพูด กิริยามารยาท และหลาย ๆ ด้าน ซึ่งเป็นคุณสมบัติของสตรีที่ฉลาดด้านการแต่งกาย ถ้าผู้อ่านสังเกตจะทราบได้ทันทีเลยว่าเสื้อที่คุณหญิงสวมใส่มักใช้สีน้้าเงิน สีขาว สีด้า ล้วนแต่เป็นสี พื้น ๆ ดังตัวอย่างตอไปนี้ “ สีน้้าเงิน เธอก็บังเอิญแต่งสีเดียวกัน สีน้้าเงิน และมีดวงดอกขาวประดับอยู่ทั่วผืนผ้า ทั้งกระโปรง และเสื้อ เป็นสีที่ไม่ฉูดฉาด แต่ถึงเช่นนั้นก็มีความภาคภูมิและมีสง่าอย่างบอกไม่ถูก ” ( หน้า 10 ) เป็นการแสดงได้อย่างเด่นชัด ถึงเรื่องค่านิยมที่ว่า ผู้หญิงมีวัยล่วงเลยวัยหนุ่มสาวมาแล้ว จะแต่งกายด้วยสีที่ฉูดฉาดเป็นเรื่องไม่สมควร ไม่เหมาะสมด้วยความที่คุณหญิงกีรติเป็นสตรีที่มีคุณสมบัติที่ใครหมายปองหากได้ท้าความรู้จัก จนนพพรต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเอง ดังคำาถามต่อไปนี้“ ข้าพเจ้าเคยพบสตรีคนใดที่ทรงเสน่ห์และความงามยิ่งไปกว่าหม่อมราชวงศ์กรดหรือไม่? ข้าพเจ้า เคยพบสตรีคนใดที่ทั้งอ่อนหวานและฉลาดหลักแหลมยิ่งไปกว่าหม่อมราชวงศ์กีรติหรือไม่? ข้าพเจ้าเคยพบสตรีคนใดที่ได้แสดง ความเอ็นดูปรานและให้ความสนิทสนมแก่ข้าพเจ้ายิ่งไปกว่าที่ข้าพเจ้าได้รับจากหม่อมราชวงศ์กีรติหรือไม่? คำตอบปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นไปในทางปฏิเสธเป็นการปฏิเสธอย่างเด็ดขาดและแน่นอน ”( หน้า 44)ถึงแม้คุณหญิงกีรติจะมีคุณสมบัติความเป็นสตรีที่ทรงคุณค่าหลายด้าน ๆ ตามที่กล่าวมาข้างต้นแล้ว แต่ถ้าผู้อ่านได้ ลองอ่านและเจาะจงลงที่ตัวละครที่ชื่อคุณหญิงกีรติจะพบว่า ด้านความรักนั้นคุณหญิงกีรติไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การ แต่งงานโดยที่ไม่ได้เกิดจากความรัก การถูกบังคับให้แต่งงานคุณหญิงกีรติจึงจำยอมแต่งงาน เพราะต้องการออกจากกรอบที่ผู้ เป็นพ่อได้ตีกรอบไว้ ดังจะเห็นได้จากข้อความ “ วงชีวิตในวัยสาวของฉัน เป็นวงชีวิตที่แคบมาก ฉันไม่มีโอกาสที่จะร่าเริง บันเทิงใจในวัยรุ่นสาวของฉัน ดุจเดียวกับสตรีสาวที่เป็นคนธรรมดาสามัญทั่วไป ฉันไม่ได้ตั้งใจจะแยกตัวฉันออกจากท่าน สุภาพสตรีเหล่านั้นดอก แต่ความจริงฉันได้ถูกแยก ฉันไม่ได้เป็นเจ้าแต่ฉันก็เป็นลูกเจ้า ท่านพ่อของฉันท่านเป็นเจ้านายแท้จริง ในสมัยที่ยังไม่เปลี่ยนการปกครองบ้านเมืองนั้น เธอก็คงจะทราบแล้วว่าเจ้านายท่านเป็นเจ้านายกันจริง ๆ โดยมากท่านอยู่ของ ท่านต่างหากในโลกอีกโลกหนึ่ง ท่านพ่อของฉันก็พยายามที่จะให้ตัวฉันและลูก ๆ ของท่านเป็นเจ้านายเช่นเดียวกับองค์ท่าน ” ( หน้า 73 )การบังคับไม่ได้เกิดแค่ครั้งเดียวแต่ยังมีครั้งต่อไป ดังข้อความต่อไปนี้ “ บางที่ท่านพ่อก็ส่งฉันไปอยู่ในรั้วในวัง รับใช้ เจ้านายใหญ่โตองค์หญิงบางองค์ที่เป็นญาติของเรา ฉันใช้ชีวิตในวัยสาวของฉันในท้านองนี้หลายปีอยู่ในโลกของเจ้านายนาน พอ จนฉันแทบไม่มีโอกาสจะระลึกว่าความเป็นสาวนั้นมีค่าอย่างที่สุดส้าหรับสตรีเพศเพียงใด เราต้องเดินอยู่ในทางแคบ ๆ ตาม จารีตประเพณีขนบธรรมเนียม” ( หน้า 74 ) ดังจะเห็นได้จากบทนี้การบังคับลูกไปอยู่ในวังรับใช้เจ้านายซึ่งเจ้านายส่วนใหญ่ เป็นผู้ชาย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการที่สตรีถูกกดขี่ข่มเหงจากผู้ชายทั้งพ่อและเจ้านายการถูกบังคับไม่ใช่มีแค่ท่านพ่อกับเจ้านายเพียงเท่านั้นการถูกบังคับให้แต่งงานจากเจ้าคุณซึ่งเป็นสามีที่เธอไม่ได้รัก ดังข้อความต่อไปนี้ “ เมื่อฉันได้รับทราบความประสงค์ของเจ้าคุณ ใจฉันหายวาบและเมื่อฉันได้สดับคำแนะน้าวิงวอนของท่าน ที่ทรงขอให้ฉันแต่งงานกับเจ้าคุณ ฉันก็ถึงแก่น้้าตาตกฉันร้องไห้ด้วยความตกใจและด้วยความรู้สึกอย่างอื่นอีกหลายอย่าง ” ( หน้า 79 )ถึงคุณหญิงกีรติจะถูกบังคับจากท่านเจ้าคุณแล้วโดยการให้เห็นใจความชราและความดีรวมถึงพ่อแท้ ๆ บังคับด้วย การพูดถึงปมที่ไม่มีใครเอาลูกสาวเพื่อบีบบังคับลูกเข้าไปอีก ดังข้อความต่อไปนี้ "ลูกหญิง พ่อไม่ได้ดูหมิ่นเธอพ่อเห็นใจเธออย่าง ยิ่ง เธอเป็นลูกที่ดีที่สุดและสวยที่สุดในบรรดาลูกรักของพ่อ พ่อภูมิใจด้วยลูกคนนี้เหลือที่จะพรรณนาได้พ่อทราบดีว่าลูกไม่ คู่ควรกับบุรุษผู้สูงอายุเช่นเจ้าคุณอธิการ พ่อปรารถนาที่จะให้ลูกได้แต่งงานกับชายที่เธอรัก ซึ่งมีตระกูลและวัยสมควรกับตัวเธอ แต่โชคชะตาไม่ให้ความยุติธรรมแก่เธอ พ่อเสียดายความดีความงามของเธอมากแต่บัดนี้ลูกก็มีอายุจะย่างเข้า 35 ปีแล้ว จงแต่งงานเถิดลูกรัก กับบุรุษที่พ่อแนะน้าแม้ว่าจะแก่แต่ก็เป็นคนดี” ( หน้า 79 )ข้อความต่อไปนี้ถือว่าเป็นจุดส้าคัญที่คุณหญิงกีรติมีต่อผู้ชายที่เป็นพ่อ “ ก็ทำไมคุณหญิงไม่กลับไปอยู่กับท่านพ่อ ? “ ฉันอยู่กับท่านมา 35 ปีแล้ว ฉันรักท่านพ่อของฉันอย่างที่สุด ฉันได้ไปเยี่ยมและพักอยู่กับท่านเป็นครั้งคราวบ่อย ๆ แต่ว่าฉัน จะไม่กลับไปมีชีวิตเช่นนั้นอีก ชีวิตที่กดฉันไว้กับความอาภัพแห้งแล้งและขมขื่น จนฉันไม่อาจลืมได้ตลอดชั่วชีวิตของฉัน ” ( หน้า 138 ) ดังจะเห็นได้จากข้อความนี้ ที่คุณหญิงกีรติไม่ต้องการกลับไปหาพ่อ ไม่ให้ตัวเองโดนบีบบังคับจากผู้เป็นพ่อและไม่ ต้องการอยู่ในกรอบแคบ ๆ ที่พ่อตัวเองสร้างไว้รวมถึงกฎระเบียบทางสังคมและมุ่งหมายไปสู่การปลดปล่อยให้ตัวเองให้พ้นจาก การกดขี่เอารัดเอาเปรียบให้สำเร็จจะเห็นได้จากตอนท้าย ที่คุณหญิงกีรติตัวแทนสตรี ในสังคมปัจุบันรวมถึงผู้แต่ง ศรีบูรพา ที่เป็นผู้ชายที่สร้างตัว ละครคุณหญิงกีรติมาเพื่อ ให้สังคมได้รู้ว่าผู้หญิงต้องการ อิสรภาพจากผู้ชาย รวมถึงการบีบบังคับต่าง ๆ การเอารัดเอาเปรียบ จากสังคม ให้สตรีได้ปลดปล่อยและหลุดออกจากอำนาจของผู้ชายเป็นใหญ่ ที่เห็นผู้หญิงเป็นแค่ชายขอบหรือร้ายแรงกว่านั้นที่ เห็นผู้หญิงไม่ใช่คน ภาพโดย se-ed เปิดประสบการณ์ความบันเทิงที่หลากหลายสุดปัง บน App TrueID โหลดเลย ฟรี !