นั่งรถไฟ ในไร่ชา และพากินปูยักษ์ ที่ศรีลังกา ฉันไม่มีวันที่จะไปเที่ยวประเทศที่เหมือนเมืองไทย นี่เป็นความคิดที่มีต่อประเทศศรีลังกาของฉัน เพราะเห็นจากรูป มีช้าง มีป่า มีต้นมะพร้าว มีวัดพุทธ แล้วฉันจะต้องไปดูอะไรที่เหมือนบ้านตัวเองเพื่ออะไรกัน แล้ววันหนึ่งความคิดก็เปลี่ยนไป วันที่จู่ ๆ ก็นึกอยากไปเยือนศรีลังกา เพราะคนรอบข้างบอกว่าเป็นประเทศที่ควรไป ฉันกับสามีเลยจัดการจองตั๋ว แล้วเดินทางไปที่โคลอมโบ เมืองหลวงของศรีลังกา เราสองคนจ้างคนขับรถและพาเราไปพักที่เมืองชายทะเล ไม่ไกลจากสนามบินในคืนแรก ชื่อเมืองนิกัมโบ วันถัดมา คนขับพาเราไปชมตลาดปลา กลิ่นอาหารทะเลคละคลุ้งทันทีที่เราลงจากรถ ปลาตากแห้งวางเต็มพื้น ปูตัวใหญ่สีดำถูกมัดไว้ ผู้คนต่างดูยุ่งกับการทำความสะอาดปลาตรงหน้า พ่อค้าแม่ค้าเหงื่อไหลไคลย้อย แต่ทุกคนกลับมีสีหน้ายิ้มแย้ม ทำให้ฉันนึกถึงผู้คนในเมืองไทย สิ่งหนึ่งที่ฉันคิดว่ามีความคล้ายแต่ก็มีความต่างกับเมืองไทยคืออาหาร ฉันชอบอาหารของที่นี่มาก มีความเป็นแกงกะทิไทย บวกกับแกงกะหรี่อินเดีย อาหารเช้าที่หน้าตาเหมือนขนมครกยักษ์ ชื่อ Egg Hopper ก็เป็นเมนูโปรดของฉันในทริปนี้ เรานั่งรถไปที่เมือง Nuwara Eliya เมืองที่มีภูเขาน้อยใหญ่ เหมาะแก่การปลูกชา เมืองที่ได้ชื่อว่า Little England เพราะมีสถาปัตยกรรมของของอังกฤษหลงเหลืออยู่ เช่นที่ว่าการไปรษณีย์ เราเดินชมตลาด ที่ข้าวของไม่ต่างจากเมืองไทยมากนัก มีขายหมากพลูกันด้วยให้ความรู้สึกคิดถึงบ้านขึ้นไปอีก ทะเลสาบยามเย็นของที่นี่ ให้ความรู้สึกสงบ และผ่อนคลาย ทั้งนักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่น ต่างมานั่งเล่นนอนเล่นกันอยู่ที่ริมทะเลสาบแห่งนี้ อากาศเย็น ๆ ลมพัดเอื่อย ๆ พาใจเป็นสุข วันถัดไปเรานั่งรถไฟจาก Nuwara Eliya เพื่อไปที่เมือง Ella สถานีรถไฟยังดูโบราณ เราเลือกนั่งกันที่ชั้นหนึ่ง ซึ่งดูสะอาดและสะดวกที่สุด แต่ก็ไม่ได้ดูหรูหราอะไร ถนนหนทางระหว่างทางในตอนแรก ก็ดูธรรมดา จนผ่านไปสักราวยี่สิบนาที ที่ฉันรู้สึกเหมือนหลุดออกไปอีกโลกหนึ่ง เรามองเห็นไร่ชาเขียวอยู่บนเนินเขา ผู้คนแบกตะกร้าใส่หลัง หลังจากเก็บชาเสร็จแล้ว ไอหมอกจาง ๆ เหนือภูเขา ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่บนสวรรค์ มันดูอัศจรรย์ ไม่เหมือนที่ไหนที่ฉันเคยไป ฉันลืมความคิดตัวเองที่เคยบอกว่า ศรีลังกาเหมือนเมืองไทย ทำไมฉันจะต้องไปด้วย ฉันไม่อยากให้การเดินทางครั้งนั้นสิ้นสุด มันอิ่มเอมกับสิ่งที่มองเห็นยิ่งนัก จนเราไปถึงที่ Ella เมืองเล็ก ๆ แต่ก็ไม่ทำให้ฉันผิดหวัง ที่พักของเรามองเห็นวิวภูเขาเขียว มาศรีลังกาครั้งนี้ ฉันเห็นลิงเยอะมาก วิ่งซุกซนไปมา แต่ดูน่ารัก กิจกรรมที่นี่ของฉันก็เช่นเคย ลองอาหารของที่นี่ เราลองไปที่ร้านที่ได้รับคำแนะนำจากในอินเตอร์เนต เป็นร้านให้ความรู้สึกเหมือนไปกินข้าวบ้านญาติ เจ้าของร้านดูใจดี เราสั่งอาหารตามที่เจ้าของร้านแนะนำ มีเครื่องเคียงเต็มไปหมด และอร่อยมากสมกับได้รับคำชมมากมาย ฉันโชคดี ที่ปรับตัวกับอาหารท้องถิ่นได้ไว เพราะหากคุณเป็นคนกินยากแล้วล่ะก็ อย่าคิดว่าจะมีฟาสต์ฟู้ดให้คุณได้ทาน เพราะที่นี่ทุกอย่างอิงกับคนในพื้นที่เท่านั้น ก่อนเดินทางกลับ เราพักในเมืองหลวงคือโคลอมโบหนึ่งคืน เราเลือกไปทานร้านอาหารที่มีชื่อเสียง ชื่อ Ministry of crab ถ้าได้มาศรีลังกา ไม่ควรพลาดการกินปูที่นี่ เพราะเป็นของขึ้นชื่อ ร้านดูหรูหรา และราคาค่อนข้างสูง แต่การบริการและอาหารก็สมกับราคา เราสั่งปูในซอสพริกไทยดำ และกุ้งอบในซอส เนื้อปูแน่น หวาน เราจิ้มขนมปังลงในซอสพริกไทยดำ รสชาติกลมกล่อม หอมพริกไทย ส่วนกุ้งก็เนื้อสดแน่น สั่งสองอย่างแต่แทบจะทานไม่หมด เพราะขนาดจานค่อนข้างใหญ่ แต่เราสองคนก็ประทับใจกับร้านนี้มาก ๆ และอยากแนะนำให้ทุกคนได้มาลอง ตอนนี้ฉันเปลี่ยนความคิดต่อศรีลังกาไปสิ้นเชิง ฉันคิดว่าไม่มีที่ไหน เหมือนกันไปซะทั้งหมด ทุกที่ต่างมีจุดเด่นของตัวเอง เปรียบเหมือนคน ที่มีความสวยงามต่างกันไป เป็นเอกลักษณ์ของใครของมัน ศรีลังกาก็เช่นกันไม่มีทางที่จะเหมือนไทยร้อยเปอร์เซนต์ และฉันก็จะกลับไปอีกสักครั้ง