เวลาพวกเราทำงานนั่งจ้องหน้าจอเป็นเวลานานๆ อยากจะพักสายตาบ้าง ก็มองออกไปไกลนอกหน้าต่างและนั่งทอดอารมณ์กับท้องฟ้าสีฟ้าสวยสดใส แต่งแต้มด้วยเมฆที่ลอยบางเบาดุจปุยนุ่น วันไหนที่อากาศไม่เป็นใจท้องฟ้าก็ดูหม่นหมองเป็นสีเทา หรือพอตกเย็นท้องฟ้าก็กลับเปลี่ยนเป็นสีแดง แล้วทุกคนเคยสงสัยกันบ้างมั้ยคะ ว่าทำไมท้องฟ้าถึงเปลี่ยนสีได้และทำไมท้องฟ้าในแต่ละประเทศถึงมีเฉดสีฟ้าที่แตกต่างกันไปโลกเรานี้มีแสงสว่างได้จากดวงอาทิตย์อันเป็นศูนย์กลางของระบบสุริยจักรวาล ซึ่งปกติแล้วเราจะมองเห็นแสงอาทิตย์เป็นสีขาวใช่มั้ยคะ แต่ที่จริงแล้ว แสงอาทิตย์นั้นประกอบด้วยสีทั้งหมด 7 สีแบบที่เรามองเห็นรุ้งกินน้ำ และแสงแต่ละสีนั้นก็มีความยาวคลื่นของแสงที่ไม่เท่ากันเมื่อแสงอาทิตย์นั้นผ่านบรรยากาศของโลกลงมา ความยาวคลื่นของแสงสีแดง เหลือง และเขียว (ซึ่งรวมกันอยู่และมีสีค่อนข้างขาว) มีลักษณะคลื่นที่สามารถผ่านตรงเข้าสู่ดวงตาของเราได้ทันที ส่วนแสงสีน้ำเงินและม่วงนั้นจะมีขนาดความยาวคลื่นที่ไปกระทบและสะท้อนกับโมเลกุลของก๊าซในอากาศ ทำให้คลื่นแสงสีน้ำเงินและม่วงนั้นแยกตัวออกมาจากแสงสีอื่น และกระจายตัวออกไปทุกทิศทุกทางในท้องฟ้า เป็นเหตุผลที่ตาของคนเรามองเห็นท้องฟ้าเป็นสีฟ้านั่นเองแล้วทำไมเราจึงไม่เห็นท้องฟ้าเป็นสีม่วงทั้งๆที่แสงสีม่วงกระจายตัวออกพร้อมๆกับแสงสีน้ำเงิน นั่นเพราะแสงสีม่วงมีความยาวคลื่นแสงที่ไม่สามารถผ่านชั้นบรรยากาศด้านบนลงมาได้หมด และตาของมนุษย์ก็ไม่ได้ไวต่อแสงสีม่วงมากเท่ากับแสงสีน้ำเงินค่ะส่วนในตอนเย็นที่พระอาทิตย์ตก พระอาทิตย์จะอยู่ใกล้เส้นขอบโลกมากขึ้นทำให้แสงอาทิตย์นั้นทะลุผ่านชั้นบรรยากาศที่มีอนุภาคต่างๆที่ค่อนข้างใหญ่ เช่น ฝุ่น มลพิษ และไอน้ำที่ระเหยอยู่ในอากาศ ซึ่งจะสะท้อนและกระจายแสงสีแดงและเหลืองได้ดี จนบางครั้งท้องฟ้าทางตะวันตกในยามเย็นนั้นเป็นสีแดงราวกับลูกตำลึงเลยทีเดียวแต่ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหนหรือท้องฟ้าจะเปลี่ยนสีไปวันละกี่รอบ ท้องฟ้านี้ก็ยังคงเป็นท้องฟ้าผืนเดิมของเราไม่เคยเปลี่ยนค่ะ พวกเราทุกคนมีส่วนช่วยกันหยุดสร้างมลพิษทางอากาศต่างๆเพื่อจะช่วยให้ท้องฟ้าผืนนี้สดใสไปอีกนานแสนนานค่ะ อ้างอิง : https://scijinks.gov/blue-sky/ภาพปก : icon0.com from Pexelsภาพประกอบ :1. Jess Vide from Pexels2. Alena Darmel from Pexels3. enakshi mukhopadhyaya from Pexels