หลังจากที่สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 ประเทศไทยได้มีการรณรงค์ให้ร่วมกัน Social Distancing หรือการเว้นระยะห่างทางสังคมมาระยะหนึ่งแล้วนั้น ปรากฏว่ายังมียอดผู้ติดเชื้อเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลภายใต้การบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) จึงได้มีคำสั่งประกาศเคอร์ฟิว เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2563 โดยห้ามประชาชนทุกคนออกนอกที่พักอาศัยตั้งแต่เวลา 22.00 จนถึงเวลา 04.00 น. เพื่อหวังจะยับยั้งและลดจำนวนการลุกลามของเชื้อไวรัสจากคนสู่คนให้ทุเลาเบาบางลงให้ได้ ขอบคุณภาพประกอบ Jakob Owens / unsplash แต่อย่างไรก็ตาม ก็ได้มีการยกเว้นการบังคับทางกฎหมายให้กับบางอาชีพ และบุคคลที่มีความจำเป็นที่ยังจะต้องเดินทางในเวลาที่กำหนดห้ามไว้ โดยต้องมีเอกสารรับรองความจำเป็นจากหน่วยงาน โดยมีข้อความตามข้อกำหนด ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (ฉบับที่ 2) ดังนี้ 1. ห้ามบุคคลใดทั่วราชอาณาจักรออกนอกเคหสถานระหว่าง 22.00 - 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น เว้นแต่มีความจำเป็น หรือเป็นผู้ปฏิบัติงานด้านการแพทย์ การธนาคาร การขนส่งสินค้าอุปโภคบริโภค ผลผลิตการเกษตร ยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิง การขนส่งพัสดุภัณฑ์ หนังสือพิมพ์ การขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าหรือส่งออก การขนย้ายประชาชนไปสู่ที่เอกเทศเพื่อกักกันตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ การเข้าออกเวรทำงานผลัดกลางคืนตามปกติ หรือการเดินทางมาจากหรือไปยังท่าอากาศยาน โดยมีเอกสารรับรองความจำเป็นหรือเอกสารเกี่ยวกับสินค้าหรือการเดินทาง และมีมาตรการป้องกันโรคตามข้อกำหนด (ฉบับที่ 1) หรือเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามข้อกำหนด ประกาศ หรือคำสั่งต่างๆ ของทางราชการ หรือมีเหตุจำเป็นอื่นๆ โดยได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ 2. ในกรณีที่มีการประกาศหรือสั่ง ห้าม เตือน หรือแนะนำในลักษณะเดียวกับข้อ 1 วรรคหนึ่ง สำหรับจังหวัด พื้นที่หรือสถานที่ใด โดยกำหนดเงื่อนไขหรือเงื่อนเวลาที่เข้มงวดหรือเคร่งครัดกว่าข้อกำหนดนี้ ให้ปฏิบัติตามประกาศหรือคำสั่งนั้นต่อไปด้วย 3. ในกรณีที่ไม่อาจเคลื่อนย้ายบุคคลใด ซึ่งอยู่ระหว่างการเดินทางเพื่อออกไปนอกราชอาณาจักรได้ ให้คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดหรือคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จัดที่เอกเทศเพื่อควบคุมหรือกักกันบุคคลดังกล่าว เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคตามเงื่อนไขและระยะเวลาที่กำหนด ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน พ.ศ.2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง โดยภาครัฐได้จัดให้มีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ตั้งจุดตรวจตามสถานที่ต่าง ๆ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย และตรวจตราการฝ่าฝืนพระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน เพื่อเป็นการการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดนั้น ก็ได้มีบทบัญญัติลงโทษตามกฎหมายไว้ หากฝ่าฝืนคำสั่งจะต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ขอบคุณภาพประกอบ Slleong สัญญาอนุญาต CC0 1.0 แต่ทั้งนี้ก็อยากจะให้เข้าใจกันด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปกติจริง ๆ และเป็นวิกฤตการณ์ที่ไม่เคยพบเจอกันมาก่อน การประกาศเคอร์ฟิวนั้นก็เพื่อหวังจะควบคุมผู้ติดเชื้อไวรัส และลดจำนวนของผู้ติดเชื้อไวรัสรายใหม่ เพื่อที่จะทำให้ประเทศไทยกลับเข้าสู่สถานการณ์ปกติให้เร็วที่สุด การใช้กฎหมายอาจจะเป็นเพียงมาตรการภาคบังคับที่รัฐจำเป็นต้องนำมาปรับใช้ แต่ความร่วมมือของประชาชนทุกคนนั่นต่างหาก ที่จะช่วยให้วิกฤติจากโรคระบาดในครั้งนี้ของประเทศไทยเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น #อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ขอบคุณภาพประกอบ pxhere ภาพปกโดยผู้เขียน