เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน หลายคนคงคิดถึงการเดินทางไปกับธรรมชาติและเม็ดฝน บ้านแสงภา อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ ที่สัญญาณโทรศัพท์บางค่ายยังเข้าไม่ถึง ยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบููรณ์ มีความเงียบ สงบ เหมาะแก่การมาพักผ่อน และนอนฟังเสียงฝน สูดอากาศบริสุทธ์ เติมพลังชีวิต แล้วกลับไปทำงานอยากมีความสุข เช้าวันแรก ผมได้เดินทางออกจากจังหวัดอุดรธานี มุ่งหน้าสู่อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ระหว่างทางท้องฟ้าครึ้ม มีฝนรินเกือบตลอดทาง ช่างเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมกับการมาพักผ่อนจริง ๆ ก่อนถึงจุดหมายอำเภอนาแห้ว จะสังเกตเห็นหุ่นผีตาโขนทั้งสองข้างทาง เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมของอำเภอด่านซ้าย ซึ่งในทุก ๆ ปี จะมีเทศกาลผีตาโขน เราจึงได้แวะพักดื่มกาแฟที่ "ร้านบ้านเดิ่น เค้ก และคอฟฟี่" ร้านกาแฟที่ตกแต่งแบบเรียบง่าย อยู่ในตัวอำเภอด่านซ้าย มีเมนูกาแฟที่หลากหลาย หากมีโอกาสแนะนำให้มาลองดื่มครับ เมื่อเติมพลังแล้วก็พร้อมออกเดินทางสู่จุดหมาย อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย เส้นทางเริ่มคดเคี้ยว ขึ้นเขาและลงเขา ผ่านภูเขาน้อย ใหญ่ รถเล็กสามารถไปได้แต่ต้องขับด้วยความระมัดระวัง ตลอดสองข้างทางมีวิวที่สวยงามพร้อมรอให้ผู้ที่มาเยือนได้มาเห็นด้วยตาตนเอง ใช้เวลาขับรถราว 1 ชั่วโมง จากอำเภอด่านซ้ายก็มาจุดหมายอำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย หลายคนอาจไม่ทราบว่า อำเภอนาแห้วเป็นอำเภอชายแดนที่ติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ใช่แล้วครับ...นาแห้วเป็นอำเภอชายแดนโดยมีแม่น้ำเหืองกั้นระหว่างแผ่นดินสองประเทศ ซึ่งชาวบ้านที่นี่จะใช้แพไม้ไผ่ข้ามฝั่งไปมาหากัน ในช่วงน้ำลดก็อาจใช้แผ่นไม้วางแล้วเดินข้ามไปได้เลย หากจะไปเที่ยวฝั่งลาวต้องแลกบัตรประชาชน และทำใบผ่านแดนชั่วคราวระบุว่า ไปเที่ยววัด-ทำบุญ จากนั้นก็ข้ามฝั่งเดินเท้าไปเที่ยววัดบริเวณใกล้ ๆ วัดศรีโพธิ์ชัย ตั้งอยู่ที่บ้านแสงภา เป็นวันที่เก่าแก่อีกแห่ง สร้างในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีอายุราว 470 ปี เริ่มสร้าง พ.ศ. ๒๐๙๐ ตั้งวัดเมื่อ พ.ศ. ๒๓๗๕ โดยกลุ่มนายพรานจากเวียงจันทร์มีหัวหน้าชื่อนายภา (เชียงภา) ซึ่งอพยพครอบครัวและญาติพี่น้องมาตั้งถิ่นฐานเป็นปึกแผ่นแล้วสร้างวัดขึ้นตั้งชื่อว่า "วัดศรีโพธิ์ชัย" ชาวบ้านเรียกว่าวัดบ้านแสงภา ภายในอโบสถ์ประดิษฐานพระประธานที่ชาวบ้านเรียกกว่า "หลวงปู่ใหญ่" เป็นอีกหนึ่งจุดเมื่อได้มานาแห้วแล้วจะต้องแวะสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคล และหากชมวิวรอบ ๆ วัด จะสามารถมองเห็นภูเขาล้อมรอบได้อย่างสวยงาม เช้ามืดของวันที่สองฝนได้ตกอย่างหนัก ทำให้บรรยากาศยิิ่งชุ่มฉ่ำมากขึ้น ช่วงสาย ๆ เรามุ่งหน้าสู่อุทยานแห่งชาติภูสวนทรายอยู่ไม่ไกลนักจากที่พักในตัวอำเภอนาแห้ว ระหว่างการเดินทางมีหมอกให้เห็นตามทิวเขาช่างสวยงามเหลือเกิน ก่อนถึงอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ยังมี "น้ำตกคิ้ง" อยู่ติดถนน สามารถจอดรถและเดินลงมาชมน้ำตกหรือลงเล่นน้ำได้ แต่เนื่องจากช่วงเช้ามืดฝนได้ตกลงอย่างหนัก ทำให้น้ำตกมีสีแดงเหมือนดินโคลน จึงมีป้ายห้ามลงเล่นน้ำในช่วงนี้เพราะกระแสน้ำไหลเชียว แต่แค่ยืนชมเฉย ๆ ก็สวยงามแล้วครับ จากน้ำตกคิ้งไม่นานเราก็มาถึงอุทยานแห่งชาติภูสวนทราย ชื่อ "ภูสวนทราย" ตั้งตามภูเขาท่ีโดดเด่นที่สุดในเขตอุทยาน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จุดชมวิว และน้ำตกให้เดินชม หากมีเวลาแนะนำให้มาพักค้างคืนที่อุทยานครับ ในวันที่มายังไม่มีผู้คนมาท่องเที่ยว เนื่องจากอุทยานยังไม่ได้เปิดให้เข้าชม เพราะสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 จึงไม่ได้ลงรถมาเดินชมได้แต่ถ่ายภาพมาครับ ก่อนเดินทางกลับได้แวะจุดชมวิวภูหัวฮ่อม สามารถมองเห็นทิวเขาได้สวยงามมาก ๆ ครับ แต่ยืนชมได้ไม่นานฝนก็ได้ตกลงมา ทำให้เราต้องขับรถไปต่อครับ ฮ่า ๆ ระหว่างทางมาร้านกาแฟ เป็นทางลงเขาลาดชัน ประกอบกับมีฝนตกอาจทำให้ถนนลื่น ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถในฤดูฝนแบบนี้ครับ แต่เมื่อมาถึงร้านกาแฟบ้านบ่อ (แมคเลย แมคคาเดเมีย) เป็นร้านที่อยู่ในพื้นที่ศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงการปลูกและแปรรูปแมคคาเดเมีย ภายในร้านจะมีผลิตภัณฑ์จากแมคคาเดเมีย บรรยากาศดี ด้านนอกเห็นโรงอบพลังแสงอาทิตย์ที่อบแมคคาเดเมียอยู่ใกล้ ๆ หากได้ดื่มกาแฟหอม ๆ อร่อย ยิ่งเพิ่มความรู้สึกของการมาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่เลย สุดท้ายนี้้หลายคนอาจรู้จักแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดเลยมากมาย เช่น ภูกระดึง ภูเรือ หรือ ภูลมโล แต่หากอยากได้บรรยากาศของความเงียบ สงบ ผู้คนไม่พลุกพล่าน มาเติมพลังไปกับธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ผมแนะนำให้มาที่อำเภอนาแห้ว จังหวัดเลย ครับ อำเภอชายแดนเล็ก ๆ ที่รายล้อมไปด้วยภูเขาที่สวยงาม เมื่อได้มาแล้วจะต้องหลงรักและชื่นชอบแน่ ๆ ครับ หมายเหตุ รูปภาพในบทความทั้งหมดเป็นภาพถ่ายโดยผู้เขียน