นอนท่าไหนดีที่สุด นอนท่าไหนดีที่สุด ถ้าเป็นคำถาม?เราก็คงจะตอบไม่ได้ เพราะแต่ละวันบางคนก็เหนื่อยเหลือเกิน หัวถึงหมอนก็หลับแล้ว แม้กระทั่งผู้เขียนเองก็ตาม ก็ยังไม่รู้ว่านอนหลับตอนไหน แต่ถ้านอนให้ถูกท่าก็เป็นสิ่งสำคัญ ที่จะช่วยให้เราหลับได้ดี คนส่วนใหญ่ส่วนมากจะนอนท่าตะแคง แต่ถ้าเจ็บป่วยก็คงต้องเปลี่ยนท่านอนซึ่งจะเป็นท่าไหนก็ได้ ที่ช่วยลดอาการบาดเจ็บ วันนี้ผู้เขียนจะมาแนะนำ ท่านอนที่คนส่วนมากใช้นอนมากที่สุดในการนอนตอนกลางคืน แต่ถามว่าท่านอนเหล่านี้ถูกต้องหรือไม่ วันนี้จะมาแนะนำท่านอนที่ถูกต้องและควรจะทำอย่างไรให้หลับสนิท หลับสบายตลอดทั้งคืน และอาหารที่ควรหลีกเลี่ยงเพื่อให้นอนหลับสบาย เพราะปัญหานอนไม่หลับ เป็นเรื่องใหญ่เพราะเป็นสาเหตุของโรคปวดศีรษะ โรคความดันโลหิตสูง และโรคซึมเศร้าติดตามมา ซึ่งมี 3 ท่าหลักๆ 1.ท่านอนตะแคง 2.ท่านอนหงาย 3.ท่านอนคว่ำ แต่ถ้าพูดถึงคนปกติ คิดว่าคนส่วนใหญ่คนจะตอบว่า นอนท่าหงายมากที่สุด แต่บางคนอาจจะตอบว่า ท่านอนตะแคง จะเป็นท่าที่สบายที่สุด ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ วิธีการนอนในท่า ทั้ง 3 นี้ อย่างถูกวิธีท่านอนที่ถูกวิธีทั้ง 3 ท่าท่านอนตะแคง การนอนตะแคงแบ่งออกเป็นตะแคงขวา ตะแคงซ้าย เนื่องจากหัวใจของคนเราอยู่ทางด้านซ้าย เพื่อป้องกันไม่ให้หัวใจถูกกดทับดังนั้นการนอนท่านอนตะแคงขวาจึงเหมาะสมกว่า หากนอนตะแคงซ้าย ลำตัวข้างซ้ายจะถูกกดทับ ส่งผลต่อการทำงานของหัวใจ แต่ถ้าการนอนตะแคงขวา ก็จะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ ท่าที่ถูกและการนอนตะแคงขวา ควรให้แขนขวา ยื่นตรงไปด้านข้างหน้า อย่าให้ถูกทับอยู่ใต้ลำตัว เท้าซ้ายงอ ท่านอนตะแคงขวา เหมาะสำหรับผู้มีอาการนอนไม่หลับ วิตกกังวลท่านอนหงาย การนอนหงายในทางหลักการแล้ว เป็นท่าที่ทำให้กระดูกสันหลังถูกกดทับน้อยที่สุด แต่หากนอนหงายตลอดคืน กล้ามเนื้อทั่วตัว จะไม่ได้ผ่อนคลายอย่างเต็มที่ และอาจส่งผลต่อการหายใจ โดยเฉพาะคนที่มีรูปร่างค่อนข้างอ้วน การนอนหงายจะทำให้คนที่มีรูปร่างอ้วนกรนได้ง่าย การนอนน้อยจะทำให้ คนที่ชอบนอนหงาย จึงควรเลือกหมอนและฟูกนอนให้เหมาะสม3. วิธีนอนคว่ำ คนจำนวนมากไม่เลือกนอนคว่ำ เพราะการนอนคว่ำเป็นเวลานาน จะกดทับการหายใจและการไหลเวียนเลือด ดังนั้นคนที่เป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และหลอดเลือดสมองอุดตัน ไม่ควรนอนคว่ำ แต่ถ้าเป็นคนที่ร่างกายแข็งแรง และมีปัญหานอนไม่หลับ การนอนคว่ำจะทำให้เกิดความรู้สึกว่า ปลอดภัยกว่า ดังนั้นเวลานอนคว่ำ ให้เราใช้หมอนเรียงหน้าไปทางซ้าย ก็จะช่วยให้หลับเร็วขึ้น แต่ความจริงแล้ว เวลานอนหลับ ร่างกายจะเปลี่ยนท่านอนเอง และอาจจะขยับไปทั้ง 3 ท่า แต่การนอนในท่าที่เหมาะสม จะช่วยให้หลับได้เร็วขึ้น การแก้ปัญหานอนไม่หลับการแก้ปัญหานอนไม่หลับ ก็มีวิธีหลายอย่าง แต่ที่คนส่วนมากน่าจะรู้แล้ว ผู้เขียนจะมาเล่าให้ฟังอีกที สำหรับผู้ที่นอนไม่หลับ ควรจะรู้เรื่องนี้งดเครื่องดื่ม ที่มีคาเฟอีน แอลกอฮอล์ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน เช่น น้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม และเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์มีการพิสูจน์แล้วว่า รบกวนเวลา การนอนหลับ ทำให้เกิดความรู้สึกอ่อนเพลีย แทนที่นอนหลับแล้ว เช่น กาแฟวันหนึ่งไม่ควรดื่มเกินวันละ 2 แก้ว โดยเฉพาะผู้ที่นอนหลับยาก ควรงด2. ก่อนนอนไม่ควรทานอาหารมากเกินไป ไม่ควรทานอาหารอิ่มเกินไป หรือบริโภคอาหารมันเกินไป ซึ่งจะทำให้นอนหลับยากและรบกวนการนอนหลับ3. รับประทานอาหารที่มีวิตามิน และแร่ธาตุ ฟอสฟอรัส วิตามินที่ช่วยในการนอนหลับได้ดี มีวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 ช่วยในการขจัดความ กระวนกระวาย แคลเซียมและแมกนีเซียม เป็นเสมือนยาระงับประสาท ตามธรรมชาติ ช่วยผ่อนคลายความกังวลและหลับง่าย วิตามินซีในผลไม้ จะช่วยในการดูดซึมแคลเซียม แก้ปัญหากล้ามเนื้อเกร็ง และนอนไม่หลับ4. ลดอาหารที่ใช้เครื่องปรุงเป็นประจำ ที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ง่าย สำหรับผู้ที่แพ้ ต่อผงชูรส ผงปรุง และอาหารที่ทำให้แพ้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาการนอนหลับยาก จากประสบการณ์ของผู้เขียนการนอนไม่หลับหรือหลับไม่เพียงพอ ผู้เขียนก็จะเคยลองลดขนาดของกาแฟที่ทานแต่ละวัน จาก 2 แก้วเหลือ 1 แก้ว และก็ออกกำลังด้วยการวิ่งครับ พอให้ได้เหงื่อๆแค่นี้ตอนเย็นก็หลับสบายแล้วครับ อย่าปล่อยให้นอนไม่หลับหรือนอนไม่พอเพราะอาจจะเป็นสาเหตุของความเครียด หงุดหงิด ตอนนี้ผู้เขียนก็ง่วงแล้วเพราะการอ่านหนังสือหรือเขียนหนังก็ทำให้ง่วงได้ครับ ขอเวลาไปพักผ่อนก่อนนะครับ ขอบคุณภาพ (ภาพปก/ภาพที่1/ภาพที่2/ภาพที่3)