พูดถึง " นาข้าว " ทุกคนก็ล้วนนึกถึงพืชทางเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างแน่นอน ใช่ครับ วันนี้ผม " ทิวเขาเงาตะวัน " จะมาเล่าเรื่องราวของนาข้าว แต่ไม่ใช้เกี่ยวกับเศรษฐกิจหรือผลผลิตทางการเกษตร แต่มาเล่าถึงภูมิปัญญาที่มีเสน่ห์ หลายคนถาม มีเสน่ห์ยังไง ก็เห็นชาวนาหลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ทำงานหนักมีเสน่ห์ตรงไหน อยากจะบอกทุกคนอย่างนี้นะครับ เราอย่าตัดสินอะไรจากสิ่งที่เรามองเห็น ในทุกอาชีพทุกการทำงานล้วนมีเสน่ห์ซ้อนไว้อยู่ภายใน เราเพียงแค่เปิดใจลองเข้าไปเรียนรู้กับสิ่งนั้น งั้นถ้าทุกคนอยากรู้เเล้วว่าเสน่ห์ของภูมิปัญญานี้อยู่ตรงไหนไปติดตามกันเลยครับ (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay) สำหรับภูมิปัญญาไทยในการทำนาข้าวของชาติไทยเรามีมาตั้งแต่อดีตแล้ว เพราะประเทศไทยหรือสยามของเราได้รับการขนานนามว่าเป็นเมืองอู่ข้าวอู่น้ำที่สำคัญของการตั้งอาณาจักร และคงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้เกิดการต่อสู้เพื่อครอบครองเมืองสยาม ซึ่งประเด็นนั้นเราจะไม่ลงรายละเอียดมากนัก เเต่จะพาทุกคนไปรู้จักวัฒนธรรมการทำนาของชาวนาที่สืบทอดภูมิปัญญาวัฒนธรรมนี้มาแต่โบราณ สำหรับการทำนาของชาวนาโบราณสิ่งที่ทุกคนจะได้เห็นกันก็คือการไหว้พระเเม่โพสพเพื่อทำการขอปลูกข้าวลงในนานี้ ให้ท่านช่วยดูแล ( คำเตือน : โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ) เมือทำพิธีเสร็จก็จะมีการปลูกข้าว ซึ่งจะมีหลายแบบด้วยกัน แต่ถ้าพูดถึงเสน่ห์แล้ว ก็ต้องเป็นการดำนาแบบ ลงแขกดำนา ซึ่งเจ้าของที่จะเพาะกล้ามาก่อนจากนั้นถึงจะนำมาแบ่งแล้วช่วยกันดำ หรืออีกวิธีหนึ่งที่เป็นเสน่ห์เหมือนกันก็คือ การโยนกล้า ซึ่งคล้าย ๆ กับการดำนาแต่การโยนกล้าเราจะทำการโยนไปเลยไม่ต้องเดินไปปักทีละจุดแบบดำนา เมื่อดำนาปลูกข้าวเสร็จก็ต้องมาคอยดูวัชพืช (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay) (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay) (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay) หลายคนสงสัยว่าวัชพืชมันมามีเสน่ห์ได้อย่างไร มีเสน่ห์ตอนเรากำจัดมันนี่แหละ แต่โบราณยังไม่มีสารเคมี ก็จะเอาปลามาปล่อยให้มันคอยกำจัดพวกวัชพืชต่าง ๆ ยิ่งตอนที่ปลาตัวโตแล้ววิ่งไล่จัดท่ามกลางฝนตกนั้น ยิ่งมีความสนุกมากเหลือเกินในช่วงวัยเด็ก เสน่ห์ต่อมาของนาข้าวก็คือ หุ่นไล่กา ซึ่งเป็นซิกเนเจอร์เลย เขาจะเอาฟางข้าวมามัดให้คลายคนจากนั้นจะใส่หมวก เสื้อ ให้ดูเหมือนว่ามีคนยืนอยู่กลางท้องนา พอข้าวใกล้ที่จะได้เวลาเก็บเกี่ยวก็จะมีการทำพิธีทำขวัญข้าว ซึ่งจะทำขึ้นเพื่อสร้างกำลังใจและเป็นวิธีบอกกล่าวขอเชิญชวนคนที่มาร่วมงานมาช่วยกันเกี่ยวข้าว เสน่ห์ที่ดูทุกคคนจะรู้สึกมีความสุขเป็นพิเศษก็คือการเกี่ยวข้าวนี่แหละ ซึ่งปัจจุบันเราใช้รถเกี่ยว แต่อดีตแล้วเราใช้เคียวเกี้ยวข้าวมาร่วมลงแขก หรือการร่วมด้วยช่วยกันของคนหลาย ๆ คน ซึ่งก็จะมีเสน่ห์ก็คือเสียงเพลงเกี้ยวพาราสีกันไปมาระหว่าเกี่ยวข้าว ซึ่งทำให้เพลิดเพลินลืมอาการเหนื่อยไปเลย (เครดิตภาพ : เว็บไซต์ Pixabay) เห็นไหมครับตั้งแต่เริ่มปลูกข้าวยันเก็บเกี่ยวในทุกขั้นตอนต่างมีเสน่ห์ด้วยกันทั้งหมด ซึ่งเป็นมนต์เสน่ห์ที่รู้สึกถึงกลิ่นไอของชนบทที่มีความลูกทุ่งนิด ๆ ถ้าอยู่ไกลบ้านอ่านแบบนี้แล้วทิวเขาว่ามีคิดถึงบ้านกันแน่ ๆ มีคนถามว่า อาชีพที่ผมทำมันมีเสน่ห์หรือเปล่า ทิวเขาว่าอยู่ที่มุมมองของเราว่าเราเข้าถึงสิ่งนั้นหรือเปล่า ทิวเขาเชื่อนะครับว่าทุกอาชีพล้วนมีเสน่ห์ อย่าพึ่งท้อหรือรู้สึกเบื่อกับงานที่เรากำลังทำ ให้ลองมองหาหรือทบทวนดูว่างานนั้นมันมีเสน่ห์อยู่ตรงไหน ขอบคุณภาพหน้าปก : เว็บไซต์ Pixabay)